โจรใช้แผนล่อ บึมตร.กระเด็น

เมื่อวันที่ 26 ต.ค. พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า พล.ท.วิโรจน์ บัวจรูญ แม่ทัพภาคที่ 4 ดูแลปัญหาภาคใต้อยู่ โดยในส่วนของความมั่นคง นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ดูแลรับผิดชอบ เมื่อถามว่า มีการเสนอถอนฟ้องคดีที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส หรือไม่ พล.อ.บุญรอดกล่าวว่า นายกฯสั่งการให้องค์กรที่จัดตั้งขึ้นมาใหม่เตรียมพร้อมทำงานในช่วงต้นเดือน พ.ย.นี้

เมื่อถึงเวลานั้นจะเป็นหน้าที่ ขององค์กรใหม่ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์อำนวยการบริหารจัดการจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) หรือกองกำลังผสมพลเรือน ตำรวจ ทหารที่ 43 (พตท.43) ซึ่งนายกฯได้ ให้นโยบายไปแล้วว่าต้องการสร้างความสมานฉันท์ และให้ความเป็นธรรมกับผู้ต้องหา เมื่อถามว่า ศอ.บต.และพตท.43 ยังใช้กำลังพลจากภาคอื่นต่อไปหรือไม่ พล.อ.บุญรอดกล่าวว่า ขณะนี้มีการเตรียมกำลังทหารพรานเพิ่มขึ้นมาอีก 30 กองร้อย จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ กองกำลังจากกองทัพภาคอื่น

พล.ท.จักรกฤษณ์ อินทรทัต โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงข่าวภายหลังการประชุมสภากลาโหมว่า ที่ประชุมสภากลาโหมได้รับทราบแนวทางการปฏิบัติงานของกองทัพบกในเรื่องการจัดตั้งหน่วยทหารพรานเพิ่มเติมให้กับกองทัพภาคที่ 4 เป็น 2 ระยะ ระยะแรก คือตั้งแต่ ต.ค. 49 พร้อมปฏิบัติภารกิจ เม.ย. 50 จัดตั้ง 2 กองบังคับการกรมทหารพราน 10 กองร้อยทหารพราน และ 7 หมู่ทหารพรานหญิง ระยะที่ 2 ตั้งแต่ เม.ย. 50 พร้อมปฏิบัติภารกิจ ต.ค. 50 จัดตั้งอีก 20 กองร้อยทหารพราน ขณะนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป จึงมีความจำเป็นที่ต้องใช้ ทหารพราน ซึ่งกองทัพภาคที่ 4 มีกรมทหารพรานที่ 41, 43 และ 45 อยู่แล้ว และที่ตั้งเพิ่มคือกรมทหารพรานที่ 42 และ 44

นายอารีย์ วงศ์อารยะ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ ถึงเรื่องโครงสร้าง ศอ.บต.ว่า โครงสร้างใหม่ ทหารจะดูเกี่ยวกับกองกำลังผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร ส่วน ศอ.บต. จะประกอบด้วย ฝ่ายปกครอง กระทรวง ทบวง กรมต่างๆ รวมทั้งฝ่ายยุติธรรม อย่างไรก็ตาม ยังอยู่ในความดูแลของสภาความมั่นคงแห่งชาติ มั่นใจว่า ศอ.บต.จะช่วยแก้ ปัญหาความไม่สงบได้ดีขึ้น เพราะทำให้สายบังคับบัญชาสั้นลง จบในพื้นที่ ไม่ต้องมาถึง กทม. จะทำให้การดูแลการลงพื้นที่ของข้าราชการและเจ้าหน้าที่มีมากขึ้น รวมถึงจะมีการอบรมข้าราชการที่จะลงพื้นที่ให้เข้าใจระเบียบแบบแผน ประเพณี แนวคิด ศาสนา และดูแลไม่ให้มีใครไปทำอะไรนอกรูปแบบ เมื่อถามถึงข้อเสนอให้จัดตั้งสภาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รมว.มหาดไทยตอบว่า ไม่ทราบ คงเป็นเรื่องของสภาความมั่นคงแห่งชาติ เมื่อถามถึงข่าวที่จะให้นายพระนาย สุวรรณรัฐ ผวจ.นนทบุรี น้องชายนายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี มาเป็นรองปลัดกระทรวงดูแล ศอ.บต. นายอารีย์ตอบว่า อยู่ระหว่างการพิจารณา

ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และประธาน คมช. ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการจัดโครงสร้างใหม่ของ กอ.รมน. ว่า ขณะนี้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ต้องหารือกับกระทรวงมหาดไทยก่อนว่ามีความสอดคล้องกันหรือไม่กับ ศอ.บต. ที่ขึ้นตรงกับกระทรวงมหาดไทย ซึ่งต้องออกมาเป็นพระราชบัญญัติการจัดตั้ง กอ.รมน. โดยจะเริ่มทดลองใช้ในเดือน พ.ย.นี้ ส่วนความคืบหน้าการต่ออายุพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินนั้น ขณะนี้ได้ลงนามให้ต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปแล้ว แต่ไม่ได้มีผลอะไร เพราะกฎอัยการศึกควบคุมอยู่ แต่จำเป็นต้องเตรียมไว้ หากยกเลิกกฎอัยการศึก

ขณะที่เหตุร้ายในพื้นที่ยังมีเกิดขึ้นรายวัน เมื่อเวลา 05.30 น. วันเดียวกัน ร.ต.ท.ชาติ นพชำนาญ ร้อยเวร สภ.อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนถูกยิงเสียชีวิตที่หน้ามัสยิดในหมู่บ้านบาโงปือตา หมู่ 4 ต.จวบ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ทนงศักดิ์ วังสุภา ผกก.สภ.อ.เจาะไอร้อง นำกำลังตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครองไปที่เกิดเหตุ พบศพนายลาเต๊ะ อาแว อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 หมู่ 4 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง นอนจมเลือดเสียชีวิตอยู่บนถนนหน้ามัสยิด มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนสงครามที่บริเวณหน้าอกและลำตัว โดยก่อนเกิดเหตุผู้ตายออกจากบ้านเพื่อไปละหมาดที่มัสยิด เมื่อถึงหน้ามัสยิดได้มีคนร้ายที่ดักซุ่มอยู่ยิงเข้าใส่ด้วยอาวุธสงครามหลายนัด กระสุนถูกผู้ตายล้มลงเสียชีวิต สาเหตุคาดเป็นการสร้างสถานการณ์ก่อความไม่สงบ

ต่อมาเมื่อเวลา 12.20 น. ร.ต.ท.ชัยฤทธิ์ อินดำ ร้อยเวร สภ.อ.ระแงะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุระเบิดที่สะพานน้ำแดง ริมถนนสายบาโงสะโต-ตันหยงลิมอ บ้านตราแดะ หมู่ 5 ต.บาโงสะโต จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.มาโนช อนันต์ฤทธิ์กุล ผกก.สภ.อ.ระแงะ พ.ต.ท.วิเชียร ยันตรัตน์ รอง ผกก.ป. นายประคอง คงแก้ว นอภ.ระแงะ พ.ต.ท.สุกิจ ขำมาก สว.นปพ.ภ.จ.นราธิวาส นำกำลังตำรวจ ทหาร อส.และชุดเก็บกู้ระเบิด เหยี่ยวดง นปพ.ภ.จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่วิทยาการ จ.นราธิวาส ไปที่เกิดเหตุ พบว่าที่ราวเหล็กกั้นหัวสะพานริมถนนมีหลุมระเบิดขนาดกว้าง 3 ฟุต ลึก 1 ฟุต มีเศษชิ้นส่วนระเบิดแสวงเครื่อง เช่น เหล็กเส้นตัดสั้น ลูกปราย เชื้อปะทุ ปุ๋ยยูเรีย กล่องเหล็ก และชิ้นส่วนโทรศัพท์มือถือ กระจายเกลื่อนพื้นในรัศมี 15 เมตร

สำหรับผู้บาดเจ็บเป็นตำรวจ สภ.อ.ระแงะ ประจำป้อมจุดตรวจบูเก๊ะซามี 4 นาย ถูกนำส่ง รพ.ระแงะ ทราบชื่อ จ.ส.ต.ภูมิกิติ ตรงคำนึง อายุ 37 ปี หัวหน้าป้อมจุดตรวจ ถูกสะเก็ดระเบิดที่ขาหนีบทั้ง 2 ข้างกับสะโพกและลำตัว ส.ต.ต.สุริยา มะเดื่อ อายุ 29 ปี ส.ต.ต.สมคิด ชูด้วง อายุ 29 ปี และ ส.ต.ต.วินัย ทะกาเรนะ อายุ 27 ปี ทั้ง 3 นายถูกสะเก็ดระเบิดที่แขนขาเล็กน้อยและหูอื้อ โดย จ.ส.ต.ภูมิกิติอาการสาหัส ถูกนำส่งต่อ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ ก่อนเกิดเหตุ พ.ต.อ.มาโนช อนันต์ฤทธิ์กุล ผกก.สภ.อ.ระแงะ สั่งการให้ จ.ส.ต.ภูมิกิตินำกำลังไปตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยบนสะพาน จำนวน 3 จุด ซึ่งจุดที่ 1 พบเป็นโทรทัศน์เก่าใส่กระสอบปุ๋ย จุดที่ 2 เป็นแกลลอนพลาสติกสีดำ ขนาด 30 ลิตร ส่วนจุดที่ 3 จุดเกิดเหตุเป็นกล่องเหล็กสี่เหลี่ยมมีเทปสีดำพันเอาไว้ เมื่อเจ้าหน้าที่เดินเข้าไปใกล้ คนร้ายที่ลอบวางระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนัก 5 กก. ใส่กล่องเหล็กดังกล่าวได้จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ ทำให้เกิดการระเบิดขึ้นส่งผลให้ตำรวจบาดเจ็บ

พ.ต.อ.มาโนชกล่าวว่า เมื่อเวลา 04.00 น. คนร้ายได้ลอบเผายางรถยนต์ทั้ง 2 ข้างถนนห่างจากสะพานประมาณ 10 เมตร เพื่อลวงให้เจ้าหน้าที่มาตรวจที่เกิดเหตุแต่เจ้าหน้าที่ไม่หลงกล ไม่มาตรวจสอบ คนร้ายจึงวางแผนลวงอีกด้วยการนำวัตถุต้องสงสัยวางไว้บนสะพาน เมื่อตำรวจมาตรวจสอบคนร้ายจึงจุดชนวนระเบิดขึ้น ทำให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บ ซึ่งการวางระเบิดครั้งนี้เป็นแบบ Third bomb หรือการวางระเบิดแบบ 3 ชั้น เป็นการวางระเบิดแบบกลลวงที่ได้รับการวางแผนมาเป็นอย่างดี

ส่วนที่ จ.ปัตตานี เมื่อเวลา 12.30 น. พ.ต.ท.พิสิทธิพงษ์ มังกรวงศ์ สารวัตรเวร สภ.อ.สายบุรี จ.ปัตตานี รับแจ้งมีคนถูกยิงบนถนนสายปะนาเระ-สายบุรี หมู่ 2 ต.ปะแสยาวอ ไปตรวจสอบพบรถ จยย.ของคนเจ็บล้มริมถนน ส่วนผู้ถูกยิงถูกนำส่ง รพ.สมเด็จพระยุพราชสายบุรี ชื่อนายจรัญ เพชรประเสริฐ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 295/1 ถนนสายบุรี ต.ตะลุบัน อ.สายบุรี ถูกยิงด้วยปืนพกสั้นเข้าศีรษะ 1 นัด อาการสาหัส แพทย์ต้องส่งต่อไปยัง รพ.ศูนย์ยะลา โดยผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหัวหน้าช่างโยธา อบต.ปะแสยาวอ ขณะขี่รถ จยย.จะกลับบ้านในช่วงเที่ยง ระหว่างทางถูก 2 คนร้ายขี่รถ จยย.ตามประกบยิงแล้วหลบหนีไป คาดว่าคนร้ายติดตามความเคลื่อนไหวของนายจรัญมานาน จนรู้ว่าเหยื่อจะต้องกลับบ้านช่วงเที่ยงทุกวัน จึงมาดักยิงดังกล่าว ส่วนสาเหตุคาดว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของแนวร่วมในพื้นที่

ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น. จากการสืบทราบของ พล.ต.อ.สมบัติ อมรวิวัฒน์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่า มีคนร้ายซุกซ่อนอาวุธปืนสงครามหลายกระบอกไว้ในพื้นที่ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.อำนาจ นิลวิไล รองหัวหน้าชุดปฏิบัติการดีเอสไอในพื้นที่ประสานกับ พล.ต.ต.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผบก. ภ.จ.ปัตตานี นายนพดล ส่องเมือง นอภ.ยะหริ่ง พ.ต.ท.โกวิท รัตนโชติ รอง ผกก.รักษาการ ผกก.สภ.อ.ยะหริ่ง พ.ต.ท.ศิริวัฒน์ ปัญญาชนวัฒน์ สว.นปพ.ภ.จ.ปัตตานี นำกำลัง 50 นาย เข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่หมู่ 2 บ้านตะโละอาโหร์ ต.ตะโล๊ะกาโปร์ อ.ยะหริ่ง ซึ่งเป็นพื้นที่นาและป่าละเมาะ โดยตรวจค้นแบบปูพรมกระทั่งมาถึงร่องน้ำสาธารณะมีสัญลักษณ์ของแหล่งข่าวชี้จุดซุกซ่อนอาวุธ จึงระดมตรวจค้นใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง พบถุงปุ๋ยต้องสงสัยซุกซ่อนอยู่ในน้ำใต้โคนมะพร้าว เมื่อนำขึ้นมาบนฝั่งปรากฏว่าเป็นถุงปุ๋ย 2 ถุงประกบกัน ภายในมีปืน เอ็ม 16 จำนวน 7 กระบอก กระสุน 46 นัด และซองปืน 4 ซอง

จากการตรวจสอบปืนทั้ง 7 กระบอก ปรากฏว่า เลขทะเบียนปืนได้ถูกขูดทำลาย มีเพียงหมายเลขประจำปืนเท่านั้น ซึ่งเป็นปืนของฝ่ายปกครอง 2 กระบอก ส่วนอีก 5 กระบอกอยู่ระหว่างตรวจสอบ เชื่อว่าเป็นปืนที่คนร้ายได้มาจากการปล้นปืนจากค่ายทหารกองพันพัฒนา จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 4 ม.ค.47 และบางส่วนได้มาจากการโจมตีเจ้าหน้าที่และขโมยปืนไป ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้นำหมายเลขปืนไปตรวจสอบว่าเป็นปืนของหน่วยงานใดบ้าง สำหรับจุดที่พบปืนดังกล่าวอยู่ห่างราว 300 เมตร จากจุดที่คนร้ายซุ่มยิง ส.ต.ต.อุทิศ สนิทนอก ผบ.หมู่ป้องกันและปราบปราม เสียชีวิต ขณะออกลาด ตระเวน เมื่อวันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยคาดว่าคนร้ายนำปืนมาซุกไว้ เพื่อเตรียมซุ่มโจมตีเจ้าหน้าที่และสถานีตำรวจย่อยในพื้นที่ แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบก่อนที่คนร้ายจะลงมือปฏิบัติการ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ตั้งจุดตรวจจุดสกัด ตรวจค้นรถทุกชนิดที่ผ่านเข้าออกเส้นทางสาย อ.ยะหริ่ง-ต.ตะโล๊ะกาโปร์ เพื่อตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายและป้องกันเหตุ

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ