จับแล้วปล้น6ล้านโรงไฟฟ้าสงขลา

"เค้น 3 ชม.ถึงยอมเปิดปาก"


ตำรวจรวบแล้ว 1 ทีมปล้นโรงไฟฟ้าสงขลา ขนขดลวดทองแดงกว่า 6 ล้านบาท ที่แท้เป็นคนขับรถเครนของโครงการ หลังคุมตัวมาสอบเค้นนานกว่า 3 ชั่วโมง สุดท้ายยอมเปิดปากสารภาพ เตรียมรวบรวมหลักฐานออกหมายจับเพิ่มอีก 4 จากทั้งหมดคาดประมาณ 20 คน แฉวางแผนมาอย่างดี แบ่งหน้าที่กันทำ วางยาในกระติกน้ำให้รปภ.กิน จู่โจมบุกใช้อาวุธปืนขู่ ก่อนใช้รถเครนยกขดสายไฟขึ้นรถบรรทุก 10 ล้อ ส่งขายนำเงินแบ่งกัน

จากกรณี 20 คนร้ายสวมไอ้โม่งพร้อมอาวุธครบมือบุกปล้นโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าสงขลา ที่บริเวณริมถนนเพชรเกษม สาย 42 สงขลา-ปัตตานี หมู่ที่ 5 ต.คลองเปี๊ยะ อ.จะนะ จ.สงขลา ขนอุปกรณ์และขดลวดทองแดง 9 ขดใหญ่ มูลค่า 6,000,000 บาท ขึ้นรถบรรทุก 10 ล้อหลบหนีลอยนวล ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

"คาดเป็นความขัดแย้งภายใน"


ความคืบหน้าวันที่ 25 ต.ค. พล.ต.ต.ไพฑูรย์ พัฒนโสภณ ผบก.สงขลา เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นทราบว่าคนร้ายใช้อาวุธจี้ให้พนักงานรักษาความปลอดภัยของโครงการ ที่ประจำอยู่ป้อมยามโดยรอบของโครงการ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จำนวน 15 คนมารวมอยู่บริเวณสำนักงานของโครงการก่อสร้าง จากนั้นคนร้ายใช้รถเครนยกขดลวดทองแดง รวมน้ำหนักประมาณ 900 กิโลกรัม และทรัพย์สินอีกหลายรายการ รวมมูลค่าประมาณ 6,000,000 บาท ก่อนหลบหนีไป

ผบก.สงขลา กล่าวต่อว่า ขณะนี้สอบปากคำพยานและผู้ที่เกี่ยวข้องไปหลายปากแล้ว คาดเป็นเรื่องความขัดแย้งภายใน เพราะจากแนวทางการสืบสวนสอบสวนกลุ่มผู้ต้องสงสัย คาดว่าเป็นคนงานภายในโครงการ เนื่องจากพบหลักฐานหลายอย่าง และวางยาในน้ำดื่มของรปภ.ด้วย อีกทั้งกลุ่มคนร้ายรู้เส้นทางภายในโครงการอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นจุดตั้งสิ่งของที่ต้องการ และยังรู้เวลาเข้าออกของรปภ.ทุกจุด

"คนร้ายประสงค์ต่อทรัพย์แต่งง จะเอาขายยังไง"


พล.ต.ต.ไพฑูรย์ กล่าวอีกว่า สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.อ.จะนะ ประสานกับตำรวจพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งบริเวณแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ติดตามเบาะแสกลุ่มผู้ต้องสงสัย และจุดที่คาดว่าคนร้ายจะนำรถบรรทุก พร้อมของกลางทั้งหมดไปซ่อนไว้เพื่อรอจำหน่าย และให้ตรวจสอบร้านรับซื้อของเก่า ว่ามีการนำขดลวดทองแดง และทรัพย์สินที่คนร้ายปล้นมาจากโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าจะนะมาจำหน่ายหรือไม่

ด้านนายกรีฑา ปัญญาพานิช ผู้จัดการหมวดส่งเสริมและเผยแพร่ โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าสงขลา กล่าวว่า คนร้ายประสงค์ต่อทรัพย์มากที่สุด แต่ยังนึกไม่ออกว่าคนร้ายจะนำขดลวดทองแดงจำนวนมากไปเก็บไว้ที่ไหน และจะนำออกไปจำหน่ายอย่างไร ทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปเป็นของบริษัท ซีเมนต์ แอนด์ มารูบีนี่ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทคู่สัญญาในการประมูลงานก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าสงขลา

"จับคนขับรถเครนสอบรับสารภาพ"


จากการสอบสวนรปภ.ให้การว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นรวดเร็วมาก เวลาประมาณ 02.00 น. วันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่นั่งเขียนรายงานการทำงานอยู่บริเวณพื้นที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้าด้านประตูหน้า คนร้าย 3 คน บุกเข้าประชิดตัว ผลักให้ล้มลง เมื่อพยายามมองหน้าคนร้าย ก็ถูกตีด้วยปืนที่ศีรษะ จากนั้นโดนจับคลุมศีรษะ มัดมือด้วยสายไฟฟ้า หลังจากนั้นก็หมดสติจำความไม่ได้ รู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อนอนอยู่ร.พ.แล้ว ส่วนรปภ.คนอื่นแม้ไม่ถูกทำร้าย แต่ถูกวางยาสลบ คิดว่าถูกวางยาจากน้ำดื่มในกระติกน้ำ รปภ.ที่ถูกวางยาทั้งหมด 7 คน ถูกทำร้ายร่างกายและถูกวางยาด้วย 2 คน รวมทั้งหมด 9 คน

รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญคนงานหลายคนไปสอบปากคำ โดนมุ่งไปที่คนขับรถเครน เพราะวันเกิดเหตุคนร้ายที่บุกปล้นขับรถเครนยกขดลวดทองแดงขึ้นรถบรรทุก 10 ล้ออย่างชำนาญ ซึ่งรถเครนเป็นรถที่ไม่ใช่บังคับได้ง่ายๆ แต่จากการสอบปากคำยืนยันว่า คนร้ายที่ขับรถเครนมีความชำนาญมาก กระทั่งเจ้าหน้าที่เชิญคนขับรถเครนของบริษัท หาดใหญ่เครน จำกัด ที่มารับเหมาช่วงงานต่อในโครงการโรงไฟฟ้าสงขลามาสอบเครียดกว่า 3 ชั่วโมง จึงยอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปสอบสวนขยายผล เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายที่ยังเหลือต่อไป

"คาดมีแหล่งขายขดลวดแล้ว"


พ.ต.อ.เอนก ศรีคำอ้าย รองผกก.หน.สภ.ต.ควนมีด อ.จะนะ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหารายนี้ชื่อนายเดี่ยว น้อยใส คนงานขับรถเครนในบริเวณก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญคนงานมาสอบปากคำ ได้ข้อมูลว่าคนร้ายขับรถเครนด้วยความชำนาญ ยกขดลวดเหล็กขึ้นรถบรรทุก 10 ล้อ จึงส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบดูว่าพนักงานขับรถเครนมาทำงานหรือไม่ ปรากฏว่ามาทำงานตามปกติ จึงเชิญตัวมาสอบ

รองผกก.หน.สภ.ต.ควนมีด กล่าวต่อว่า หลังจากสอบเครียด นายเดี่ยวรับสารภาพว่า ร่วมกับเพื่อนคนงานในโครงการก่อสร้าง และคนนอกประมาณ 20 คน เข้าก่อเหตุ แต่ไม่ทราบรายละเอียดว่าใครเป็นหัวหน้า เพราะแบ่งงานกันทำ โดยตกลงเพียงว่าเมื่อขายขดลวดแล้วจะนำเงินมาแบ่งกัน คาดว่าจะรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดสงขลา ออกหมายจับได้อีก 4 คน และเชื่อว่าคนร้ายกลุ่มนี้คงจะมีแหล่งจำหน่ายขดลวดแล้วจึงลงมือ โดยอาจจะเป็นคนในหรือคนนอกก็ได้ที่เป็นหัวหน้าทีม


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์