ครอบครัวเหยื่อผกก.ปืนโหดร้องขอความเป็นธรรมปวีณา
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 13 พ.ค. นางยุพิน โตศิริวัฒนานนท์ อายุ 48 ปี เจ้าของบริษัท สยามสแตนเลส (ประเทศไทย) จำกัด เลขที่ 13/2 หมู่ 3 ต.บางตีนเป็ด อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยลูกสาว 2 คน และน้องชายเดินทางเข้าพบนางปวีณา หงสกุล “ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี” (องค์กรสาธารณประโยชน์) ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี 84/14 ต.ลำผักกูด เพื่อขอความช่วยเหลือกรณี นายวริศ โตศิริวัฒนานนท์ อายุ 17 ปี บุตรชาย ซึ่งถูก พ.ต.อ.สุภาพ รองนาม ผกก.วิทยาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติใช้อาวุธปืนยิงจนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 11 พ.ค. ที่ผ่านมา
โดย นางยุพิน เปิดเผยว่า เมื่อหลายปีก่อนตนได้หย่าร้างกับสามี และขอลูกทั้งสามคนมาเลี้ยงไว้เอง เป็นหญิง 2 ชาย 1 โดย น.ส.ศุภิสรา อายุ 19 ปี เป็นคนโต นายวริศ อายุ 17 ปี ผู้ตายเป็นคนกลาง ส่วนคนสุดท้องชื่อ ด.ญ.แพรวรุ้ง อายุ 13 ปี ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด และเมื่อ 6 ปี ก่อนตนได้รู้จักกับ พ.ต.อ.สุภาพ รองนาม ผกก.วิทยาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขณะนั้นมียศเป็น พ.ต.ท. อยู่ที่ จ.ศรีสะเกษ กระทั่งมีความสัมพันธ์กันลึกซึ้ง ที่ผ่านมาตนให้ความช่วยเหลือ พ.ต.อ.สุภาพและครอบครัวมาโดยตลอด แต่พ.ต.อ.สุภาพเป็นคนทะเยอทะยานและพยายามทุกวิถีทางที่จะเอาใจนาย ด้วยการนำอุปกรณ์สแตนเลสไปให้นายเพื่อต่อเติมบ้านและกิจการต่างๆจนทำให้ตนประสบปัญหาขาดทุน เพราะพ.ต.อ.สุภาพไม่เคยจ่ายเงินให้ตนแม้แต่ครั้งเดียว เมื่องานล่าช้าตนก็ถูกทำร้ายจนซี่โครงหักก็มี แต่ก็ไม่กล้าบอกใครต้องทนมา 5 ปีกว่า สุดท้ายทนไม่ไหวจึงขอเลิกความสัมพันธ์ แต่ พ.ต.อ.สุภาพไม่ยอม แถมข่มขู่ว่าถ้าเลิกก็ตายด้วยกัน
กระทั่งวันที่ 11 พ.ค. ช่วงเที่ยง พ.ต.อ. สุภาพ ได้มาหาตนที่บริษัท ตนจึงบอกขอเลิกกับพ.ต.อ.สุภาพ แต่พ.ต.อ.สุภาพขู่ว่าเย็นนี้เจอดีแน่ ตนจึงแอบออกมาทางหลังเพื่อหนีไปบวชชีพราหมณ์ พร้อมทั้งโทรศัพท์ไปบอกภรรยาพ.ต.อ.สุภาพให้ไปรับลูกชายตนด้วยเนื่องจากเกรงว่าจะได้รับอันตราย แต่เมื่อเสร็จพิธีแล้วตนได้โทรศัพท์ไปหาภรรยาของพ.ต.อ.สุภาพอีกครั้ง ปรากฏว่าภรรยาของ พ.ต.อ.สุภาพ ไม่ได้ไปรับลูกชายตน และเมื่อโทรไปหาเสมียนที่บริษัทปรากฏว่าลูกชายถูก พ.ต.อ.สุภาพ ยิงจนเสียชีวิตไปแล้ว
ด.ญ.แพรวรุ้ง โตศิริวัฒนานนท์ อายุ 13 ปี หรือน้องเจ น้องสาวผู้ตายให้การว่า เมื่อวันที่ 11 พ.ค. ที่ผ่านมา เวลา 17.00 น. พ.ต.อ.สุภาพ สั่งเสมียนให้ปิดประตูให้หมดเหลือแค่ตนกับพี่ชาย จากนั้นได้เค้าไปรื้อลิ้นชักโต๊ะ ต่อมาพี่ชายตนได้เข้าไปหากุญแจภายในสำนักงานเพื่อจะนำไปปิดประตูแต่ไม่พบ จึงเข้าไปสอบถามพ.ต.อ.สุภาพ จากนั้นพี่ชายก็ไปค้นหาหมายเลขโทรศัพท์ของตำรวจ จ.ฉะเชิงเทรา แต่ไม่พบ พี่ชายจึงเดินกลับเข้าไปในสำนักงานอีกครั้ง ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่า พ.ต.อ.สุภาพ พูดอะไรกับพี่ชาย เพราะตนยืนอยู่ภายนอก แต่สามารถมองเห็นเหตุการณ์ภายในได้ทั้งหมดเนื่องจากสำนักงานเป็นห้องกระจก ตนเห็น พ.ต.อ.สุภาพ ตบหน้าพี่ชาย 1 ครั้ง จากนั้นพี่ชายก็ถีบ พ.ต.อ.สุภาพ 1 ครั้งแต่ไม่โดน จากนั้นพี่ชายก็เดินออกจากสำนักงานแต่เดินไม่พ้นประตู พ.ต.อ.สุภาพ ก็ชักปืนออกมายิงพี่ชาย 2 นัด พี่ชายถูกยิงทะลุท้องล้มลงไปที่พื้น พี่ชายได้หันมาหาตนและพูดว่า “เจ พี่เจ็บ” แต่ทาง พ.ต.อ.สุภาพ ก็เดินไปหาพี่ชายและจ่อปืนยิงที่ศีรษะพี่ชายอีก 1 นัด ตนเห็นเหตุการณ์ก็ร้องด้วยความตกใจ ซึ่ง พ.ต.อ.สุภาพ ก็ออกมาหาตนแล้วพูดว่า “เจ มึงอยากตายอีกคนไหม” ขณะนั้นมีลูกค้าเข้ามาซื้อของพอดีจึงเข้ามากอดตนไว้ โดย พ.ต.อ.สุภาพ ได้เดินถือปืน ออกจากห้อง ขับรถที่จอดไว้หน้าบริษัทหลบหนีไป ตนและแม่จึงมาที่มูลนิธิปวีณาฯ เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับพี่ชาย เพราะคนที่ทำร้ายเป็นตำรวจที่มีตำแหน่งใหญ่โต กลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และเกรงว่าครอบครัวจะไม่ปลอดภัย
ด้าน นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ เปิดเผยว่า จะได้ประสานไปยังกระทรวงยุติธรรมในการดำเนินการเรื่องการคุ้มครองพยาน ให้ช่วยดูแลความปลอดภัย จากนั้นก็จะประสานไปยังทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ดำเนินการเร่งจับกุมตัวคนร้ายที่มีตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระหว่างนี้คงต้องประสานขอเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลครอบครัวนี้ซึ่งต้องอยู่จัดงานพิธีศพของลูกชายให้เสร็จสิ้นก่อน และไม่ต้องการให้คนร้ายลอยนวลเพราะเป็นการกระทำ ทำร้ายผู้หญิงและเด็ก เป็นอาชญากรสังคมที่โหดเหี้ยมมาก
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าวคุณภาพดีโดย : หนังสือพิมพ์ข่าวสด
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
