จับยกแก๊งโหด ปล้นฆ่ารัดคอ คาทาวน์เฮาส์

เมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 24 ต.ค.


พ.ต.ต. วีระศักดิ์ ติระพัฒน์ พงส. (สบ 2) สน.โชคชัย รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่าเกิด เหตุปล้นทรัพย์และฆ่าเจ้าทรัพย์ ภายในบ้านเลขที่ 10/6 ซอยลาดพร้าว 93 แยก 1 แขวงและเขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น รอง ผบช.น. พล.ต.ต. เจตน์ มงคลหัตถี รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วิทยา โกสิยะสถิต ผบก.น.4 พ.ต.อ.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผกก.สน.โชคชัย เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและแพทย์สถาบันนิติเวชฯ

ที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น ภายในห้องนอนชั้น 2


พบศพนางภัษรินทร์ จำลอง อายุ 45 ปี เจ้าของบ้าน นอนหงายอยู่บนเตียง สวมเสื้อนอนสีขาว กางเกงขาสั้น สีแดง ข้างลำตัวมีปลั๊กไฟพ่วง ซึ่งถูกดึงสายไฟออกไปรัดลำคอของผู้ตายตกอยู่ ข้าวของถูกรื้อค้นกระจัดกระจาย

นอกจากนี้ ยังพบสกอตเทปสีขาวที่คนร้ายใช้มัดพันธนาการ นายณัฐนนท์ กรเมธีกุล อายุ 34 ปี สามีของผู้ตาย ตกอยู่ ด้วย ส่วนภายในห้องนอนชั้น 3 ของ น.ส.พจนา หรือหมวย ทองสวน อายุ 23 ปี บุตรสาวของผู้ตาย คนร้ายได้รื้อค้นหาทรัพย์สินกระจายเกลื่อนเช่นกัน

จากสอบสวนนายณัฐนนท์ กรเมธีกุล สามีของผู้ตาย ให้การว่า


ขณะเกิดเหตุนอนกันอยู่ในห้อง ได้มีคนเคาะประตูเรียก นางภัษรินทร์จึงลุกไปเปิดประตู ปรากฏว่ามีคนร้าย 3 คน กรูกันเข้าไปข้างใน 2 คน คลุมหมวกไหมพรมปิดบังใบหน้า สวมเสื้อแขนยาวมิดชิด ส่วนอีกคนสวมเสื้อ แขนสั้น ทั้งหมดมีปืนเป็นอาวุธ

จากนั้นใช้ด้ามปืนตบศีรษะตนจนล้มคว่ำ แล้วจับนอนคว่ำหน้า ใช้ปืนจ่อหัวห้ามร้องเอะอะโวยวาย ก่อนจะใช้สกอตเทปพันมัดมือไพล่หลัง จังหวะนั้นนางภัษรินทร์ร้องเอะอะ ตะโกนให้คนช่วย คนร้ายจึงกระชากสายไฟจากปลั๊กไปรัดลำคอจนแน่นิ่ง เสร็จแล้วช่วยกันรื้อค้นหาทรัพย์สิน ก่อนจะหลบหนีไป


เหยื่อปล้นฆ่าให้การต่อว่า


ต่อมานายอาทิตย์ ศรีบุญบัว อายุ 23 ปี นักร้องห้องอาหารดาวินชี่ ย่านรัชดาฯ แฟนหนุ่มของ น.ส.พจนา วิ่งขึ้นไปช่วยแก้มัดให้ พร้อมกับบอกว่า ขณะนั่งเล่นเกมเพื่อรอแฟนสาวกลับจากทำงานกลางคืนย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ได้มีคนร้าย 3 คน เปิด ประตูกรูกันเข้าไปในบ้าน ช่วยกันจับตัวแล้วเอาสกอตเทปปิดปากมัดมือไพล่หลัง

จากนั้นวิ่งขึ้นมาบนชั้น 2 กระทั่งคนร้ายหลบหนีไป จึงช่วยเหลือตัวเอง แล้วมาช่วยตน

ต่อมา น.ส.พจนา ลูกสาวของผู้ตาย กลับถึงบ้าน เมื่อทราบข่าวร้าย แม่ถูกสังหารถึงกับเข่าอ่อนร่ำไห้ บอกว่า


งงกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาก เพราะปกติแม่ไม่ได้ทำงาน ไม่มีทรัพย์สินใดๆมากมาย บ้านก็ต้องเช่าเดือนละ 9 พันบาท ตนเป็นคนทำงานกลางคืนหาเงินเป็นค่าใช้จ่ายภายในครอบครัวเพียงคนเดียว

เชื่อว่าเหตุร้ายที่เกิดขึ้นน่าจะมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง

พร้อมกับสงสัยว่าคนร้ายทราบที่ซ่อนเงิน 2 หมื่นบาทได้อย่างไร เนื่องจากคนที่รู้มีแค่ตน นายอาทิตย์ และนายจินตวัฒน์ หรือใหญ่ บุญช่วย อายุ 34 ปี แฟนเก่าเท่านั้น ทำให้ตำรวจเชื่อว่าคนร้ายต้องเป็นคนใกล้ชิดอย่างแน่นอน เพราะตอนก่อเหตุ คลุมหมวกไอ้โม่งไหมพรมอำพรางใบหน้าด้วย

ต่อมา พล.ต.ต.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น รอง ผบช.น. ได้เรียกชุดสืบสวน


กก.สส.น.4 ศูนย์สืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาลและฝ่ายสืบสวน สน.โชคชัย เข้า ร่วมประชุมเพื่อตามล่าตัวคนร้าย จากนั้นส่งกำลังออกติด ตามตัวนายจินตวัฒน์ บุญช่วย แฟนเก่าของ น.ส.พจนาไปสอบปากคำ เนื่องจากน่าสงสัยที่สุด เพราะ

น.ส.พจนาให้การว่า

เมื่อวันที่ 23 ต.ค. ที่ผ่านมา ได้โทรศัพท์ไปหา นายจินตวัฒน์เพื่อขอเงิน 5 พันบาท ไปซื้อสร้อยคอทองคำ เป็นของขวัญวันเกิดให้แม่ในวันที่ 24 ต.ค. นี้ โดยนัดเจอ นายจินตวัฒน์ที่โรงแรมย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่

แต่ปรากฏว่า

นายจินตวัฒน์ไม่ไปตามนัด โดยตำรวจพบตัวนายจินตวัฒน์ขณะโผล่ไปบ้านเกิดเหตุ ทำทีเหมือนไม่รู้เรื่องราวว่าเกิดอะไรขึ้น

ในเบื้องต้นนายจินตวัฒน์ยืนยันว่า


ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ภายหลังตำรวจเค้นสอบอยู่นาน 9 ชั่วโมง ในที่สุดก็ยอมรับสารภาพว่าพาพวกไปก่อเหตุปล้นจริง เพื่อต้องการแก้แค้นคนในบ้านแต่ไม่ต้องการฆ่าใคร พร้อมกับเปิดเผยเบื้องหลังว่า สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ประมาณ 5-6 เดือน รู้จักคบหาเป็นแฟนกับ น.ส.พจนา ซึ่งทำงานบริการกลางคืนย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่

ขณะนั้นตนทำงานตรวจจับแผ่นซีดีละเมิดลิขสิทธิ์ให้ค่ายเพลงแห่งหนึ่ง

และให้เงิน น.ส.พจนาใช้จ่ายภายในครอบครัวมาโดยตลอด ต่อมาประสบปัญหาเงินขาดมือ ทาง น.ส.พจนากลับตีตัวออกห่าง โทรศัพท์ไปหาก็บ่ายเบี่ยงให้ผู้ตายรับอย่างไม่สนใจไยดี ทั้งที่เคยช่วยเหลือมาก่อน ทำให้เกิดความแค้นสะสมเรื่อยมา

หัวหน้าแก๊งปล้นฆ่าให้การต่อว่า


จนกระทั่งเมื่อบ่ายวันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมา อดีตแฟนสาวโทรศัพท์มาหา บอกว่าจะหาซื้อสร้อยคอทองคำและโทรศัพท์มือถือเป็นของขวัญวันเกิดให้แม่ แต่มีเงินอยู่แค่ 2 หมื่นบาทขาดอีก 5 พันบาท อยากจะขอจากตน ทำให้ทราบว่าอดีตแฟนเก่ามีเงินเก็บอยู่ในห้องอย่างแน่นอน ประกอบกับตนขาดเงิน

จึงวางแผนบุกไปปล้นที่บ้านดังกล่าว

โดยพาลูกน้องที่เคยทำงานร่วมกัน ประกอบด้วยนายจรัญหรือเด่น ด้วงเอียด อายุ 24 ปี นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ปี 1 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งย่านคลองตัน นายจิรพงษ์ หรือรอง คงมนต์ อายุ 32 ปี และนายรณธิชา หรือบอล สุขเกื้อ อายุ 29 ปี เด็กใต้ด้วยกันไปก่อเหตุ โดยพกปืนบาเรตต้า 9 มม.ติดตัวไป นายจรัญพกปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ พร้อมกระสุน 3 นัด นายจิรพงษ์ พกปืนลูกโม่ .22 ส่วนนายรณธิชาดูต้นทาง

ตอนแรกตั้งใจจะแค่ทำร้ายสั่งสอน

แล้วค้นหาเงิน 2 หมื่นบาทหลบหนีเท่านั้น แต่ปรากฏว่าขณะลงมือ ผู้ตายเอะอะโวยวายร้องเสียงดังลั่น ลูกน้องจึงใช้สายไฟรัดคอจนเสียชีวิต

ภายหลังรับสารภาพ


เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุมนายจรัญ ด้วงเอียด และนายจิรพงษ์ คงมนต์ ได้ที่ย่านรามคำแหง พร้อมของกลางอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุและเงินสด 19,000 บาท แจ้งข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ โดยมีและใช้อาวุธปืนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น

ส่วนนายรณธิชา หรือบอล สุขเกื้อ ผู้ต้องหาอีกราย


ชุดสืบสวนติดตามจับกุมตัวได้แล้วที่พีพีทีอพาร์ตเมนต์ ซอยรามคำแหง 24 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. ขณะกลับเข้าห้องพัก สอบสวนให้การรับสารภาพ อ้างว่าเป็นหลานชายของนายจินตวัฒน์ หัวหน้าแก๊งและเป็นคนดูต้นทาง โดยต่อมา พล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี ผบช.น. ไปสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมดด้วยตนเอง





แหล่งที่มา:

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์