ขน39พม่ายัดปิคอัพ ชนตายหมู่ร่างปลิวเกลื่อนถนน

ปิคอัพขนแรงงานเถื่อนพม่า ซิ่งจากแม่สอดเข้ากรุง ชนท้ายรถพ่วง 18 ล้อ เทกระจาดสยองถนนสายเอเชียสิงห์บุรี ตายเกลื่อน 5 ศพ บาดเจ็บอีก 28 ราย ทั้งผู้ใหญ่ชาย หญิง และเด็ก คนงานสาวพม่ารับหนีเข้าเมืองมาจากชายแดน จ่ายค่าหัวคนละ 5,000 บาท ใช้ไม้กระดานพาดนั่งซ้อนกันมา แฉคนขับเมา พยายามจะแซงรถบรรทุกก่อนไปเกี่ยวบังโคลนเสียหลักหมุนคว้างชนท้าย จนรถเหวี่ยงคนงานกระเด็นตกรถตายเจ็บกันระนาว ก่อนที่คนขับจะเผ่นหนี

เมื่อเวลา 03.40 น. วันที่ 23 ต.ค. พ.ต.ท.สุทธิรักษ์ หมอโอสถ สารวัตรเวรสภ.อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี รับแจ้งอุบัติเหตุที่ถนนสายเอเชีย บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 156-157 หมู่ที่ 2 ต.ท่างาม อ.อินทร์บุรี มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่รุดไปที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้อนิสสัน รุ่นฟอนเทียร์ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บท 5405 กำแพงเพชร จอดอยู่ที่ช่องทางด้านซ้ายสุดของถนน สภาพหักกลางพังยับเยิน พบศพแรงงานชายชาวพม่า 4 ศพ และผู้บาดเจ็บ 28 คน มีทั้งผู้ชาย เด็กผู้ชาย ผู้หญิง และเด็กผู้หญิง จึงลำเลียงส่งร.พ.สิงห์บุรี และต่อมามีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ศพ เป็นชายชาวพม่า อายุ 21 ปี ทั้งหมดเป็นชาวพม่าหลบหนีเข้าเมือง

จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุยังพบผู้ที่ไม่ได้รับบาดเจ็บอีก 11 คน นั่งจับกลุ่มร้องไห้ เป็นผู้ชาย 4 คน และผู้หญิง 7 คน ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุไปประมาณ 1 กิโลเมตร พบรถบรรทุก 18 ล้อพ่วง ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ตัวรถทะเบียน 81-4854 กำแพงเพชร และตัวพ่วงทะเบียน 81-3889 กำแพงเพชร ที่บริเวณบังโคลนล้อหลังข้างขวาได้รับความเสียหาย และพบนายวัตร แสนเทียม อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 หมู่ 8 ต.ท่าไม้ อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร คนขับรถบรรทุกรอมอบตัว

จากการสอบสวนนายวัตรให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถบรรทุกแร่มาจากจ.กำแพงเพชร เพื่อจะไปส่งที่จ.สระบุรี เมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุ มีความรู้สึกว่ารถโดนชนท้าย จึงจอดรถดูพบว่ารถกระบะพุ่งชนท้ายอย่างจัง มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก จึงรอมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ด้านนางแง อายุ 20 ปี หญิงชาวพม่าหลบหนีเข้าเมือง และพูดภาษาไทย ซึ่งรอดชีวิตจากอุบัติเหตุสยองดังกล่าว ให้การว่า พร้อมด้วยเพื่อนชาวพม่ารวม 39 คน หลบหนีเข้าเมืองมาจากอ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อจะเดินทางไปทำงานที่กรุงเทพฯ เสียค่าหัวในราคาคนละ 5,000 บาท โดยให้หักกับนายจ้างที่กรุงเทพฯ ขณะเดินทางมากับรถกระบะ ใช้ไม้กระดานพาดที่ตัวกระบะ และนั่งซ้อนกันมา พอมาถึงที่เกิดเหตุรู้ว่ารถชน และคนขับอยู่ในอาการเมา รีบลงมาบอกว่าให้หนี แต่พวกตนไม่รู้จะหนีไปไหน เพราะไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน

เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานในเบื้องต้นว่า คนขับคงจะขับรถมาด้วยความเร็วสูง และพยายามขับแซงรถบรรทุก 18 ล้อ แต่เนื่องจากรถน้ำหนักมาก เพราะบรรทุกคนมาจำนวนมาก อีกทั้งคนขับอยู่ในอาการเมา จึงทำให้รถเสียหลักไปเกี่ยวกับบังโคลนรถพ่วง 18 ล้อ ทำให้รถหมุนคว้างผู้คนกระเด็นออกมาจากตัวรถได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนายวัตร คนขับรถบรรทุก 18 ล้อ ดำเนินคดีในข้อหาขับรถประมาท พร้อมทั้งจะติดตามคนขับรถกระบะมาดำเนินคดีเช่นกัน ส่วนแรงงานพม่าที่หลบหนีเข้าเมือง จะส่งกลับประเทศต่อไป

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด