ใช้บัตรเอทีเอ็มต้องระวัง หลังนักแฮกเต็มกรุง ตั้งรหัสดูดบัตรเครดิต
ล่าสุดพนักงานรัฐวิสาหกิจเป็นเหยื่อ โดนไปอีก 8 แสนบาทหลังเจ้าหน้าที่ธนาคารโทรศัพท์สอบถาม เพราะสงสัยเบิกเงินสดวันละ 2 แสนบาท ติดกัน 4 วัน เจ้าตัวโร่อายัดบัตร ก่อนขอแบงก์ดูรายการถอนเงิน พบวายร้ายเอาไปใช้ถึงหาดใหญ่ ด้านตำรวจพิลึกให้ผู้เสียหายไปดูกล้องวงจรปิดจากธนาคารเจ้าของตู้เอทีเอ็ม และเอาภาพคนร้ายมาถึงจะออกหมายจับให้ ส่วนบิ๊กแบงก์ไทยพาณิชย์ยอมรับช่วงนี้มีการขโมยข้อมูลบัตรเอทีเอ็มมากขึ้น
เจอดีอีกราย พนักงานรัฐวิสาหกิจถูกวายร้ายก๊อบรหัสบัตรเอทีเอ็มรูดเงินไปใช้ 8 แสนบาท เปิดเผยเมื่อเวลา 14.40 น. วันที่ 29 เม.ย.
นายโชติทัศน์ หงษ์พานิช อายุ 34 ปี พนักงานรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง อยู่บ้านเลขที่ 20 ซอยลาดพร้าว 120 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.เทพพรศักดิ์ กากแก้ว พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ดอนเมือง ว่า ถูกคนร้ายแอบถอนเงินจากบัญชีธนาคารไป 800,000 บาท พร้อมทั้งนำสมุดบัญชี เงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาย่อยสุวรรณภูมิ ของนายโชติทัศน์ และเอกสารแสดงการถอนเงินจากบัญชีมอบไว้เป็นหลักฐาน
นายโชติทัศน์ให้การว่า ช่วงเช้ามีเจ้าหน้าที่ธนาคารไทยพาณิชย์ โทรศัพท์มาสอบถามว่า เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา
ได้ใช้บัตรเอทีเอ็มกดเงินสดออกจากบัญชีเป็นจำนวนมากหรือไม่ ตนตอบไปว่า ไม่ได้กด พนักงานธนาคารจึงแจ้งว่าพบความผิดปกติในบัญชี มีการถอนเงินออก จากบัญชีถึง 800,000 บาท พร้อมทั้งแนะนำให้ติดต่อไปยังธนาคารเจ้าของบัญชี ตนจึงรีบอายัดบัตรพร้อมเดินทางไปที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาย่อยสุวรรณภูมิ ที่เปิดบัญชีไว้ โดยแจ้งพนักงานธนาคารว่าเงินหายไปจากบัญชี พนักงานธนาคารจึงสำเนาเอกสารรายการเบิกจ่ายมาให้ดู พบรายการถอนเงินสดออกจากบัญชี วันละ 2 แสนบาท จำนวน 4 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา รวมเงินทั้งสิ้น 800,000 บาท
พนักงานรัฐวิสาหกิจให้การต่อว่า ครั้งแรกคนร้ายกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็ม ธนาคารกสิกรไทย ที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี
ครั้งที่ 2 ไปกดเงินสดที่ตู้เอทีเอ็ม ธนาคารกสิกรไทย ของวันสต็อปเซอร์วิส ดอนเมือง ครั้งที่ 3 กดเงินสดที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงเทพ หน้าร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น ถนนรัตนอุทิศ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และครั้งที่ 4 ที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารกสิกรไทย หน้าห้างทองอุดมทรัพย์ อ.หาดใหญ่ เช่นกัน โดยคนร้ายจะกดเงินสดช่วงตีหนึ่งถึงตีสองของทุกวัน ธนาคารแนะนำให้เข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนิน คดี ส่วนเงินที่ถูกคนร้ายรูดไปนั้น หากธนาคารตรวจสอบ พบถูกคนร้ายแอบขโมยเงินจากบัญชีไปจริง จะชดใช้คืนให้ทั้งหมด แต่บอกระยะเวลาแน่นอนไม่ได้
นายโชติทัศน์กล่าวต่อไปว่า จากนั้นตนจึงไปแจ้ง ความไว้ที่ สภ.ราชาเทวะ ก่อนไปแจ้งความที่ สน.โชคชัย
เพราะมีบ้านพักอยู่ในพื้นที่ ระหว่างนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ บอกว่าเพิ่งมีคนถูกขโมยเงินจากบัญชีมาแจ้งความไว้ เหมือนกัน พร้อมแนะนำให้แจ้งนักข่าวทราบ ตนจึงแจ้งนักข่าวก่อนเดินทางไปแจ้งความที่ สน.ดอนเมือง ส่วนที่ หาดใหญ่คงไม่ไป เพราะไม่สะดวกในการเดินทาง "ตกใจมาก ไม่คิดว่าเงินในบัญชีจะหาย คาดว่าคนร้ายคงใช้วิธีดูดรหัสจากตู้เอทีเอ็มที่ไปกดเงินเหมือนกรณี ที่ สน.โชคชัย แต่ผมไม่เคยไปกดเงินที่ปั๊มน้ำมันแห่งนั้น จึงอยากให้ตำรวจช่วยเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว ก่อนมีประชาชนตกเป็นเหยื่ออีก พร้อมฝากให้ผู้บริหารธนาคารเร่งประสานกับตำรวจในการติดตามตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็วที่สุด" นายโชติทัศน์กล่าวอย่างเซ็งๆ
ด้าน ร.ต.ท.เทพพรศักดิ์กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ได้ให้ ผู้เสียหายไปขอดูกล้องวงจรปิดของธนาคารต่างๆ ที่ถูก คนร้ายแอบกดเงินไป เมื่อได้ภาพมาแล้วจะขออนุมัติออก หมายจับตามภาพดังกล่าวให้
นายพงษ์สิทธิ์ ชัยฉัตรพรสุข ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายบริหารการป้องกันการทุจริต ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตามที่มีการนำเสนอข่าวผ่านสื่อมวลชนกรณีลูกค้าธนาคารไทยพาณิชย์ รวมถึงธนาคารบางแห่งโดนขโมยข้อมูลบัตรเอทีเอ็ม และถูกโจรกรรมเงินในบัญชีนั้น ธนาคารได้รับทราบเรื่องดังกล่าว และมิได้นิ่งนอนใจ โดยเร่งตรวจสอบหาข้อเท็จจริงตลอดจนร่วมมือกับตำรวจในการติดตามจับกุมคนร้าย พร้อมกันนี้ ในส่วนของลูกค้า เนื่องจากกรณีที่เกิดขึ้นเป็นการโจรกรรม ไม่ใช่ความผิดลูกค้า ดังนั้น ธนาคารจึงพร้อมเข้าไปให้การช่วยเหลือ และดูแลลูกค้าอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าช่วงนี้มีการระบาดของการขโมยข้อมูลบัตรเอทีเอ็มถี่มากขึ้น แม้ว่าหลายธนาคารได้ติดตั้งระบบการป้องกันขโมยข้อมูลที่ตู้เอทีเอ็มแล้วก็ตาม แต่คนร้ายมี ความพยายามพัฒนาการมาเป็นลำดับ
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา น.ส.ดวงชีวัน บุญเพชร อายุ 35 ปี น.ส.วันเพ็ญ จันทร์บัญชร อายุ 34 ปี และ น.ส.พิมลรัตน์ สุทธิมูลนาม อายุ 35 ปี
ทั้งหมดไม่รู้จักกันมาก่อน เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย หลังถูกคนร้ายขโมยข้อมูลบัตรเอทีเอ็มไปทำบัตรเอทีเอ็มปลอม กดเงินสดจากบัญชีธนาคารของผู้เสียหายทั้ง 3 คน ทำให้เงินหายรวมกันกว่า 1 แสนบาท เชื่อถูกคนร้ายตั้งรหัสในตู้เอทีเอ็มในปั๊มนํ้ามันแห่งหนึ่ง ย่าน กม.7 ที่ทั้ง 3 คน เคยไปใช้
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
