ผวาม็อบบุกตั้งด่านสกัด เส้นอีสานเข้ากทม.ทหารแฉจ้องป่วน

"รวบมือเผาได้ ยันไม่ใช่แพะ"


แม่ทัพภาค 2 สั่งตั้งด่านคุมเข้ม 24 ชม. สกัดคลื่นใต้น้ำระดมพลป่วนกรุง หลังจ.ม.ลูกโซ่ปลุกระดมระบาด พร้อมประสาน ตร.ฝ่ายปกครองสั่งล่าตัวคนทำ ด้าน ตร.กำแพงเพชรโชว์ฝีมือรวบมือเผา ร.ร.ได้อีก 1 ยันไม่ใช่แพะ

ขณะที่ "บุญรอด" ชี้ชัดกลุ่มอำนาจเดิมอยู่เบื้องหลังใบปลิวถล่ม คมช. แต่จะใช้ไม้นวมเรียกคุยก่อน ด้าน "สุรยุทธ์" ขึ้นเหนือถกอดีตผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย 5 จว.สยบคลื่นใต้น้ำ พร้อมเชิญ 7 แกนนำ ซึ่งส่วนใหญ่เคยใกล้ชิด "ลุงคำตัน" พ่อนายกฯร่วมโต๊ะกินขนมจีน พรรคทางสายกลาง ตั้งไข่ "สมศักดิ์" ประสาน "พล.อ.วินัย" สลายพรรคไทยรักไทย ชูนโยบาย "ย้อนศร" ทักษิณ ดัน "หม่อมอุ๋ย" ว่าที่นายกฯ คนต่อไป เผย "พจมาน" ต่อสายเป็นนายทุน หวังกลับสู่ขั้วอำนาจ แต่ถูกปัด กลัวโดนดาบ คมช.

หลัง พระเปรมสกฺโก หรือ พระเปรมศักดิ์ เพียยุระ อดีต ส.ส.ขอนแก่น เข้าพบนายเจตน์ ธนวัฒน์ ผู้ว่าฯ ขอนแก่น เพื่อยื่นจดหมาย ที่ลงชื่อโดยนายนำชัย ประสานไทย ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนปกป้องประชาธิปไตย (คปป.) ซึ่งเนื้อหาในจดหมายเป็นการปลุกระดม ต่อต้านการรัฐประหาร และส่งถึงอดีต ส.ส.และ ส.ว.ทุกคน เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ที่ผ่านมา

ทภ.2 ตั้งด่านสกัดคลื่นใต้น้ำ


ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม พล.ต.ธีระศักดิ์ ฤทธิวงศ์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า เรื่องนี้กองทัพภาคที่ 2 ได้สั่งตรวจสอบกลุ่มที่กระทำตัวเป็นคลื่นใต้น้ำไม่ประสงค์ดีต่อบ้านเมือง สร้างสถานการณ์ทำให้ประชาชนสับสนหรือสร้างความแตกแยกในบ้านเมือง โดยการส่งจดหมายแบบลูกโซ่แล้ว รวมทั้งยังได้สั่งให้ทหารและตำรวจ ในพื้นที่ความรับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 ตรวจสอบแล้วว่า เป็นฝีมือของคนกลุ่มใด พร้อมสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บังคับการตำรวจภูธร ทั้ง 19 จังหวัด เฝ้าระวังและให้สืบเสาะว่า เป็นฝีมือของกลุ่มใดก่อนรายงานให้กองทัพทราบโดยด่วน

"เราได้สั่งการให้ทั้งตำรวจและทหารในแต่ละจังหวัดตั้งด่านและจุดตรวจสกัดตลอด 24 ชั่วโมงอีกครั้งแล้ว เพื่อตรวจสอบบุคคลต้องสงสัยที่จะเคลื่อนกำลังเข้ากรุงเทพฯ เพราะเกรงว่าจะเข้าไปสร้างสถานการณ์สร้างความเสียหายให้บ้านเมือง" พล.ต.ธีระศักดิ์ กล่าว

รองแม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวอีกว่า ได้รับรายงานมาด้วยว่า กลุ่มที่ออกมาก่อกวน หรือคลื่นใต้น้ำนั้น เป็นกลุ่มที่สูญเสียอำนาจและผลประโยชน์ อย่างไรก็ตาม กองทัพภาคที่ 2 เองได้เร่งทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ทั้ง 19 จังหวัดแล้ว ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ต่างเข้าใจดีแล้ว

พ.ต.อ.ศักดา เตชะเกรียงไกร โฆษกสำนักงานตำรวจภูธรภาค 4 เปิดเผยว่า ปกติตำรวจก็ตั้งด่านในพื้นที่รับผิดชอบทั้ง 11 จังหวัดอยู่แล้ว แต่ส่วนใหญ่จะตั้งรอบนอก ไม่ตั้งในตัวเมือง เพราะอยากจะให้ภาพดูไม่น่ากลัวนัก จะตั้งในจุดสำคัญๆ ทั้งถนนมิตรภาพ ถนนมะลิวัลย์ และทางเข้าออกเมืองอื่นๆ โดยมีทั้งตำรวจและทหารร่วมกันดูแลความเรียบร้อย

รวบเพิ่มมือเผาร.ร.กำแพงเพชร


ส่วนความคืบหน้ากรณีตำรวจนำหมายศาลเข้าจับกุมตัวนายธง รอดเขียว น้องชายนายเทียน รอดเขียว กำนัน ต.เขาคีริส อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร พร้อมตั้งข้อหาลอบวางเพลิงเผาโรงเรียนใน อ.พรานกระต่าย และควบคุมตัวมาที่ สภ.อ.เมืองกำแพงเพชร พร้อมยื่นขออำนาจศาลจังหวัดกำแพงเพชรเพื่อฝากขังต่อ และคัดค้านประกันตัวจนครบ 12 วันนั้น ล่าสุดพนักงานสอบสวน สภ.อ.เมืองกำแพงเพชร นำตัวนายธง ไปขออำนาจศาลจังหวัดกำแพงเพชร เพื่อฝากขังต่อแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ช่วงบ่ายวันที่ 20 ตุลาคม ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธร จ.กำแพงเพชร ได้จับกุมนายสมนึก ไม่ทราบนามสกุลผู้ต้องสงสัยลอบวางเพลิงเผาโรงเรียนเพิ่มเติมอีกหนึ่งคน และเกี่ยวข้องเป็นญาติของผู้ต้องหาที่จับได้ก่อนหน้านี้ โดยนำกำลังไปจับกุมตัวได้ที่จ.เชียงราย และนำตัวมาควบคุมไว้ที่ สภ.อ.เมืองกำแพงเพชร แต่ยังไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดให้ผู้สื่อข่าวทราบ

กำแพงเพชรยังคุมเข้ม 24 ชม.


ก่อนหน้านั้น ในช่วงเช้า วันเดียวกัน พ.ต.อ.ดำรงค์ เพ็ชรพงษ์ ผกก.สภ.อ.เมืองกำแพงเพชร ร่วมประชุมประเมินผลการดูแลโรงเรียน ซึ่งที่ประชุมระบุถึงปัญหาการปฏิบัติงานในแต่ละพื้นที่ว่า จากการเข้าเวรยามมาอย่างต่อเนื่องทำให้ตำรวจผู้เข้าเวรยามอ่อนล้า เนื่องจากทำงานมานานหลายวันแล้ว

อย่างไรก็ดี นายมานพ ศิริไพบูลย์ รองนายกเทศมนตรีตำบลนครชุม และประธาน อปพร.กำแพงเพชร กล่าวว่า ตำรวจยังไม่ควรลดระดับการเฝ้าระวัง เพราะเหตุการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ โดยเมื่อวันที่ 28 กันยายน ได้มีโทรศัพท์มาขู่จะเผาโรงเรียนบ้านนครชุม ซึ่งจากการตรวจสอบทราบแล้วว่า จุดที่โทรฯมาขู่นั้นมาจากโทรศัพท์สาธารณะหน้าธนาคารกสิกรไทยสาขากำแพงเพชร ทำให้ต้องมีการเฝ้าระวังมาตลอด 24 ชั่วโมง

พ.ต.อ.ดำรงค์ กล่าวในที่ประชุมว่า จ.กำแพงเพชร มีคำสั่งถึงหน่วยงานทุกแห่งเตรียมการระวังป้องกันสถานที่ต่างๆ ที่เป็นจุดเสี่ยง ได้แก่ โรงเรียน วัด สถานีอนามัย สถานที่ราชการ ขณะนี้ผ่านมากว่า 20 วัน แต่ละพื้นที่ยังต้องมีการจัดเวรเฝ้าระวังกันตลอดเวลาและต้องเฝ้าระวังต่อไปอีกประมาณ 1 เดือน

"ส่วนที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องหา คดีลอบวางเพลิงโรงเรียนได้แล้วหนึ่งคนนั้น ขอยืนยันว่า ไม่ใช่การจับแพะ ที่จับได้ คือ ตัวจริงแน่นอน" ผกก.สภ.อ.เมืองกำแพงเพชร กล่าว

บุญรอด" ชี้ชัดกลุ่มอำนาจเก่าจ้องป่วน


เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 20 ตุลาคม พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่มีใบปลิวโจมตีคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ในพื้นที่ จ.เชียงราย และขอนแก่น ว่า ขณะนี้ยังคงมีกลุ่มที่ต่อต้าน คมช.อยู่ ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่า เป็นเหตุผลที่ คมช.ยังไม่ประกาศยกเลิกกฎอัยการศึก

พล.อ.บุญรอด กล่าวอีกว่า เบื้องต้นเป็นหน้าที่ของหน่วยงานด้านการข่าว เมื่อติดตามสืบสาวไปถึงใครได้ ก็คงจะต้องมีการเรียกตัวมาคุยกัน

เวลานั้นเราทราบดีว่าใครที่อยู่เบื้องหลัง ผมเคยเล่าให้ฟังแล้วว่ายังมีคลื่นใต้น้ำ ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเป็นกลุ่มอำนาจเก่า ต่อต้าน คมช. เป็นความพยายามจะทำให้เกิดความปั่นป่วน ให้เห็นว่าสถานการณ์ไม่นิ่ง ไม่สงบ รมว.กลาโหม

พล.อ.บุญรอด กล่าวอีกว่า ในช่วงขณะที่มีการปฏิรูปฯ มีการเคลื่อนไหวของมวลชนในต่างจังหวัดโดยเฉพาะในภาคอีสาน ที่พยายามเข้ามาใน กทม.โดยรถบัส ซึ่งกองทัพภาคที่ 2 ได้สกัดและผลักดันออกไป ซึ้งทราบกันดีว่า ใครอยู่เบื้องหลังในช่วงนั้น กลุ่มนี้เป็นกลุ่มอำนาจเก่าของรัฐบาล แต่นั้นเป็นช่วงที่มีการปฏิรูปฯ ซึ่งเขาจะเคลื่อนกำลังเข้ามา เรื่องของใบปลิวก็น่าจะเป็นผู้ที่อยู่ในกลุ่มนั้นทำ

พล.อ.บุญรอด กล่าวด้วยว่า คงต้องคุยกับ คมช.อีกครั้ง แต่ต้องรอให้มีความชัดเจนก่อน ขณะนี้เป็นเพียงข้อสันนิษฐานเบื้องต้น คมช.คงจะมีข้อมูลเชิงลึกอยู่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธาน คมช. จะเป็นผู้ดูแลเรื่องความมั่นคง กระทรวงกห.จะดูแลเรื่องงานข่าว ส่วนมาตรการในการลงโทษขณะนี้ยังไม่มีการหารือกัน

"คิดว่าเราคงมีมาตรการเรื่องปรับความเข้าใจ แต่ไม่ควรใช้มาตรการรุนแรง เพราะเราต้องการความสมานฉันท์ ซึ่งต้องมาจากการพูดคุย ถ้าเขาไม่เข้าใจก็ทำให้เข้าใจ" พล.อ.บุญรอด กล่าวและว่า จะเชิญอดีตนักการเมืองมาปรับความเข้าใจหรือไม่ คงต้องหารือกับ คมช.ก่อน ขณะนี้ยังบอกไม่ได้

รมว.กลาโหม กล่าวอีกว่า กฎอัยการศึก เป็นเรื่องของการป้องปราบ หากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่รุนแรง ไม่สำคัญมากก็จะไม่ใช้กำลังเข้าปราบปราม กฎอัยการศึกยังมีความจำเป็นจนกว่า คมช.จะรับประกันได้ว่า สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ระดับหนึ่ง อาจจะไม่ถึง 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็เห็นใจรัฐบาลในเรื่องภาพลักษณ์ประเทศ ซึ่งอาจจะมีการประนีประนอมให้เร็วขึ้นได้ อย่างที่บอกไว้ประมาณเดือนเศษ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างต้องเน้นเรื่องความมั่นคงเป็นหลัก" พล.อ.บุญรอด กล่าว

ขณะที่นายอารีย์ วงศ์อารยะ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีใบปลิวโจมตีและต่อต้าน คมช.ในพื้นที่ จ.เชียงราย และ ขอนแก่น ว่า เป็นเรื่องธรรมดาของผู้ที่เสียผลประโยชน์ ก็ต้องออกมาเคลื่อนไหวเช่นนี้

สุรยุทธ์ขึ้นเหนือ "สยบคลื่นใต้น้ำ"


เมื่อเวลา 09.45 น.วันเดียวกัน พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และพ.อ.(หญิง)คุณหญิงจิตรวดี จุลานนท์ ภริยา พร้อมคณะ ได้แก่ คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ รมต.สำนักนายกฯ นายสิทธิชัย โภไคยอุดม รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) นายบัญญัติ จันทน์เสนะ รมช.มหาดไทย พล.อ.พงษ์เทพ เทศประทีป เลขาธิการนายกฯ เดินทางด้วยเครื่องบินพิเศษแอร์บัส 319 จากท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 ไปยัง จ.ลำปาง เพื่อเป็นประธานถวายผ้าพระกฐิน ประจำปี 2549 ที่วัดบุญวาทย์วิหาร อ.เมือง จ.ลำปาง ในเวลา 13.00 น. ทั้งนี้ พล.อ.สุรยุทธ์ ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ก่อนที่จะขึ้นเครื่องโดยบอกเพียงสั้นๆ ว่า "พูดมากแล้ว"

ภารกิจของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสข่าวการเคลื่อนไหวคัดค้านรัฐบาลและการเปลี่ยนแปลงการปกครองของ คมช. ซึ่งในสัปดาห์ก่อนนายกฯ ได้เดินทางไปพบปะกับกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย(ผรท.)ที่ จ.สกลนคร และบุรีรัมย์ การเดินทางไปครั้งนี้มีกำหนดการจะไปพบปะกลุ่มผรท. ที่ห้องประชุมมณฑลทหารบก(ม.ทบ.)ที่ 32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี อ.เมือง จ.ลำปาง ในเวลา 10.45 น.ด้วย


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์