ฉุนถูกไล่จากบ้าน ดักตีกะโหลกแตก ชิงทอง 3 บาท

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 20 ต.ค. ร.ต.อ.สมเกียรติ อินปวก พนักงานสอบสวน (สบ.1) สน. นิมิตรใหม่ รับแจ้งเหตุฆ่าชิงทรัพย์ภายในถนนไมตรีจิตแยก 10 แขวงสามวาตะวันออก เขตคลองสามวา กทม. จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ชาลี เรียนถาวร รอง ผกก.ป.สน. นิมิตรใหม่ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่มไทร

ที่เกิดเหตุเป็นถนนดินกลางสวนห่างถนนใหญ่ ประมาณ 70 เมตร พบศพนายบุญชู สอนพรหม อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30 หมู่ 13 แขวงสามวาตะวันออก เขตคลองสามวา กทม. นอนหงายในสภาพหน้าผากถูกตีด้วยไม้จนกะโหลกแตกเลือดสาด

สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีกรมท่าทับเสื้อยืดคอกลมสีขาว กางเกงขายาวสีน้ำเงิน ไม่ใส่รองเท้า ใกล้กันพบไม้ด้ามจอบ 2 ท่อน หักกลางยาว 1 เมตร ตกอยู่ นอกจากนี้ยังมีกระป๋องกาวและขวดเบียร์ซุกในดงกล้วยห่างจุดพบศพเพียงเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ จึงรวบรวมเก็บไว้เป็นพยานหลักฐาน

สอบสวนนางสุเทพ สอนพรหม อายุ 76 ปี ภรรยาผู้ตายได้ความว่า นายบุญชูทำงานเป็น รปภ.ที่โรงหวาย ในซอยอุตสาหกรรมบางชัน ก่อนเกิดเหตุสะพายย่ามออกจากบ้านไปทำงานกะเย็น ไม่ทันถึงชั่วโมงมีชาวบ้านวิ่งมาบอกว่าเห็นสามีถูกทำร้ายเสียชีวิตจึงรีบไปดูพบมีทรัพย์สินเป็นสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท ของสามีหายไป สงสัยถูกคนร้ายดักชิงทรัพย์

พยานรายหนึ่งยืนยันว่า ผู้ต้องสงสัยน่าจะเป็นนายอาร์ม ไม่ทราบนามสกุล อายุประมาณ 18 ปี มีศักดิ์เป็นหลานของสะใภ้ผู้ตายเคยพักอยู่บ้านเดียวกัน แต่โดนนายบุญชูไล่ออกจากบ้าน เพราะมีพฤติกรรมลักเล็กขโมยน้อยและติดยาเสพติด ก่อนจะพบศพเห็นนายอาร์มแอบซุ่มดมกาวดื่มเบียร์อยู่กับเพื่อนอีก 2 คน แต่พยานไม่ได้สนใจ กระทั่งทั้ง 3 คน

วิ่งออกมาโบกรถแท็กซี่ที่ปากซอยด้วยท่าทีลุกลี้ลุกลน เมื่อเดินย้อนกลับเข้าไปจึงพบศพนายบุญชูถูกตีเสียชีวิตแล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า นายอาร์มน่าจะโกรธแค้นที่เคยถูกนายบุญชูไล่ออกจากบ้านเลยพาเพื่อนมาดักทำร้ายก่อนคว้าสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท ติดมือไปด้วย ฝ่ายสืบสวน สน.นิมิตรใหม่กำลังตามตัวมาสอบปากคำคลายปมคดีแล้ว

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ