18ล้อขยี้รถร.ท.ดับคาตาลูกเมีย

รถพ่วง 18 ล้อหลับในพุ่งชนท้ายกระบะ ร.ท.ทหารม้า ดับคาที่ต่อหน้าเมียและลูก 3 ชีวิตที่ขี่รถจักรยานยนต์ตามหลังมา

อุบัติเหตุคร่าชีวิตหัวหน้าครอบครัวต่อหน้าลูกและเมียรายนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 19 ตุลาคม ร.ต.ท.บรรหาร ชวนดี ร้อยเวร สภ.อ.เมืองสระบุรี ได้รับแจ้งอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วงชนกับรถปิกอัพ ที่บริเวณหน้าซุ้มประตูทางเข้าวัดหนองยาว ริมถนนพหลโยธินระหว่าง หลัก กม.ที่ 101-102 หมู่ 10 ต.หนองยาว อ.เมือง เป็นเหตุทำให้มีนายทหารเสียชีวิต หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมแพทย์เวร รพ.ศูนย์สระบุรี และเจ้าหน้าที่มูลนิธิ

ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์บรรทุก 18 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ส่วนตัวรถหมายเลขทะเบียน 82-0186 ราชบุรี และส่วนลูกพ่วงหมายเลขทะเบียน 82-0185 ราชบุรี ตกอยู่บริเวณไหล่ถนน ที่ด้านหน้ารถบรรทุกพ่วงชนอัดติดอยู่กับรถกระบะ แบบแค็บสีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน ณน-411 กรุงเทพมหานคร ซึ่งรถกระบะคันดังกล่าวสภาพพังยับเยินไปทั้งคันรถ โดยอุบัติเหตุดังกล่าวเกิดที่บริเวณมุมรั้วและเสาไฟฟ้าหน้าสำนักงานโทรศัพท์ส่วนภูมิภาคเขต 9

จากการตรวจสอบภายในที่นั่งคนขับรถกระบะ พบร่างของ ร.ท.สันธนา คงกำเนิด อายุ 53 ปี สังกัดกรมทหารม้าที่ 4 รอ. ทำหน้าที่ ผบ.ร้อย. แผนกสื่อสาร นอนเสียชีวิตในลักษณะเลือดท่วมร่าง ใกล้กันพบนางสิณีนาฏ คงกำเนิด อายุ 48 ปี ข้าราชครู ประจำ ร.ร.วัดปากข้าวสาร และลูกสาวเล็กๆ อีกสองคน กำลังยืนร้องไห้คร่ำครวญอยู่ข้างๆ รถ

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกันงัดรถที่กลายเป็นเศษเหล็กออก เพื่อนำร่าง ร.ท.สันธนา ออกจากตัวรถ แล้วมอบให้มูลนิธินำส่ง รพ.ศูนย์สระบุรี เพื่อชันสูตรพลิกศพ ส่วนคนขับรถบรรทุกพ่วงคู่กรณี ไม่ได้หลบหนีไปไหน ยืนสะลึมสะลือเหมือนคนเมาสุราอยู่ในที่เกิดเหตุ ดังนั้น เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวมาสอบสวน ทราบชื่อต่อมาคือ นายสุเทพ อยู่คล้ำ อายุ 44 ปี อยู่เลขที่ 74/2 หมู่ 10 ต.เหมืองใหม่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม

จากการสอบสวนนายสุเทพ ให้การรับสารภาพว่า ขับรถบรรทุกพ่วงคันดังกล่าวจาก จ.ราชบุรี มาบรรทุกสินค้าที่ จ.สระบุรี เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเกิดหลับใน ทำให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีต่อไป

ขณะที่นางสิณีนาฏ คงกำเนิด ภรรยา ร.ท.สันธนา ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุสามีได้ขับรถปิกอัพไปรับประทานอาหารมื้อเที่ยงด้วยกันที่บ้านพักในหมู่บ้าน ชนากานต์ 2 ซึ่งอยู่ที่ ต.หนองยาว ตรงข้ามกับกรมทหารม้าที่ 4 รอ. สถานที่ทำงาน เสร็จแล้วจึงได้ขับรถคันเดียวกันกลับไปทำงานต่อ โดยเธอขี่รถจักรยานยนต์พาลูกสาวทั้งสองคนจะไปเข้าเวรที่ ร.ร.วัดปากข้าวสาร โดยขี่รถตามหลังรถยนต์ของสามีมา

เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ สามีหยุดรถบริเวณปากทางรอจะขึ้นถนนพหลโยธิน เพื่อหลีกทางให้รถทางตรงไปก่อน ทันใดนั้นมีรถบรรทุกพ่วงที่วิ่งมาในเลนคู่ขนาน เพื่อเข้าตัวเมืองสระบุรีด้วยความเร็ว และรถพ่วงเกิดเสียหลัก ล้อหลังของส่วนพ่วง ตกไปยังไหล่ถนน แล้วพุ่งเข้าชนรถของสามีเข้าอย่างจัง จนเสียงดังสนั่นหวั่นไหว จนเสียชีวิตไปต่อหน้าต่อตา

"ปกติฉันและลูกๆ จะนั่งรถมากับสามีเป็นประจำ แต่วันนี้ไม่รู้นึกยังไง จึงบอกไปว่าจะขอขี่รถไปกับลูกๆ เอง ถ้าไปพร้อมกันคงตายกันทั้งหมดแน่ๆ" นางสิณีนาฏ กล่าว

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก