จับแก๊งโจ๋พิษณุโลก ปืนปลอมปล้นจยย.

ตร.พิษณุโลกโชว์ผลงานตามรวบแก๊งโจ๋รายใหญ่รวม 11 คน ก่อคดีอุกอาจตระเวนใช้ปืนปลอมปล้นจยย.ทั่วเมือง แฉหัวหน้าเคยต้องคดีติดคุกอื้อหลายคดี หลังพ้นโทษนำลูกน้องออกปล้น เจอเหยื่อขี่จยย.มาคนเดียวจะใช้ปืนปลอมจี้บังคับชิงจยย.ไป ก่อนถอดอะไหล่ นำไปขาย หาเงินซื้อเหล้าดื่ม และเที่ยวเตร่ หมดเงินก็ออกปล้นใหม่

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 19 ต.ค. พล.ต.ต.วสันต์ วัสสานันท์ รองผบช.ภ.6 พล.ต.ต.ขัตติยะ อนันตวงศ์ ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก พ.ต.อ.เฉลิม สุวรรณ์รัตน์โอสถ ผกก.สภ.อ.เมืองพิษณุโลก ร่วมกันนำตัวกลุ่มวัยรุ่น 11 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์มาแล้วนับไม่ถ้วน ประกอบด้วยนายจรัสพัฒน์ สนธิกัณย์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 599/18 ถ.แสนพลพ่าย ต.ในเมือง

เคยติดคุกที่จ.นครสวรรค์ คดีลักรถจักรยานยนต์ นายเอกลักษณ์ มณเทียร อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 129/16 ต.ในเมือง นายอภิวัช พงษ์พานิช อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39/25 ถ.วังจันทน์ ต.ในเมือง เคยถูกจำคุก 3 ปี คดีคดีลักทรัพย์ เมื่ออายุ 8 ขวบ และต้องคดีชิงทรัพย์ เมื่ออายุ 14 ปี นายเค (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นักศึกษาชั้นปวช.ปี 1 บ้านอยู่ต.บึงพระ นายเอ็ม (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นักศึกษาปวช.ปี 1 บ้านอยู่ต.สมอแข อ.เมือง นายบอย (นามสมมติ) อายุ 17 ปี บ้านอยู่ต.ในเมือง เรียนอยู่ชั้นม.5 นายเอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี บ้านอยู่ต.สมอแข นายเอ็ม (นามสมมติ) อายุ 16 ปี บ้านอยู่ต.มะขามสูง นายบี (นามสมมติ)

อายุ 16 ปี บ้านอยู่ต.ในเมือง นายโต (นามสมมติ) อายุ 15 ปี นักเรียนชั้นม.3 บ้านอยู่ต.ในเมือง และนายดี (นามสมมติ) อายุ 14 ปี บ้านอยู่ต.สมอแข เรียนอยู่ชั้นม.2 พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 2 คัน คันแรกสีเทา-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน คันที่ 2 ทะเบียน ขขต- 502 พิษณุโลก และป้ายทะเบียนของรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีเทา-ดำ ทะเบียน 633 พิษณุโลก พร้อมปืนปลอมที่ใช้ก่อเหตุ 1 กระบอกของนายอภิวัชซึ่งซื้อมาจากตลาดไนท์พลาซ่า ราคา 300 บาท สำหรับแก๊งดังกล่าวตั้งชื่อว่า แก๊งชินลาภ

ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 19 ต.ค. พ.ต.อ.เฉลิมสั่งการให้ตำรวจชุดป้องกันและปราบปรามติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุใช้ปืนจี้ชิงทรัพย์นายชุมพล ชุ่มเย็น อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84/2 ม.2 ต.ลานกระบือ อ.ลานกระบือ จ.กำแพงเพชร บริเวณซอยข้างอู่สามารถการช่าง ถ.มิตรภาพ ต.สมอแข คนร้ายเป็นวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปในหมู่บ้านชินลาภ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมติดตามไป กระทั่งสามารถจับกุมตัวนายจรัสพัฒน์เอาไว้ได้

ตรวจค้น พบปืนพกอยู่ในเอวด้านขวา พร้อมกับขยายผล ผู้ต้องหาให้การว่ามีเพื่อนร่วมก่อเหตุอีกหลายคน จึงติดตามจับกุมนายเอ็ม และนายอภิวัชได้ที่บริเวณหน้าโชว์รูมรถยนต์ มิตซูบิชิ ถ.มิตรภาพ ต.สมอแข ทั้งหมดรับสารภาพว่าขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนไปในพื้นที่อ.เมืองพิษณุโลก เมื่อเจอเหยื่อขี่รถมาคนเดียว จะใช้ปืนปลอมจี้บังคับเอารถจักรยานยนต์ และทรัพย์สิน

จากนั้นจะนำทรัพย์ไปขาย และถอดแผ่นป้ายนำไปทิ้งหลังกำแพงวัดเขื่อนขัน พร้อมนำของกลางทั้งหมดไปเก็บไว้ที่บ้านนายอภิวัช ก่อนจะแยกชิ้นส่วนไปขายตามร้านรับซื้ออะไหล่ เมื่อได้เงินมาแล้วจะนำไปซื้อเหล้าดื่มและเที่ยวเตร่ในยามค่ำคืน หลังจากเงินหมด ก็จะกลับมาก่อเหตุเป็นอย่างนี้ประจำ

เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าทำมาแล้ว 5 ครั้งเท่านั้น ซึ่งมีผู้เสียหายยืนยันชี้ตัวได้อย่างถูกต้อง ส่วนคดีอื่นอีกกว่า 10 คดี ซึ่งมีลักษณะการชิงทรัพย์คล้ายกัน แต่ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ เพราะยังไม่มีผู้เสียหายมาชี้ตัวยืนยัน ด้านพล.ต.ต.วสันต์ กล่าวว่า ขอแจ้งไปยังผู้เสียหายที่สงสัยว่าถูกกลุ่มของเยาวชนรายนี้ก่อเหตุชิงทรัพย์ ให้เดินทางมาดูตัวเพื่อจะยืนยันว่าเป็นกลุ่มเดียวกันหรือไม่ เนื่องจากก่อเหตุมาจำนวนมาก แต่ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ ซึ่งอาจจะเป็นกลุ่มเยาวชนกลุ่มนี้ ส่วนวัยรุ่นที่ยังไม่ได้จับกุม เจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนสอบสวน และจะติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด