เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 29 มีนาคม พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ พฤกษ์สุวัฒน์ สว.สส.สน.บางพลัด
ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้ปืนใส่ธนาคารกรุงเทพ สาขาบางยี่ขัน ปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 57/3 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด ห่างจากบ้านนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ประมาณ 300 เมตร เมื่อออกไปตรวจสอบพบประตูกระจกห้องโถงโล่งใช้สำหรับเก็บของชั้นล่าง มีรอยกระสุนปืน 6 รู และพบรอยกระสุนที่กำแพงห้องโถง และหัวตะกั่วขนาด .38 ตกอยู่ 1 หัว ตำรวจจึงเก็บรวบรวมไว้แป็นหลักฐาน
สอบปากคำนายสุพจน์ กันภัย อายุ 44 ปี จักรยานยนต์รับจ้างปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 57 ให้การว่า
ได้ยินเสียงปืนหลายนัดขณะขี่จักรยานยนต์ผ่านปากซอยจรัญฯ 50 ที่อยู่ตรงข้ามธนาคาร เมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. วันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม เมื่อขับขี่จักรยานต์ไปดูไม่พบความผิดปกติ กระทั่งวันนี้มารู้ว่าธนาคารถูกยิง
ด้านผู้จัดการธนาคารกรุงเทพสาขาดังกล่าว กล่าวว่า เดินทางมาทำงานที่ธนาคารเมื่อเวลา 07.30 น.
พบว่ากระจกประตูด้านหน้าชั้นล่างถูกยิงเสียหาย จึงแจ้งตำรวจทันที ปกติแล้วในวันอาทิตย์จะไม่มี รปภ.อยู่ที่ธนาคารสาขานี้ แต่ติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ 2 ตัว ตัวหนึ่งอยู่ด้านบนประตูกระจกที่ถูกยิง แต่กล้องหันไปจับภาพด้านในห้องโถง อีกตัวนั้นอยู่ด้านบนตู้เอทีเอ็ม ก็จับภาพเฉพาะจุดที่กดเงินเท่านั้น ไม่ได้จับภาพไปถึงบริเวณถนน เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า คนร้ายต้องการสร้างสถานการณ์
นายสุวรรณ แทนสถิตย์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงสาขาธนาคารหลายแห่งถูกลอบยิง และปาระเบิดว่า เป็นเรื่องที่ไม่มีทางรู้ล่วงหน้าว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น แต่ธนาคารก็พยายามที่จะป้องกันอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ธนาคารพยายามดูแลสถานการณ์ตามความเหมาะสม
"ที่สาขาของธนาคารกลายเป็นเป้าถล่มนั้นก็เป็นเรื่องที่หนักใจอยู่บ้าง แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้น ไม่กังวลอะไร แต่เสียความรู้สึกมากกว่า อย่างไรก็ตาม ธนาคารพยายามดูแลความรู้สึกของลูกค้าประชาชนให้มากที่สุด เรื่องที่เกิดขึ้นไม่มีใครถูกใครผิด แต่เราก็คงไม่มีอะไรต้องชี้แจงอะไร เชื่อว่าต่อไปคนที่เข้าใจไม่ตรงกับเรา เขาจะสามารถเข้าใจเราดีขึ้นในภายหลัง เพราะเราก็ไม่ได้อยู่พวกข้างไหน เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของโชค ที่เราโชคไม่ดีเอง" นายสุวรรณกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ธนาคารถูกเป็นเป้าในการโจมตีเกิดจากกรณีที่ธนาคารมี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีนั่งเป็นที่ปรึกษาอยู่หรือไม่ และจำเป็นต้องปรับภาพลักษณ์หรือไม่ นายสุวรรณกล่าวเพียงว่า ไม่ทราบและหวังว่าประชาชนจะเข้าใจในที่สุด