น้ำทะลักท่วมบ่อ ไอ้เข้หลุด 20 ตัว-ไล่ล่าระทึก

"สถานการณ์น้ำท่วมแสนสาหัส"


สถานการณ์น้ำท่วมได้สร้างความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสหลายจังหวัด ประชาชนไร้ที่อยู่อาศัย สูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินมหาศาล พื้นที่เกษตรจมบาดาล ขณะเดียวกัน กรมชลประทานเตรียมผันน้ำเข้าทุ่งนา 18 แห่งในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคกลาง เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเหนือไหลหลากเข้าท่วมกรุงเทพฯ โดยเฉพาะระหว่างวันที่ 23-25 ต.ค.นี้ น้ำทะเลจะหนุนสูงอาจจะทำให้พื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลถูกน้ำท่วมหนักนั้น

กทม.จับมือกรมชลฯสู้น้ำท่วม

สำหรับการเตรียมการตั้งรับน้ำท่วมของ กทม. เมื่อวันที่ 16 ต.ค. นางบรรณโศภิษฐ์ เมฆวิชัย รองผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยภายหลังประชุมผู้บริหารสำนักการระบายน้ำเพื่อหารือเตรียมการรองรับสถานการณ์น้ำในช่วงปลายเดือน ต.ค.นี้ ว่า ได้ทำหนังสือถึงกรมชลประทาน ขอให้เตรียมการรองรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ กทม. ฝั่งตะวันออกคือ 1. เร่งก่อสร้างทำนบกั้นน้ำชั่วคราว ด้านทิศใต้ของคลองหกวาสายล่าง 6 แห่ง ให้แล้วเสร็จภายในเดือน ต.ค.นี้ 2. ให้กำจัดวัชพืชและขุดคลองพระองค์ไชยานุชิต และคลองด้านใต้ซึ่งเป็นทางระบายน้ำออกสู่ทะเล และ 3. ให้ผันน้ำจากพื้นที่ด้านเหนือไปด้านตะวันตกสู่แม่น้ำสุพรรณบุรี แม่น้ำท่าจีนเพิ่มขึ้น เพื่อลดปริมาณน้ำที่จะลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาไม่ให้ระดับน้ำสูงเกินกว่า 2.2 เมตร เป็นการป้องกันไม่ให้เกิดอุทกภัยในพื้นที่กรุงเทพฯ

มือมืดแอบฉกกระสอบทราย

นางบรรณโศภิษฐ์กล่าวด้วยว่า ระดับน้ำทะเลล่าสุดหนุนสูงเพียง 1.92 เมตร ไม่ส่งผลกระทบให้เกิดปัญหาน้ำเอ่อล้นตลิ่งแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ กทม. ต้องเฝ้าระวังพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นพิเศษ เนื่องจากจะต้องรองรับน้ำเหนือขนาดใหญ่ที่จะไหลลงสู่ กทม. โดยได้ถอนกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยน้ำท่วมที่ประจำอยู่ในพื้นที่ฝั่งตะวันออก ย้ายมาประจำตามจุดต่างๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อเฝ้าระวังระบบป้องกันน้ำท่วม เช่น เขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยา และกระสอบทราย เนื่องจากมีชาวบ้านขโมยกระสอบทรายของ กทม. เฉลี่ยวันละ 2,000 ถุง

ขณะเดียวกัน สำนักการระบายน้ำได้จัดทำแผนป้องกันน้ำท่วมเพื่อรองรับสถานการณ์น้ำทะเลหนุนวันที่ 23-25 ต.ค. ไว้แล้ว หลังจากที่นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. สั่งการไปเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยเฉพาะพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเน้น 1. ติดตามตรวจสอบความสูงของระดับน้ำ 2. ตรวจสอบระดับความสูง และความแข็งแรงของแนวกระสอบทรายให้สัมพันธ์กับระดับน้ำ บริเวณจุดอ่อนอาจจะส่งผลกระทบต่อสถานที่สำคัญ 3. ตรวจสอบจำนวนกระสอบทราย และสำรองกระสอบทรายให้เพียงพอ 4. เฝ้าระวังแนวกระสอบทราย โดยใช้กำลังเทศกิจของเขต และขอกำลังสนับสนุนจากทหาร 5. ขอถอนกำลังสำนักการระบายน้ำจากพื้นที่ด้านตะวันออกเข้ามาดูแลพื้นที่เขตชั้นใน

อภิรักษ์ ยันรับน้ำท่วมได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการประชุมติดตามการแก้ปัญหาอุทกภัยร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กทม. ผู้ว่าราชการจังหวัดที่ประสบภัยน้ำท่วม โดยมี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานนั้น นายกรัฐมนตรีได้สอบถามถึงความพร้อมในแผนการของ กทม. จากนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งนายอภิรักษ์ ยืนยันว่าสามารถรับมือและควบคุมได้ รวมทั้งงบประมาณฉุกเฉิน 100 ล้านบาท ของ กทม.นั้น ขณะนี้ใช้ไปเพียง 47.3 ล้านบาท ยังมีงบประมาณเพียงพอในการบริหารจัดการได้ ซึ่ง พล.อ.สุรยุทธ์ได้ถามย้ำถึงสถานการณ์อย่างละเอียดและแสดงความเป็นห่วงพื้นที่กรุงเทพมหานคร พร้อมถามกลับนายอภิรักษ์ว่า รัฐบาลจะสามารถบอกกับประชาชนได้หรือไม่ ว่ากรุงเทพมหานคร สามารถรับมือได้ใช่หรือไม่ ซึ่งทางผู้ว่าฯกทม.ยืนยันในที่ประชุมว่าสามารถรับมือน้ำท่วมได้อย่างแน่นอน

เมืองกรุงสังเวย 2 ศพ


เย็นวันเดียวกัน ร.ต.ท.สุพล มีศิลป์ พงส. (สบ.1) สน.ลาดกระบัง ไปสอบสวนเด็กจมน้ำเสียชีวิต 2 ศพ หลังชุมชนคลังสินค้าลาดกระบัง ที่เกิดเหตุเป็นทุ่งหญ้าน้ำท่วมขัง ลึกเมตรเศษ เนื้อที่หลายสิบไร่ พบชาวบ้านงมศพหนูน้อยขึ้นฝั่งแล้วทราบชื่อ ด.ช.นันทกร หรือน้องเฟิร์ส ปฏิมาหงษ์ทอง อายุ 6 ขวบ กับ ด.ญ.วราภรณ์ หรือน้องแมงปอ นามวิชัย อายุเท่ากัน ทั้ง 2 เป็นนักเรียนชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนวัดบำรุงรื่น ย่านลาดกระบังและเป็นญาติกัน โดยมีนางระเบียบ ปฏิมาหงษ์ทอง อายุ 53 ปี ยายของเด็กกอดศพร่ำไห้ พร้อมให้การว่า ทั้งคู่อาศัยอยู่กับตนที่บ้านเลขที่ 340/1 หมู่ 1 ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ ก่อนพบจุดจบทั้ง 2 นำเรือท้องแบนพลาสติกออกมาพายเล่นตามประสาเด็ก คาดว่าเรืออาจเสียหลักพลิกคว่ำทำให้ เด็กพลัดตกน้ำ

ปทุมธานีรอลุ้นระดับน้ำ

ที่ จ.ปทุมธานี พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ. ทหารสูงสุด พร้อมคณะ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมและมอบสิ่งของให้ผู้ประสบภัยที่หมู่ 4 ต.บ้านกระแชง อ.เมืองปทุมธานี พร้อมตรวจความพร้อมของที่สถานีสูบจ่ายน้ำสำแล โดย พล.อ.บุญสร้างเปิดเผยว่า การเดินทางมาครั้งนี้เพื่อตรวจสอบสถานีสูบจ่ายน้ำแห่งนี้ว่ามีความพร้อมรับสถานการณ์หรือไม่ สำหรับระดับน้ำทั่วๆไปในเขตพื้นที่จังหวัดปทุมธานี พบว่าระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ส่งเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง และก่อนหน้านั้น พญ.วันทนีย์ วัฒนะ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ และคณะ เดินทางไปเยี่ยมตำรวจ สภ.อ.สามโคก ที่ถูกน้ำท่วมโรงพักด้วย

น้ำท่วมถนนตัดเส้นทางเลี่ยง

สำหรับสถานการณ์ที่ จ.อุทัยธานี ระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ท่วมถนนเข้าตัวเมืองอุทัยธานี บริเวณหน้าสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอุทัยธานี รถเล็กและจักรยานยนต์ผ่านไม่ได้ ขณะเดียวกันนายไตรสิทธิ์ สินสมบูรณ์ทอง รอง ผวจ.อุทัยธานี ได้ขอความร่วมมือ พ.อ. ประเสริฐ ทองดี ผบ.นพค.15 อ.ห้วยคต และนายเผด็จ นุ้ยปรี นายก อบจ.อุทัยธานี นำรถบรรทุกดินกว่า 10 คัน ร่วมกับทางหลวงชนบทอุทัยธานี นำรถเกรดและรถอัดบดปรับถนนจากสายอุทัยธานี-ท่าน้ำอ้อย ผ่านที่ดิน ส่วนตัวของนายศิลป์ชัย เชษฐศิลป์ อดีต ส.ว.อุทัยธานี ไปเชื่อมต่อถนนสายอุทัยธานี-โกรกพระ ตรงหน้ากองบังคับ การตำรวจภูธรจังหวัด เพื่อใช้เป็นทางเลี่ยงเข้าตัวเมืองอุทัยธานี และไปภาคเหนือผ่าน อ.สว่างอารมณ์ อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ ไปสู่ จ.กำแพงเพชร

ระดมพลสร้างพนังกั้นน้ำ


ทางด้านนายพัฒพงศ์ พยัคฆันตร รอง ผวจ.อุทัยธานี นำรถยีเอ็มซีของ มทบ.31 ค่ายจิระประวัติ จ.นครสวรรค์ ออกตรวจเส้นทางสายอุทัยธานี-วัดสิงห์ พบบริเวณทางโค้งหน้าโรงเรียนบ้านหลุมเข้า น้ำท่วมสูงถึง 1 เมตร รถเล็กวิ่งผ่านไม่ได้ นอกจากนี้เส้นทางสายอุทัยธานี-ท่าน้ำอ้อย ยังคงมีน้ำระดับสูง ไม่สามารถสัญจรได้ ขณะที่นายภูวนาถ เอกรัตน์ นอภ.สว่างอารมณ์ และนายเอ ถนอมมิตรวัฒนา กำนัน ต.สว่างอารมณ์ นำชาวบ้าน 150 คน ขนกระสอบทรายสร้างพนังกั้นน้ำริมถนนสายอุทัยธานี-ท่าน้ำอ้อย และแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่ต้องการ ส่วนความช่วยเหลืออื่นๆ ตลอดทั้งวันยังคงมีผู้มีจิตรศรัทธานำสิ่งของอุปโภคบริโภคเข้าจ่ายตามจุดไม่ขาดสาย

สถานที่ราชการจมบาดาล

เนื่องจากบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัด ศาลจังหวัด สถานีตำรวจ ศูนย์ราชการและรัฐวิสาหกิจหลายแห่ง น้ำยังมีระดับสูง เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเดินทางเข้าทำงานได้ บางรายต้องจ้างเรือหางยาวมาทำงานวันละ 80 บาท โดยตั้งแต่เช้า สำนักงานขนส่งจังหวัดอุทัยธานีร่วมกับ มทบ.31 ค่ายจิระประวัติ นำรถยีเอ็มซีวิ่งรับส่งชาวบ้านและข้าราชการที่จะไปทำงานตามเส้นทางสาย บขส.อุทัยธานี-วิทยาลัยเทคนิค ส่วนนางเตือนจิตรา แสงไกร นายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานี จัดรถไถนาลากกระบะตระเวนวิ่งบริการรับส่ง ประชาชนตามเส้นทางที่ถูกน้ำท่วมตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ ยังระดมเจ้าหน้าที่กองช่างและ อปพร. สร้างสะพานเดินเชื่อมร้านค้าในตลาดกับส่วนราชการ ให้ประชาชนสัญจรไปมาอย่างสะดวกอีกทางหนึ่ง

จับจระเข้หนีน้ำท่วมไม่ทัน

ส่วนการขนย้ายจระเข้ในฟาร์มจระเข้อุทัยธานี ของนายอมร จิตตาพินิจมาศ หมู่ 1 ต.สะแกกรัง อ.เมืองอุทัยธานี เพื่อหนีน้ำท่วมนั้น ล่าสุด นายพัฒพงศ์ พยัคฆันตร รอง ผวจ.อุทัยธานี นายเกียรติศักดิ์ อิ่มเสนะวิน นักวิชาการประมง 7 รักษาราชการประมงจังหวัด เดินทางมาเร่งรัดการจับจระเข้เป็นวันที่ 2 สามารถจับจระเข้ได้เพียง 65 ตัว จาก 4,500 ตัว ขณะเดียวกัน ระดับกลับเพิ่มสูงขึ้นและหวั่นเกรงว่ากำแพงบ่อจะทรุดพังลงมา จึงต้องเพิ่มทีมจับจากฟาร์มจระเข้วสันต์ อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท มาช่วยทีมจากฟาร์ม จ.สมุทรปราการ ของนายอุทัย ยังประภากร โดยใช้ไฟฟ้าแรงสูงช็อตจับใส่เรือท้องแบน ไปปล่อยที่ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์อุทัยรัช หมู่ 3 ต.หนองไผ่แบน อ.เมืองอุทัยธานี

พนังกั้นน้ำพังถล่มเมืองจม

ที่ จ.อ่างทอง แนวกั้นน้ำพังหลายจุด เนื่องจากไม่สามารถต้านกระแสน้ำที่ไหลบ่าอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำขยายวงกว้างท่วมบ้านเรือนประชาชนเพิ่มมากขึ้นล่าสุดน้ำไหลผ่านคลองโพสะ กับคลองชลประทานเข้าท่วมทุ่งนาและบ้านเรือนราษฎรในเขต อ.เมือง หลายพื้นที่ ทั้ง ต.คลองวัว ต.มหาดไทย และ ต.บ้านแห ฝั่งตะวันตก หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ จะทำให้น้ำล้น 2 ฝั่งคลองที่เชื่อมต่อแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าท่วมบ้านประชาชนขยายวงกว้างออกไปอย่างรวดเร็วอย่างแน่นอน อาจสร้างความเสียหายเพิ่มขึ้นอีกนับพันครอบครัว

รพ.ผวาเร่งสร้างคันป้องกัน

สำหรับ ต.ศาลาแดง ต.ป่างิ้ว อ.เมืองอ่างทอง หลังจากที่คันกั้นน้ำบริเวณวัดหลุมไก่พัง ทำให้พื้นที่ทั้ง 2 ตำบลถูกน้ำท่วมจมทั้งหมดแล้ว และน้ำยังไหลบ่าไปท่วมบริเวณรอบนอกของ รพ.ไชโย ทางจังหวัดได้ระดมกำลังทหารสร้าง คันกั้นน้ำอย่างโกลาหล เพื่อไม่ให้ทะลักเข้าท่วมโรงพยาบาล ด้าน นพ.ถวัลย์ พบลาภ สาธารณสุขจังหวัดอ่างทอง เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวว่า รพ.ไชโย และ รพ.โพธิ์ทอง ถูกน้ำท่วมจนต้องขนย้ายเครื่องมือทางการแพทย์ และอพยพคนไข้ไปที่อื่นนั้น ขอชี้แจงว่า ขณะนี้ รพ.ไชไยยังเปิดให้บริการปกติ และไม่ได้มีการขนย้ายคนไข้หรือเครื่องมือทางการแพทย์แต่อย่างใด ส่วน รพ.โพธิ์ทองยังเปิดให้บริการตามปกติเช่นกัน ถึงแม้มีการขนย้ายเครื่องมือทางการแพทย์และคนไข้หนักบางส่วน ไปยัง รพ.แสวงหา กับ รพ.วิเศษชัยชาญ ก็ตาม แต่ยังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้

เตือนอย่าขึ้นราคาสินค้า


ขณะเดียวกัน จังหวัดอ่างทองได้ออกประกาศให้ผู้ค้าปิดป้ายแสดงราคาสินค้าหรือค่าบริการให้เห็นให้ชัดเจน พร้อมห้ามมิให้กักตุนสินค้า ป้องกันพ่อค้าหน้าเลือดเอาเปรียบประชาชนที่ประสบภัย หากประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือถูกเอารัดเอาเปรียบในการซื้อขายสินค้า สามารถร้องเรียนได้ที่ศูนย์ช่วยรับเรื่องร้องเรียนราคาสินค้าที่สำนักงานการค้าภายในจังหวัดอ่างทอง หรือทางสายด่วนแม่บ้าน 1569 ตลอดเวลา

ในหลวงพระราชทานถุงยังชีพ

นอกจากนี้ ชาวอ่างทองต่างพากันปลื้มปีติ เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณแก่ผู้ประสบอุทกภัย พระราชทานเครื่องอุปโภคบริโภคมาช่วยเหลือ โดยนายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ผวจ.อ่างทอง เปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณแก่ผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดอ่างทอง ซึ่งนายดิสธร วัชโรทัย รองเลขาธิการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นผู้แทนพระองค์นำถุงยังชีพพระราชทานมามอบให้กับประชาชนผู้ประสบอุทกภัยใน ต.ศาลาแดง กับ ต.ป่างิ้ว อ.เมืองอ่างทอง ที่บริเวณถนนสายอ่างทอง-โพธิ์ทอง จำนวน 2,000 ครอบครัว

พระราชทานอาหารพสกนิกร

ผวจ.อ่างทอง เปิดเผยอีกว่า นอกจากนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งเป็นองค์สภานายิกา สภากาชาดไทย และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ได้พระราชทานอาหารประกอบเลี้ยงผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ จ.อ่างทอง โดยมอบหมายให้นางอัจฉรา สงวนพงศ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดอ่างทอง และ น.ส.สุนี โพธิ์ทองคำ หัวหน้าหน่วยสนับสนุนบริการบรรเทาทุกข์เคลื่อนที่บรรเทาทุกข์ สภากาชาดไทย และสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดอ่างทอง เป็นผู้ประกอบอาหารวันละ 2,000 ชุด

ได้ที่ดินสร้างศูนย์ผู้ประสบภัย

ความคืบหน้าในเรื่องการสร้างที่พักช่วยผู้ประสบภัยของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ นั้น พล.อ.ณพล บุญทับ รองสมุหราชองครักษ์ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เดินทางมาที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดอ่างทอง เข้าร่วมประชุมกับ ผวจ.อ่างทอง และผู้เกี่ยวข้อง เร่งจัดสร้างที่พักตามพระราชประสงค์ โดย พล.อ.ณพลเปิดเผยว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้พระราชทานเงินส่วนพระองค์เบื้องต้น 2 ล้านบาท ให้จังหวัดอ่างทองดำเนินการสร้างศาลาช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดอ่างทองและจังหวัดใกล้เคียง โดยมีพระราชเสาวนีย์ให้จัดหาที่ดินซึ่งเป็นที่สูง น้ำท่วมไม่ถึงอยู่ใกล้จังหวัดอ่างทอง จัดสร้างศาลาอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ใช้เป็นศูนย์กลางรองรับราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยจนไร้ที่อยู่อาศัย ซึ่งพบว่าพื้นที่หมู่ที่ 8 ต.โพสะ อ.เมืองอ่างทอง เป็นพื้นที่ที่เหมาะสม ขนาดพื้นที่ 76 ไร่เศษ เป็นที่สาธารณประโยชน์ ถมเรียบร้อยซึ่งที่ดินจังหวัดจะสำรวจแนวเขตที่ดินให้ชัดเจนอีกครั้ง

อ่างทองเฮี้ยนวันเดียว 5 ศพ

ขณะเดียวกัน กระแสน้ำได้คร่าชีวิตชาวอ่างทอง วันเดียวถึง 5 ศพ รายแรก ด.ช.โยธิน ไพรดี อายุ 14 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43/2 หมู่ 3 ต.บ่อแร่ อ.โพธิ์ทอง ถูกน้ำพัดร่างจมเสียชีวิตบริเวณทางเข้าวัดกลางพุทธนิมิตร ในหมู่บ้าน ขณะเดินไปซื้อของที่ร้านค้า รายที่ 2 ด.ช.ศุภกิจ อาจละออ อายุ 14 ปี จมน้ำเสียชีวิตใต้ถุนบ้านเลขที่ 41 หมู่ 5 ต.ตลาดกรวด อ.เมืองอ่างทอง หลังลงไปเล่นน้ำที่ไหลเชี่ยว รายที่ 3 สังเวยทีเดียว 2 ศพ คือ ด.ช.ศุภวิทย์ เชื้อมั่น อายุ 12 ปี กับ ด.ช.สัญญลักษณ์ ม่วงกรุง อายุ 14 ปี เป็นเด็กกำพร้าวัดสระแก้ว จมน้ำเสียชีวิตใต้ศาลาวัด หลังร่วมกับเพื่อนอีก 2 คนลงไปเล่นน้ำ และรายที่ 4 เป็น ด.ช.ไม่ทราบชื่อ อายุ 13 ปี หมู่ 7 ต.ป่างิ้ว อ.เมืองอ่างทอง รวมผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยของจังหวัดอ่างทองขณะนี้รวมทั้งหมด 9 ราย

น้ำจ่ออุตสาหกรรมโรจนะ


จ.พระนครศรีอยุธยา ภายหลังที่พนังกั้นน้ำ 8 จุด ใกล้กับหมู่บ้านการเคหะแห่งชาติ อ.พระนครศรีอยุธยา ถูกชาวบ้านพังเพื่อระบายน้ำออกไปนอกพื้นที่นั้น นายธีระวุธ ศิรวรรณ นอภ.พระนครศรีอยุธยา ได้ชี้แจงว่า สาเหตุเนื่องจากน้ำไหลเชี่ยวจนพนังกันน้ำพังไม่ใช่ฝีมือชาวบ้าน ขณะเดียวกันทางนิคมอุตสาหกรรมโรจนะที่อยู่ห่างจากจุดน้ำท่วมประมาณ 4 กม.ได้สั่งระดมคนและรถแบ็กโฮมาสร้างพนังกั้นน้ำเป็นช่วงๆทั้งหมด 8 ช่วงเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าท่วมนิคมฯ เนื่องจากมีโรงงานอยู่จำนวนมาก ขณะที่พื้นที่อื่นๆยังจมน้ำ สถานที่ราชการต้องปิดไปโดยปริยาย รวมทั้ง อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ฐานเจดีย์ภูเขาทองเริ่มทรุด

ส่วนทุ่งภูเขาทองยังรับน้ำได้อีกมาก แต่ฐานองค์เจดีย์ภูเขาทองเริ่มทรุดแล้ว เนื่องจากเริ่มท่วมขังขณะทุ่งมะขามหย่อง น้ำได้ล้นเต็มพื้นที่จนไหลทะลักท่วมถนนสายหลัก เช่นเดียวกับที่ถนนโรจนะ ฝั่งขาเข้าเมืองฝั่งติดกับโรงแรมอู่ทองอินน์และหน้าหมู่บ้านการเคหะฯ น้ำท่วมเต็มถนนแล้ว ขณะเดียวกันชาวหมู่บ้านการเคหะฯประสานขอความช่วยเหลือไปยังการเคหะแห่งชาติที่ กทม. แต่ได้รับการปฏิเสธ และที่ สภ.อ.บางปะหัน ระดับน้ำสูงท่วมชั้นล่างของโรงพัก เจ้าหน้าที่ต้องย้ายไปตั้งสถานที่ติดต่อราชการชั่วคราวบนถนนสายพระนครศรีอยุธยา-ลพบุรี

จี้พ่อเมืองแจงชาวบ้านรื้อพนัง

นายอารีย์ วงศ์อารยะ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่ชาวบ้านในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาไม่พอใจที่ถูกน้ำท่วมขัง จึงรื้อกระสอบทรายกั้นน้ำในหลายจุดเพื่อระบายน้ำออกว่า ได้สั่งการให้ผู้ว่าฯทำความเข้าใจกับประชาชนแล้ว ซึ่งปัญหาที่เกดขึ้นเกิดจากความไม่เข้าใจของประชาชนในพื้นที่ที่อาจจะไม่เข้าใจว่าทำไมพื้นที่ของตัวเองถึงถูกน้ำท่วมขัง จึงต้องอธิบายให้เข้าใจว่าการทำลายพนังกั้นน้ำไม่ได้ทำให้พื้นที่ของตัวเองมีปริมาณน้ำลดลงแต่อย่างใด ซึ่งทั้งหมดเป็นเรื่องที่ต้องเร่งทำความเข้าใจกัน

อพยพหนีตายกลางดึก

ส่วน จ.สิงห์บุรี ที่ถูกน้ำท่วมสูงใน อ.อินทร์บุรี อ.พรหมบุรี และ อ.เมืองบางส่วนนั้น เมื่อกลางดึกวันที่ 15 ต.ค. น้ำทะลักเข้าท่วมหมู่บ้านประวิณ ต.ต้นโพธิ์ อ.เมืองสิงห์บุรี ทำให้บ้านเรือนนับร้อยหลังจมบาดาลในพริบตา ชาวบ้านต้องอพยพหนีกันกลางดึกอย่างโกลาหล เนื่องจากกระแสน้ำไหลเชี่ยวและไหลบ่าอย่างรวดเร็ว รวมทั้งโรงเรียนสิงหพาหุประสานมิตรอุปถัมภ์ วัดพระนอนจักรสีห์วรวิหารซึ่งเป็นพระอารามหลวง ทางวัดต้องให้พระสงฆ์ สามเณรขนกระสอบทรายมากั้นไม่ให้น้ำเข้าท่วมแหล่งโบราณสถานของวัด

ในส่วนของ อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี น้ำในแม่น้ำน้อยเพิ่มปริมาณสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำในตลาด ต.ไม้ดัดมีน้ำท่วมสูงร่วม 2 เมตร แถมน้ำยังเริ่มไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ อ.ท่าช้าง ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกันอย่างรวดเร็ว นอกจากทำให้บ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมแล้วยังทำให้พื้นที่เกษตรเสียหายนับพันไร่

ผวาไอ้เข้หลุดบ่อ 20 ตัว


ตอนเย็นวันเดียวกัน น้ำได้ทะลักท่วมหลายหมู่บ้าน ต.วิหารขาว อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี ทำให้จระเข้ 10 ตัวที่เลี้ยงไว้ในบ่อที่บ้านเลขที่ 29 หมู่ 5 ต.วิหารขาว กับ บ้านเลขที่ 156 หมู่ 3 ต.วิหารขาว อีก 10 ตัว รวม 20 ตัว หลุดหายออกไปจากบ่อ ภายหลังนายปราณีต บุญมี รอง ผวจ.สิงห์บุรี นางภูริดา ไวโรจนกุล ประมงจังหวัดได้รับรายงานรุดไปตรวจสอบพร้อมประสานทีมงานจากฟาร์มจระเข้สมุทรปราการมาล่า แต่ไม่พบแม้แต่ตัวเดียว ทาง อบต.วิหารขาว จึงประกาศเสียงตามสายให้ประชาชนระมัดระวังและอย่าตกใจหากได้ยินเสียงปืนที่ทีมงานใช้ยิงจระเข้

เขื่อนเจ้าพระยารับน้ำเพิ่ม

จ.ชัยนาท นายสัณหพงศ์ ก้านเหลือง ผอ.ส่วนจัดสรรน้ำและบำรุงรักษา เขื่อนเจ้าพระยา เปิดเผยว่า ทางเขื่อนรับน้ำจาก จ.นครสรรค์ 5,905 ลบ.ม.ต่อวินาที และระบายน้ำท้ายเขื่อนออก 4,030 ลบ.ม.ต่อวินาที ทำให้ระยะนี้ต้องระบายน้ำเข้าซอยทุกแห่งโดยให้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาโครงการส่งน้ำของแต่ละพื้นที่ ขณะเดียวกันชาวบ้านระดมสร้างพนังกันน้ำให้สูงกว่าเดิม เนื่องจากปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากการระบายน้ำของเขื่อน

เร่งสูบน้ำระบายลงทะเลสาบ

ด้านนายชุมพร พลรักษ์ ผวจ.สระบุรี เปิดเผยถึงแนวพระราชดำริที่ใช้ทะเลสาบบ้านหมอ เป็นแก้มลิงรับน้ำจากฝั่งตะวันออก ของคลองชัยนาท-ป่าสัก เพื่อชะลอน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ป้องกันพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า ขณะนี้จังหวัดสระบุรีกับสำนักงานชลประทานที่ 10 ระดมสูบน้ำโดยได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 3 เครื่องสูบน้ำจากคลองชัยนาท-ป่าสัก และเพื่อสนองพระราชดำริ จังหวัดได้สำรวจขยายพื้นที่ไปฝั่งขวาของทะเลสาบบ้านหมอซึ่งเป็นที่ดินของโรงงานปูนซิเมนต์ไทยมีเนื้อที่รวม 900 ไร่ สามารถรองรับปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 3 ล้าน ลบ.ม. และกำลังสำรวจพื้นที่ใกล้เคียงที่เป็นที่ราบที่รกร้างอีก 1 จุด เนื้อที่ประมาณ 600 ไร่ เพื่อเร่งระบายน้ำจากแม่น้ำชัยนาท-ป่าสัก

ส.อ.ซิ่ง จยย.สังเวยน้ำท่วม

ตอนสายวันเดียวกัน ขณะที่ ส.อ.สมศักดิ์ กลิ่นจันทร์ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 หมู่ 2 ต.หัวสำโรง อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี สังกัดกองพันป้องกันฐานบิน ศูนย์การบินทหารบก จ.ลพบุรี ขี่ จยย.จะไปทำงาน ผ่านสะพานข้ามคลองชลประทาน ทางเข้าบ้านไผ่ขวาง ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี ซึ่งถูกน้ำท่วมสูง ปรากฏว่าถูกกระแสน้ำซัดจมน้ำหายไปทั้งรถทั้งคน ระหว่างนั้นมีพลเมืองดี 2 คน พยายามเข้าช่วยเหลือแต่กระแสน้ำเชี่ยวมากจึงช่วยไม่สำเร็จ ภายหลังอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งลพบุรีมาช่วยกันงมจนพบทั้งรถทั้งคน

เมืองขุนแผนสูงกว่า 1 เมตร

ที่ จ.สุพรรณบุรี ระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีนเพิ่มระดับสูงอย่างต่อเนื่องจนล้นแนวป้องกันกระสอบทรายที่เป็นแนวป้องกันส่งผลให้ย่านธุรกิจใจกลางเมืองสุพรรณบุรี ทั้งหมดรวมพื้นที่กว่า 2 ตารางกิโลเมตร บางจุดสูงกว่า 1.20 เมตร ต้องปิดการจราจรโดยเด็ดขาด ขณะที่สถานที่ราชการหลายแห่ง เช่น ที่ว่าการอำเภอเมืองสุพรรณบุรี สำนักงานที่ดินจังหวัด ศาลจังหวัดสุพรรณบุรี แผนกคดีเยาวชนและครอบครัว อบจ.สุพรรณบุรี และ สภ.อ.เมือง ประชาชนไม่สามารถเข้าไปติดต่อราชการได้ เพราะน้ำท่วมสูง

โรงพักป่วนย้ายที่รับแจ้งความ

สำหรับ สภ.อ.เมืองสุพรรณบุรี พล.ต.ต.ปราโมทย์ ไทรหอมหวน ผบก.ภ.จ.สุพรรณบุรี สั่งการให้ พ.ต.อ.ชัยรัตย์ ทิพย์จันทร์ ผกก.สภ.อ.เมือง ย้ายจุดปฏิบัติในการรับแจ้งความทุกเรื่องไปให้บริการกับประชาชนที่บริเวณตู้สายตรวจข้างหอนาฬิกาบรรหาร-แจ่มใส ถนนมาลัยแมน พร้อมสั่งให้กำลังตำรวจและตำรวจชุมชนกว่า 300 นาย ออกอำนวยความสะดวกและป้องกันมิจฉาชีพที่อาจจะก่อเหตุลักทรัพย์ ขณะที่เรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งตั้งอยู่กลางทุ่งนาริมถนนสายสุพรรณบุรี-ตลิ่งชัน ระดับได้เพิ่มสูงขึ้น นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รอง ผวจ. รักษาราชการแทน ผวจ.ได้ไปตรวจสอบสั่งช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

สร้างพนังกั้นหวั่นน้ำท่วม รพ.


ด้าน รพ.ศูนย์เจ้าพระยายมราช ซึ่งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี ถนนหน้าโรงพยาบาลระดับน้ำสูงกว่า 70 ซม. ต้องนำกระสอบทรายมากั้นไม่ให้น้ำไหลท่วม รพ. นอกจากนี้ ยังได้สั่งให้ทีมแพทย์และพยาบาลเตรียมพร้อม 100% ในการให้การดูแลรักษาผู้ป่วย รวมทั้งเตรียมแผนการขนย้ายผู้ที่อยู่ในชั้นล่าง หากไม่สามารถต้านกระแสน้ำได้

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มอีกว่า นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รอง ผวจ.รักษาราชการแทน ผวจ.สุพรรณบุรี และนายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายก อบจ.สุพรรณบุรี ได้เปลี่ยนการป้องกัน เป็นการระดมเจ้าหน้าที่จาก อบจ. หน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 2 จ.สุพรรณบุรี และศูนย์ป้องกันฯเทศบาลเมืองสุพรรณบุรีที่มีนายเอกพันธุ์ อินทร์ใจเอื้อ รองนายกเทศมนตรี ดูแลระดมกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 500 นาย ออกช่วยเหลือชาวบ้าน

ซิ่งเรือบนถนนชนเสาไฟดับ

จ.นครสวรรค์ ระดับน้ำในแม่น้ำยมและแม่น้ำน่านที่ไหลผ่านเขต อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ ยังเกินจุดวิกฤติ 1.20 เมตร น้ำท่วมขังหลายวันทำให้ชาวบ้านใน ต.ทับกฤช อยู่กันอย่างลำบากและล้มป่วยหลายราย และเมื่อคืนวันที่ 15 ต.ค. พ.ต.ท.จรัญ กันภัย สารวัตรเวรสภ.อ.ชุมแสง รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุเรือชนเสาไฟฟ้ามีคนเสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนสายทับกฤช-ทุ่งสว่าง ที่มีน้ำท่วมขังสูงกว่า 4 เมตร หมู่ 13 ต.ทับกฤช พบชาวบ้านงมศพขึ้นฝั่งแล้วชื่อนายสกล กองประยุทธ อายุ 34 ปี อยู่หมู่ดังกล่าว สอบสวนทราบว่า ผู้ตายขับเรือหางยาวกลับจากขายปลามาตามถนนที่มีน้ำท่วมขังแล้วเรือเสียหลักชนกับเสาไฟฟ้าข้างทาง จนเรือล่มและจมน้ำเสียชีวิต หลังการเสียชีวิตญาติผู้ตายกลับประสบปัญหา เนื่องจากไม่มีสถานที่ตั้งสวดศพ เพราะวัดทุ่งแว่นซึ่งเป็นวัดในหมู่บ้านถูกน้ำท่วมขัง คาดว่าจะนำศพไปทำพิธีที่ อ.ท่าตะโก ซึ่งเป็นท้องที่ติดกัน

พิจิตรรับน้ำเพิ่มอ่วมหนัก

สำหรับ จ.พิจิตร ยังผจญสภาพน้ำท่วมหนักเกือบทุกพื้นที่ เนื่องจากแม่น้ำ 2 สายหลัก คือแม่น้ำน่านและแม่น้ำยม ไหลผ่านมีระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากรับน้ำจากทางภาคเหนือ ทำให้พื้นที่ที่ถูกน้ำท่วม ขังอยู่แล้วมีระดับสูงขึ้นอีก ล่าสุดระดับน้ำจากแม่น้ำน่านได้ทะลักล้นตลิ่งไหลท่วมบริเวณบ้านวังไร่ ต.ดงป่าคำ อ.เมืองพิจิตร และไหลท่วมถนนสายพิจิตร-ตะพานหิน บริเวณ กม.17-18 ระดับน้ำสูงประมาณ 40 ซม. และทำให้ถนนหลักเกือบทุกสายใน จ.พิจิตร ถูกน้ำท่วมจนใช้การไม่ได้ ยกเว้นเพียงถนนสายพิจิตร-ตะพานหิน ซึ่งยังใช้ได้ดีแต่น้ำก็เริ่มท่วมแล้วบางจุด โดยนายอุมัชวัชญ์ อารัธเพรีย ผอ.แขวงการทางพิจิตร นำเจ้าหน้าที่แขวงการทางซ่อมแซมและปักป้ายจราจรอำนวยความสะดวกให้ประชาชน

ปิด รพ.งดรักษาผู้ป่วยใน

นอกจากนี้ น้ำจากแม่น้ำน่านยังไหลย้อนเข้าท่วมอาคาร รพ.สมเด็จพระยุพราชตะพานหิน อ.ตะพานหิน เป็นรอบที่ 2 ทาง รพ.สมเด็จพระยุพราชฯต้องหยุดให้บริการผู้ป่วยใน ให้บริการเพียงผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ด้านแม่น้ำยมระดับน้ำที่ไหลท่วมขังในพื้นที่ อ.สามง่าม อ.โพธิ์ประทับช้าง กิ่ง อ.บึงนาราง และ อ.โพทะเล ยังคงท่วมขังสูง เพราะส่วนใหญ่เป็นที่ลุ่มระดับน้ำสูงเฉลี่ย 1-2 เมตร ชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมขังหลายร้อยครอบครัวต้องหนีน้ำมาปักหลักสร้างเพิงพักตามถนนชลประทาน สำหรับโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาพิจิตร เขต 1 และเขต 2 กว่า 50 โรงเรียนยังคงถูกน้ำท่วมขังและปิดไม่มีกำหนดมากว่า 1 เดือนแล้ว

สงสัย ผญบ.อมเงิน 3 ศพ

ทางด้าน จ.แม่ฮ่องสอน นายเดชา สัตถาผล นอภ. เมืองแม่ฮ่องสอน ได้เรียกตัวนายอุทิศ ตยะดีทาน ผู้ใหญ่บ้านห้วยเสือเฒ่า ต.ผาบ่อง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน เข้าชี้แจงกรณีถูกญาติของนายรวย มูลนันชัย ที่เสียชีวิตพร้อมเมียและลูกรวม 3 ศพ จากเหตุน้ำป่าถล่ม โดยกล่าวหาว่านำเงิน 3 หมื่นบาท ที่ทางจังหวัดมอบช่วยเหลืองานศพไปใช้ไม่โปร่งใส การทำพิธีศพทำอย่างเรียบง่ายและไม่ได้นำศพมาทำพิธีจริง ทำให้ญาติสงสัยว่าเงินที่ใช้จ่ายไปไม่คุ้มกับพิธีศพ ขณะที่นายอุทิศชี้แจงว่าเงินทั้งหมดนอกจากใช้ในงานศพแล้ว ยังใช้จ่ายในการเลี้ยงชาวบ้านที่ช่วยค้นหาศพในวันเกิดเหตุด้วย ซึ่งนายเดชาจะตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้อีกครั้ง

ส่งเรือ สุขาพัฒนา ปลดทุกข์


ที่กรมชลประทาน นายรุ่งเรือง อิศรางกูร ณ อยุธยา รมช.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานปล่อยเรือสุขาพัฒนา 2 ลำ เพื่อนำไปจอดให้บริการแก่ประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมบริเวณเกาะเกร็ดตระการ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรีและพื้นที่ใกล้เคียง โดยนายสามารถ โชคคณาพิทักษ์ อธิบดีกรมชลประธาน กล่าวรายงานว่า ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มีพระราชปรารภถึงปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน โดยเฉพาะเรื่องสุขาทางมูลนิธิชัยพัฒนาและผู้มีจิตศรัทธาจึงได้ร่วมบริจาคเงินให้กรมชลประทาน ดัดแปลงและปรับปรุงเรือบรรทุกเก่าเป็นเรือเหล็ก กว้าง 5 เมตร ยาว 15 เมตรให้เป็นเรือสุขาชาย-หญิงแยกกัน โดยมีห้องสุขาชายและหญิงอย่างละ 3 ห้อง ห้องอาบน้ำชายและหญิงอย่างละ 1 ห้อง อ่างล้างหน้าชาย-หญิงอย่างละ 2 อ่าง และโถปัสสาวะชาย 3 โถ ทั้งนี้ เรือทั้ง 2 ลำ จะไปจอดให้บริการแก่ประชาชนในบริเวณวัดเฉลิมพระเกียรติ และพื้นที่เกราะเกร็ด จ.นนทบุรี

ชาวบ้านให้ผันน้ำเข้าทุ่ง

นายสามารถกล่าวถึงแนวทางการผันน้ำเข้าสู่พื้นที่ 18 ทุ่งนั้นว่า เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.นี้ คาดว่าภายใน 7 วัน จะดำเนินการได้ครบ ซึ่งเป็นไปตามความสมัครใจของเกษตรกรที่จะให้ผันน้ำเข้าพื้นที่ของตนเอง นอกจากนั้นยังมีประชาชนโทรศัพท์มาแจ้งให้ผันน้ำเข้าสู่พื้นที่ของตนเอง นอกจากพื้นที่ 18 ทุ่งดังกล่าวด้วย ทางกรมชลประทานจะต้องศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมก่อนว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ สำหรับน้ำที่ผันลงทุ่งนั้น ส่วนหนึ่งจะเก็บไว้ให้เกษตรกรได้ทำนาปรังได้ทันทีหลังน้ำลด หากยังไม่เพียงพอกรมชลประทานจะผันน้ำเพิ่มเติมให้ อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำขณะนี้ยังมีจุดที่น่าเป็นห่วงตั้งแต่ จ.นนทบุรีไปจนถึง จ.พิจิตร ส่วนพื้นที่ กทม. ชั้นใน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเตรียมการไว้ดี ไม่น่ามีปัญหา ยกเว้นทางฝั่งตะวันออกของ กทม.ไปจนถึง จ.สมุทรปราการ

เหนืออากาศเย็น-ใต้ฝนชุก

กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศ เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ว่า ความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นและมีหมอกในตอนเช้า สำหรับร่องความกดอากาศต่ำยังคงพาดผ่านภาคใต้ตอนกลาง และอ่าวไทย ทำให้มีฝนฟ้าคะนองกระจายในภาคใต้ฝั่งตะวันออกร้อยละ 40 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และสตูล ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

สังฆราชประทานช่วยน้ำท่วม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ได้แจ้งว่า สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้ประทานความช่วยเหลือแก่วัดและผู้ประสบอุทกภัย โดยได้ประทานเครื่องครัวจำนวน 1,000 ชุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่วัดและประชาชนผู้ประสบภัย นอกจากนี้ ทางสำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมพระกุศล บริจาคเครื่องอุปโภคบริโภค หรือปัจจัย โดยนำส่งที่สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร กทม. ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 23 ต.ค. และสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช โทร. 0-2281-2831-3, 0-81916-8310, 08-1448-4444

ประมงเสียหาย 347 ล้าน


นายจรัลธาดา กรรณสูต อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ความเสียหายด้านประมงจากอุทกภัยในขณะนี้ได้รับรายงานเบื้องต้นมีพื้นที่รวม 41 จังหวัด พื้นที่ 58,375 ไร่ มูลค่าความเสียหายประมาณ 347 ล้านบาท บ่อเลี้ยงสัตว์น้ำเสียหาย 45,988 บ่อ กระชังเสียหาย 5,118 กระชัง เกษตรกรได้รับผลกระทบ 37,496 ราย ส่วนการช่วยเหลือ กรมประมงได้ส่งเรืออนุรักษ์ 16 ลำและเจ้าหน้าที่ 48 คนไปช่วยขนย้ายจระเข้ที่ฟาร์มใน จ.อุทัยธานี รวมทั้งส่งน้ำและอาหารให้กับประชาชนที่อยู่ตามบ้านเรือนที่อยู่ห่างจากชุมชนและช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ตามบ้านไปทำงานหรือพบแพทย์ สำหรับจระเข้ที่หลุดออกจากฟาร์ม หากเป็นฟาร์มที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนไว้ถือว่าเป็นความผิด

มอบ 20 ล้านให้นครสวรรค์

ต่อมาเวลา 14.30 น. พล.อ.สุรยุทธ์เป็นประธานการประชุมติดตามการแก้ปัญหาอุทกภัยร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กทม. ผู้ว่าราชการจังหวัดที่ประสบภัยน้ำท่วม และกองบัญชาการทหารสูงสุด รวมทั้งหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอเรนซ์ ซึ่งทางจังหวัดนครสวรรค์รายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมกำลังทวีความรุนแรงมากขึ้นและได้ใช้งบประมาณ 50 ล้านบาทในการแก้ปัญหาเสร็จแล้ว แต่ปัญหาขณะนี้คือประชาชนยังขาดแคลนน้ำดื่มและเครื่องอุปโภคบริโภค หลังทราบรายงานของจังหวัดนครสวรรค์ พล.อ.สุรยุทธ์ได้สั่งการให้อนุมัติเงิน 20 ล้านบาทให้จังหวัดนครสวรรค์ทันที

เบิร์ด นำทีมศิลปินซับน้ำตา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวลา 10.00 น. วันที่ 17 ต.ค.นี้ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับสภากาชาดไทยจะเดินทางไปเยี่ยมผู้ประสบภัยที่บ้านเปี่ยมสุข จ.อ่างทอง โดยมีศิลปินของค่ายแกรมมี่เดินทางไปด้วยเพื่อนำเครื่องอุปโภคบริโภคไปแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยพร้อมร่วมทำอาหารในโครงการครัวเคลื่อนที่ของสภากาชาดไทย สำหรับศิลปินที่เดินทางไปครั้งนี้นำโดย เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์ ไท ธนาวุฒิ น้ำตาล-ศุภัทรสิริ ปฐมพงษ์ แคล-คาโลริน นีมะโยธิน และแพรว-คณิตกุล เนตรบุตร


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์