"สถานการณ์น้ำท่วมแสนสาหัส"
สถานการณ์น้ำท่วมได้สร้างความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสหลายจังหวัด ประชาชนไร้ที่อยู่อาศัย สูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินมหาศาล พื้นที่เกษตรจมบาดาล ขณะเดียวกัน กรมชลประทานเตรียมผันน้ำเข้าทุ่งนา 18 แห่งในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคกลาง เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเหนือไหลหลากเข้าท่วมกรุงเทพฯ โดยเฉพาะระหว่างวันที่ 23-25 ต.ค.นี้ น้ำทะเลจะหนุนสูงอาจจะทำให้พื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลถูกน้ำท่วมหนักนั้น
กทม.จับมือกรมชลฯสู้น้ำท่วม
สำหรับการเตรียมการตั้งรับน้ำท่วมของ กทม. เมื่อวันที่ 16 ต.ค. นางบรรณโศภิษฐ์ เมฆวิชัย รองผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยภายหลังประชุมผู้บริหารสำนักการระบายน้ำเพื่อหารือเตรียมการรองรับสถานการณ์น้ำในช่วงปลายเดือน ต.ค.นี้ ว่า ได้ทำหนังสือถึงกรมชลประทาน ขอให้เตรียมการรองรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ กทม. ฝั่งตะวันออกคือ 1. เร่งก่อสร้างทำนบกั้นน้ำชั่วคราว ด้านทิศใต้ของคลองหกวาสายล่าง 6 แห่ง ให้แล้วเสร็จภายในเดือน ต.ค.นี้ 2. ให้กำจัดวัชพืชและขุดคลองพระองค์ไชยานุชิต และคลองด้านใต้ซึ่งเป็นทางระบายน้ำออกสู่ทะเล และ 3. ให้ผันน้ำจากพื้นที่ด้านเหนือไปด้านตะวันตกสู่แม่น้ำสุพรรณบุรี แม่น้ำท่าจีนเพิ่มขึ้น เพื่อลดปริมาณน้ำที่จะลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาไม่ให้ระดับน้ำสูงเกินกว่า 2.2 เมตร เป็นการป้องกันไม่ให้เกิดอุทกภัยในพื้นที่กรุงเทพฯ
มือมืดแอบฉกกระสอบทราย
นางบรรณโศภิษฐ์กล่าวด้วยว่า ระดับน้ำทะเลล่าสุดหนุนสูงเพียง 1.92 เมตร ไม่ส่งผลกระทบให้เกิดปัญหาน้ำเอ่อล้นตลิ่งแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ กทม. ต้องเฝ้าระวังพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นพิเศษ เนื่องจากจะต้องรองรับน้ำเหนือขนาดใหญ่ที่จะไหลลงสู่ กทม. โดยได้ถอนกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยน้ำท่วมที่ประจำอยู่ในพื้นที่ฝั่งตะวันออก ย้ายมาประจำตามจุดต่างๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อเฝ้าระวังระบบป้องกันน้ำท่วม เช่น เขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยา และกระสอบทราย เนื่องจากมีชาวบ้านขโมยกระสอบทรายของ กทม. เฉลี่ยวันละ 2,000 ถุง
ขณะเดียวกัน สำนักการระบายน้ำได้จัดทำแผนป้องกันน้ำท่วมเพื่อรองรับสถานการณ์น้ำทะเลหนุนวันที่ 23-25 ต.ค. ไว้แล้ว หลังจากที่นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. สั่งการไปเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยเฉพาะพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเน้น 1. ติดตามตรวจสอบความสูงของระดับน้ำ 2. ตรวจสอบระดับความสูง และความแข็งแรงของแนวกระสอบทรายให้สัมพันธ์กับระดับน้ำ บริเวณจุดอ่อนอาจจะส่งผลกระทบต่อสถานที่สำคัญ 3. ตรวจสอบจำนวนกระสอบทราย และสำรองกระสอบทรายให้เพียงพอ 4. เฝ้าระวังแนวกระสอบทราย โดยใช้กำลังเทศกิจของเขต และขอกำลังสนับสนุนจากทหาร 5. ขอถอนกำลังสำนักการระบายน้ำจากพื้นที่ด้านตะวันออกเข้ามาดูแลพื้นที่เขตชั้นใน
อภิรักษ์ ยันรับน้ำท่วมได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการประชุมติดตามการแก้ปัญหาอุทกภัยร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กทม. ผู้ว่าราชการจังหวัดที่ประสบภัยน้ำท่วม โดยมี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานนั้น นายกรัฐมนตรีได้สอบถามถึงความพร้อมในแผนการของ กทม. จากนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งนายอภิรักษ์ ยืนยันว่าสามารถรับมือและควบคุมได้ รวมทั้งงบประมาณฉุกเฉิน 100 ล้านบาท ของ กทม.นั้น ขณะนี้ใช้ไปเพียง 47.3 ล้านบาท ยังมีงบประมาณเพียงพอในการบริหารจัดการได้ ซึ่ง พล.อ.สุรยุทธ์ได้ถามย้ำถึงสถานการณ์อย่างละเอียดและแสดงความเป็นห่วงพื้นที่กรุงเทพมหานคร พร้อมถามกลับนายอภิรักษ์ว่า รัฐบาลจะสามารถบอกกับประชาชนได้หรือไม่ ว่ากรุงเทพมหานคร สามารถรับมือได้ใช่หรือไม่ ซึ่งทางผู้ว่าฯกทม.ยืนยันในที่ประชุมว่าสามารถรับมือน้ำท่วมได้อย่างแน่นอน