ตูมอีก2แห่ง! ศาลากลางเมืองนนท์-กรมบังคับคดี บางขุนนนท์

เมื่อวันที่ 24 มี.ค. ช่วงดึกผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีเหตุปาระเบิดอีก 2 แห่ง แห่งแรกอยู่บริเวณภายในศาลากลางเมืองจังหวัดนนทบุรี ช่วงเวลา 1 ทุ่ม ส่วนแห่งที่สอง อยู่ริมรั้วกรมบังคับคดี เขตบางขุนนนท์ กรุงเทพฯ

เหตุแรกเกิดขึ้นเมื่อเวลา 19.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองนนทบุรี สาขารัตนาธิเบศร์ รับแจ้งมีเหตุระเบิดไม่ทราบชนิดภายในศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรี ฝั่งตรงข้ามโรงพัก จึงรุดไปตรวจสอบ พบกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร อส. ซึ่งประจำอยู่ที่บริเวณทางเข้าศูนย์ราชการกำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่บริเวณห้องควบคุมระบบไฟของสวนสาธารณะ ที่ตั้งอยู่ภายในรั้วของศูนย์ราชการ ห่างจากถนนประมาณ 8 เมตร แรงระเบิดทำให้ฝ้าเพดานของห้องควบคุมไฟ และแผงไฟฟ้าได้รับความเสียหาย มีคราบเขม่าควันไฟตามฝ้าเพดานและผนังห้อง เศษดินและเศษใบไม้กระจัดกระจายทั่วบริเวณ

ต่อมา นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าฯ นนทบุรี พล.ต.ท.กฤษดา พันธุ์คงชื่น ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ปิยะ สอนตระกูล รองผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ศุภกิจ ศรีจันทรนนท์ ผบก.นนทบุรี พ.ต.อ.พงษ์สิทธิ์ แสงเพชร รองผกก.

พร้อมเจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิดรุดไปตรวจสอบพร้อมกั้นแนวรั้วไม่ให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าไปเพราะเพราะเกรงจะมีระเบิดซ้ำ เจ้าหน้าที่วิทยาการและหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียงอย่างละเอียด พบว่าระเบิดดังกล่าวน่าจะเป็นระเบิดแสวงเครื่องชนิดทีเอ็นที โดยอาศัยแรงอัดและแรงดันในการทำลายล้าง

นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าฯ นนทบุรี กล่าวว่า ช่วงเย็นที่ศูนย์ราชการจะมีผู้คนมาออกกำลังกายจำนวนมากและจุดเกิดเหตุเป็นจุดลับตาคน

จึงไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ามีผู้ต้องสงสัยหรือไม่ ต่อไปนี้จะเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น เหตุครั้งนี้ถือเป็นการหยามเจ้าหน้าที่เพราะมีทั้งกำลังทหารและอส. เกือบ 20 นายประจำอยู่ เหตุที่สอง เกิดขึ้นเมื่อเวลา 21.00 น. พ.ต.ต.พรชัย ศรีมุน พนักงานสอบสวน สบ.2 สน.บางขุนนนท์ รับแจ้งเหตุระเบิดบริเวณริมรั้วกรมบังคับคดี ถ.บางขุนนนท์ แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ รุดไปที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.ท.พจนาจ งบพิมาย สว.สส.สน.บางขุนนนท์ และหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด พร้อมกองพิสูจน์หลักฐาน เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุบริเวณริมรั้วเชิงสะพานข้ามคลองชักพระ พบหลุมขนาดกว้าง 15 ซ.ม. ลึก 10 ซ.ม. มีเศษปูนและเศษดินกระจายเต็มพื้น มีรอยสะเก็ดระเบิดตามเสารั้ว แต่ไม่พบความเสียหายอื่นใด เนื่องจากจุดที่ระเบิดตกติดกับกำแพงและประตูรั้วเหล็ก

เบื้องต้นจากการตรวจสอบไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต และไม่พบสะเก็ดระเบิด คาดว่าน่าจะเป็นระเบิดขว้างแบบเอ็ม 67

ชนิดเดียวกับที่คนร้ายใช้ก่อเหตุที่สำนักงานบำรุงทางธนบุรี การตรวจสอบไม่พบกล้องวงจรปิดบริเวณริมรั้วกรมบังคับคดี แต่มีพยานเห็นมีรถจักรยานยนต์ขับขี่ซ้อนท้ายมายังที่เกิดเหตุ ก่อนเกิดเสียงระเบิดดังขึ้น เหตุวางระเบิดลักษณะนี้เกิดขึ้นก่อเนื่องจากการปาระเบิดสถานที่ราชการในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลตั้งแต่วันเสาร์ที่ 20 มี.ค. ซึ่งพ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย(ศอ.รส.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดียิงจรวดอาร์พีจีเข้าไปในกระทรวงกลาโหม ว่า เบื้องต้นผู้ต้องหาเป็นตำรวจ ไม่ใช่ทหารตามที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ จากเหตุยิงอาวุธสงครามเข้าไปในในสถานที่ราชการหลายแห่ง ที่มีความพยายามชี้ว่าเป็นการกระทำของฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐ

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.กำชับให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชี้แจงกับกำลังพลให้เชื่อมั่นในกองทัพว่าไม่เคยกระทำการใดเพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรง

แต่ตั้งใจปฏิบัติภารกิจ เพื่อประโยชน์ของบ้านเมืองและประชาชน ส่วนการอธิบายต่อสังคมถึงจุดยืนของกองทัพให้เข้าใจว่าไม่ได้สนับสนุนพรรคการเมืองใด และไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาล กองทัพในฐานะกลไกของรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนการปฏิบัติและคำสั่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย