ปทีปเผยเสียใจมากพล.ต.อ.สมเพียรตาย อ้างไม่รู้เรื่องย้าย

"ปทีป"อ้างไม่รู้เรื่องย้าย พล.ต.อ.สมเพียร"ไปสภ.กันตัง เผยเสียใจมาก "อดีตผกก.บันนังสตา" ปัดการเมืองแทรกแซง "อดุลย์" แฉควง "ผบช.ศชต."เข้าพบ รรท.ผบ.ตร. ถึง 2 ครั้ง ทั้งก่อน-หลังคำสั่งออก ขอให้สนับสนุนแต่ไร้ผล อ นุ ก.ตร.ถกปมร้องทุกข์ นัดแรกไม่คืบ เตรียมเรียก"วีระยุทธ-พีระ"แจง 30 มี.ค.

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)  มีการประชุมอนุกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เกี่ยวกับการร้องทุกข์

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 23 มีนาคม  โดยมี พล.ต.ท.อำนวย ดิษฐกวี ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นประธาน เพื่อพิจารณาข้อร้องเรียนเรื่องแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมกรณีที่ พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา อดีตผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธร (ผกก.สภ.) บันนังสตา จ.ยะลา ร้องเรียน ซึ่งใช้เวลาประชุมประมาณ 45 นาที ปรากฏว่า ที่ประชุมไม่สามารถหาข้อสรุปได้ จึงให้เชิญ พล.ต.ท.วีระยุทธ สิทธิมาลิก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ผบช.ภ.9) และ พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชฏฐ์ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผบช.ศชต.) มาชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมวันที่ 30 มีนาคม

พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) ในฐานะโฆษก ตร. แถลงหลังประชุมว่า ที่ประชุมยกคำร้องของ พล.ต.อ.สมเพียร ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้งโยกย้ายมาพิจารณา พร้อมเอกสารคำชี้แจงของ พล.ต.ท.วีระยุทธ และ พล.ต.ท.พีระ โดยอนุ ก.ตร.มีประเด็นพิจารณา 2 ประเด็น คือ ประเด็นดูการแต่งตั้งของ บช.ภ.9 และ บช.ศชต. เป็นไปตามกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งฯ และบันทึกสั่งการของ ตร.หรือไม่ และประเด็นที่ 2 พิจารณาว่ามีข้อบกพร่องในการแต่งตั้งหรือไม่ และหากมี ใครต้องเป็นผู้รับผิดชอบบ้าง

พล.ต.ท.พงศพัศกล่าวว่า จากการพิจารณาเอกสารคำชี้แจงของ บช.ภ.9 และ บช.ศชต. ทางคณะอนุ ก.ตร.ยังไม่สามารถสรุปประเด็นนี้ได้

เนื่องจากเอกสารยังไม่ครบ จึงสั่งการให้ทางเลขานุการอนุ ก.ตร. เชิญ ผบช.ภ.9 และ ผบช.ศชต. มาชี้แจงกับคณะอนุกรรมการด้วยตนเองในวันที่ 30 มีนาคม เวลา 13.30 น. คาดว่าในวันดังกล่าวน่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน เมื่อได้ข้อสรุปจากคณะอนุ ก.ตร. จะเสนอให้ ก.ตร.พิจารณาต่อ

ผู้สื่อข่าวถาม พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ต้องรับผิดชอบด้วยหรือไม่ พล.ต.ท.พงศพัศกล่าวว่า ในที่ประชุมไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้

และไม่ได้เชิญ พล.ต.อ.ปทีปมาชี้แจง เมื่อถามว่า ในอนุ ก.ตร.พูดถึงการเมืองแทรกแซงการแต่งตั้งหรือไม่ พล.ต.ท.พงศพัศกล่าวว่า ตามเอกสารที่ปรากฏยังไม่มีข้อมูลเรื่องการเมืองแทรกแซง วันนี้ยังไม่มีการคุยในประเด็นนี้ และไม่ใช่การปกป้องนักการเมือง การพิจารณาเป็นไปตามเอกสารที่ได้รับมาคิดว่าคณะอนุกรรมการ ก.ตร. ตระหนักว่าสังคม ประชาชนหวังอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อจะสามารถตอบคำถามให้ชัดเจน

ด้าน พล.ต.อ.ปทีปแถลงหลังเป็นประธานประชุมเรื่องสิทธิประโยชน์ในภาพรวมของตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า สิทธิประโยชน์ของตำรวจใน ศชต. มี 10 ประการ การประชุมตีกรอบให้แล้วว่าอะไรควรให้ไม่ควรให้ ส่วนรายละเอียดจะให้อย่างไรนั้น จะประชุมย่อยกับตัวแทนของ ศชต.อีกครั้ง และจะลงเป็นลายลักษณ์อักษรออกเป็นกฎ กติกาของ ตร. ซึ่งจะประชุมต้นเดือนเมษายนนี้ อาทิ เบี้ยเลี้ยงเสี่ยงภัย ซึ่งถ้าเป็นเม็ดเงินและเทียบกับหน่วยอื่นๆ จะได้มากกว่า 15-19 เท่า

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการร้องทุกข์ของ พล.ต.อ.สมเพียร พล.ต.อ.ปทีปกล่าวเป็นครั้งแรกหลัง พล.ต.อ.สมเพียรเสียชีวิต ว่า เรื่อง พล.ต.อ.สมเพียรขอแยกเป็น 2 ประเด็น คือ เรื่องแต่งตั้งผ่านมาและการร้องทุกข์ ซึ่งอนุ ก.ตร.ร้องทุกข์ได้ดำเนินการอยู่ คงต้องรอผล เมื่อถามว่า ทราบหรือไม่ว่า พ.ต.อ.สมเพียรประสงค์ขอโยกย้ายไปยัง สภ.กันตัง จ.ตรัง ก่อนจะมาร้องทุกข์ พล.ต.อ.ปทีปกล่าวว่า ไม่ได้ทราบเรื่อง ตรงนี้คงมาตามสายงาน เมื่อเข้าสู่การร้องทุกข์คือมาที่อนุ ก.ตร.ร้องทุกข์ ส่วนก่อนแต่งตั้งเป็นอำนาจของแต่ละกองบัญชาการ (บช.) ไปว่ากัน

เมื่อถามว่า การดำเนินการของอนุ ก.ตร.ร้องทุกข์นั้น หากพบว่า ทุกอย่างทำตามระเบียบ กฎ ก.ตร. แล้วก็อาจไม่มีผู้บกพร่อง

พล.ต.อ.ปทีปกล่าวว่า ขอให้เป็นเรื่องที่อนุ ก.ตร.ร้องทุกข์พิจารณาไป จะไม่ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูอีก เมื่อถามว่า จะหาคนผิดได้หรือไม่ พล.ต.อ.ปทีปกล่าวว่า ตรงนี้ขอให้อนุ ก.ตร.พิจารณาก่อน

ผู้สื่อข่าวถามว่า นอกจากการแต่งตั้งโยกย้ายแล้ว สามารถให้ พล.ต.อ.สมเพียรมาช่วยราชการได้หรือไม่

พล.ต.อ.ปทีปกล่าวว่า การดึงมาช่วยราชการจะมีปัญหาพอสมควร อย่างตนเคยถูกร้องเรียนเพราะดึงคนมาช่วยราชการ เมื่อถามว่า การช่วยเหลือ พล.ต.อ.สมเพียร สามารถใช้ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 56 ได้หรือไม่ พล.ต.อ.ปทีปกล่าวว่า ตามระเบียบแล้ว ตนสามารถใช้มาตรา 56 ได้ในแง่ของกระบวนการแต่งตั้งไม่ถูกต้อง และไม่สามารถใช้มาตรา 56 เพื่อดึงอำนาจการแต่งตั้งมาที่ตนได้ ที่ผ่านมา มาตรา 56 มี 2 นัยยะ คือ ดึงอำนาจของ บช. มาให้ ตร.หรือตน เป็นผู้ทำการแต่งตั้ง และกรณีที่ 2 เห็นว่า บช.ไหนแต่งตั้งไม่ชอบธรรมจะใช้อำนาจนี้ไปแก้ ส่วนมาตรา 56 ที่ตนใช้คือ ตั้งชุดของ พล.ต.ท.เอก อังสนานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นประธานคณะกรรมการดูกระบวนการแต่งตั้ง ว่า บช.ใดไม่ถูกต้อง ถ้าเผื่อไม่ถูกต้อง ตนใช้มาตรา 56 ไปแก้ไข

"ถ้าหากผมใช้มาตรา 56 มาทำบัญชีเอง คงจะรู้เรื่อง พล.ต.อ.สมเพียร แต่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นผมก็เสียใจมาก ไม่อย่างนั้นผมจะไปใต้ทำไม และผมจะต้องทำอะไรหลายสิ่งหลายเรื่องเพื่อจะเร่งรัดให้มันจบให้ได้ก่อนที่ผมจะเกษียณอายุราชการ อย่างการได้สิทธิประโยชน์ คนที่อยู่ 2 ปี 5 ปี 10 ปี ควรจะได้เท่ากันหรือไม่ต้องพิจารณา แต่ทุกวันนี้มันเท่ากัน ซึ่งสิทธิต่างๆ ต้องปรับปรุงให้มีความเป็นธรรม"  พล.ต.อ.ปทีปกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า การแต่งตั้งแต่ละครั้งพบว่ามีนักการเมืองเข้ามาแทรกแซงจะแก้ปัญหาอย่างไร พล.ต.อ.ปทีปกล่าวว่า การเมืองไม่ได้มาแทรกแซงที่ตน แต่ไปแทรกแซงตรงไหนนั้นไม่ทราบ และไม่เห็นว่าการเมืองจะมาแทรกแซงตรงไหน

เมื่อถามว่า จะเปิดใจกับสังคมอย่างไรกับกรณีการเสียชีวิต พล.ต.อ.สมเพียร พล.ต.อ.ปทีปกล่าวว่า พยายามทำในสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว

แต่ตรงนี้ก็ไม่รู้ว่าเหตุการณ์ต่างๆ มันจะเป็นอย่างนี้ ขั้นตอนต่างๆ เราทำตามขั้นตอน จากนี้ให้อนุ ก.ตร.ร้องทุกข์พิจารณาในประเด็นที่สังคมติดใจ หากพบว่ามีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยต้องให้อนุฯร้องทุกข์ดำเนินการต่อไป แต่ยืนยันว่าตนไม่มีส่วนจะไปแทรกแซงที่ภาค 9

ด้าน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ที่ปรึกษา (สบ 10) กำกับดูแล ศชต. กล่าวว่า การแต่งตั้ง พล.ต.อ.สมเพียรเริ่มตั้งแต่ พล.ต.อ.สมเพียรแสดงความจำนงขอย้ายไปอยู่ บช.ภ.9 ต่อ พล.ต.ท.พีระ จากนั้น พล.ต.ท.พีระ ได้ทำหนังสือไปถึง พล.ต.ท.วีระยุทธ เพื่อขอรับการสนับสนุน ตนในฐานะเป็นนายเก่าที่เคยดูแลกันมา จึงทำหนังสือไปถึง พล.ต.ท.วีระยุทธ เพื่อให้สนับสนุน พล.ต.อ.สมเพียรไปเป็น ผกก.สภ.กันตัง จ.ตรัง ต่อมาตนได้รับหนังสือจาก พล.ต.ท.พีระ ยินดีปล่อยตัว พล.ต.อ.สมเพียร

"ผมในฐานกำกับ ศชต. แต่ไม่มีอำนาจแต่งตั้งจึงเขียนหนังสือต่อท้ายของ พล.ต.ท.พีระ ส่งต่อให้กับ พล.ต.อ.ปทีป เพื่อให้ผลักดัน พล.ต.อ.สมเพียรเป็น ผกก.กันตัง นอกจากนี้ได้โทรศัพท์ไปหา พล.ต.ท.วีระยุทธ ให้สนับสนุน พล.ต.อ.สมเพียรไปลงในตำแหน่งนั้นด้วย ซึ่ง พล.ต.ท.วีระยุทธ รับปากจะดำเนินการให้ จากนั้นเจอหน้ากันอีกหลายครั้ง พล.ต.ท.วีระยุทธ ยังรับปากว่าจะดำเนินเรื่องให้ พล.ต.อ.สมเพียร " พล.ต.อ.อดุลย์กล่าว

พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวว่า ระหว่างทำบัญชีแต่งตั้งได้ข่าวว่าบัญชีแต่งตั้งของ บช.ภ.9

มีปัญหาและชื่อ พล.ต.อ.สมเพียรอาจจะไม่ได้รับการแต่งตั้ง ตนและ พล.ต.ท.พีระจึงเข้าพบ พล.ต.อ.ปทีปให้ช่วยผลักดัน หลังจากนั้นคำสั่งแต่งตั้งออกมาและไม่มีชื่อ พล.ต.อ.สมเพียรใน บช.ภ.9 ตนจึงไปพบ พล.ต.อ.ปทีปอีกครั้ง ให้ช่วยผลักดันแต่ไม่ได้รับการสนับสนุนแต่อย่างใด