สว.บี้นายกฯ ไถ่บาปสมเพียร ตั้งกองทุนสีกากีใต้

ตร.นครบาลร่วมบริจาค กองทุน "จ่าเพียรเพื่อตำรวจกล้า 3 จังหวัดชายแดนใต้" สน.ลาดพร้าวร่วมสมทบ 100,000 บาท

ประธานชมรมอาสาพิทักษ์ปกป้องตำรวจและครอบครัว ร้องกมธ.ตำรวจ วุฒิสภา ขอความเป็นธรรมให้พล.ต.อ.สมเพียร ตรวจสอบกระบวนการแต่งตั้ง ปธ.คณะอนุกรรมาธิการกิจการตำรวจ เตรียมตั้งข้อเสนอแนะนายกฯ ให้ฝ่ายการเมืองต้องยุติการแทรกแซง แต่งตั้งโยกย้ายตร. และต้องทำบุญไถ่โทษโดยแก้ไขพ.ร.บ.ตร. รวมทั้งสอบหาตัวคนที่ทำให้ชื่อสมเพียรหายไป

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 22 มี.ค. ที่รัฐสภา พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก ประธานชมรมอาสาพิทักษ์ปกป้องตำรวจและครอบครัว

ยื่นหนังสือต่อนายสมัคร เชาวภานันท์ ส.ว.สรรหา ประธานคณะกรรมาธิการการยุติธรรมและการตำรวจ วุฒิสภา เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับพล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา อดีตผกก.สภ.บันนังสตา ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการแต่งตั้งโยกย้ายที่ผ่านมา พล.ต.ท.ชัจจ์กล่าวว่า กรณีดังกล่าวทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ถึงการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม มีการแทรกแซงจากฝ่ายการเมืองใช้เงินซื้อตำแหน่ง ทำให้ตำรวจที่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอดทนเสียสละ เป็นตำรวจที่ดีไม่ได้รับการเหลียวแลจากผู้บังคับบัญชา กระทบขวัญกำลังใจ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อวงการตำรวจ หากปล่อยให้เรื่องเงียบหายไปโดยไม่ได้รับการเยียวยาจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) ดังนั้นจึงขอให้คณะกรรมาธิการตำรวจสอบข้อเท็จจริงในกระบวน การแต่งตั้งพล.ต.อ.สมเพียร ว่าเป็นไปตามกฎหมายระเบียบและคำสั่งว่าด้วยการแต่งตั้งหรือไม่ และปฏิบัติตามมติครม.กรณีการให้บำเหน็จความชอบการแต่งตั้ง และสิทธิพิเศษแก่ผู้ปฏิบัติงานใน 3 จังหวัดชายแดนใต้หรือไม่ มีการทุจริต หรือแทรกแซงทางการเมืองหรือไม่ และใครเป็นผู้รับผิดชอบ และขอให้คณะกรรมาธิการให้ข้อสังเกตและข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหาในอนาคตเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลภายในตร.

นายสมัครกล่าวว่า คณะกรรมาธิการตั้งเรื่องเพื่อพิจารณากรณีดังกล่าว โดยมอบให้คณะอนุกรรมาธิการกิจการตำรวจ ที่มีพล.ต.ท.พิชัย สุนทรสัจบูลย์ ส.ว.อุดรธานี เป็นประธาน เบื้องต้นจะตั้งกระทู้ถามนายกฯเพื่อขอคำชี้แจงจากฝ่ายบริหารแล้ว ขณะเดียวกันได้พิจารณาปรับย้าย เลื่อนตำแหน่ง ซึ่งได้ขึ้นโครงร่างวิจัยโครงสร้างตร.ทั้งหมด

ขณะที่พล.ต.ท.พิชัย กล่าวว่า คณะอนุกรรมาธิการได้พิจารณาไปบ้างแล้ว และตั้งข้อเสนอแนะต่อนายกฯและรองนายกฯที่กำกับดูแลตร. 3 ข้อคือ
 
1.ฝ่ายการเมืองต้องยุติการแทรก แซง แต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ 2.นายกฯต้องกล้าหาญ ทำบุญไถ่โทษโดยแก้ไขพ.ร.บ.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเฉพาะการแต่งตั้งโยกย้ายต้องไม่เปิดช่องให้ผู้มีอำนาจทางการเมืองเข้ามาแทรกแซง และ3.ต้องกล้าหาญทบทวนการเข้ามาดำรงตำแหน่งเป็นประธานก.ตร. ประธาน ก.ต.ช. โดยฝ่ายการเมือง เพราะตราบใดที่ฝ่ายการเมืองยังเป็นประธานก็หนีไม่พ้นที่จะมีการแทรกแซงจากส.ส.ของพรรคนายกฯ ถ้ากล้า ทำคุณไถ่โทษเชื่อว่าพี่น้องตำรวจจะให้อภัยได้ และจะได้พิสูจน์ว่านายกฯเอาจริงเอาจังหรือไม่ จะได้รู้กันว่าที่พูดกันว่านักการเมืองพูดปากอย่าง ทำอีกอย่างจริงหรือไม่

วันเดียวกันในการประชุมวุฒิสภา ที่รัฐสภา นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เป็นประธานประชุม ช่วงเปิดให้สมาชิกหารือ นายกฤช อาทิตย์แก้ว ส.ว.กำแพงเพชร

หารือกรณีพล.ต.อ.สมเพียร เสียชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่ ว่า เคยร่วมทำงานกับพล.ต.อ.สมเพียรสมัยที่ตนเป็นนายอำเภอที่จ.ยะลา ประมาณ 5 ปี พบว่าเป็นตำรวจที่มีประสบการณ์ มีผลงานยอดเยี่ยมตั้งแต่ชั้นประทวนจนมาถึงระดับผกก. พอตอนสูงอายุขึ้นก็ต้องการย้ายไปพื้นที่อื่นที่มีความเสี่ยงน้อยลง พล.ต.อ.สมเพียรมาขอชีวิตกับผู้บังคับบัญชา ผู้หลักผู้ใหญ่ ไม่ได้รับการตอบสนองทั้งที่ต่อสู้มากว่า 40 ปี นายกฯคงยังเป็นเด็กอยู่ จึงไม่เข้าใจ ไม่ซาบซึ้ง ตนให้อภัยนายกฯไม่ได้ จนถึงวันนี้ยังไม่เห็นนายกฯแสดงความรับผิดชอบ ไม่มีมาตรการการโยกย้ายที่เป็นมาตรฐาน เพราะคงมัวยุ่งกับการเมือง

"พล.ต.อ.สมเพียรบอกว่า นายจะเอาเงิน แต่คนอย่างพล.ต.อ.สมเพียร คงไม่มีเงินมาจ่ายให้ และที่มากกว่านั้นคือ ปัญหาการซื้อขายตำแหน่งที่เกิดขึ้นเป็นเพราะมีนักการเมืองคนหนึ่งอยากเอาเด็กของตัวเองไปลงที่นั่น ทำให้พล.ต.อ.สมเพียรย้ายออกจากพื้นที่ไม่ได้ หากไม่มีเรื่องแบบนี้ พล.ต.อ.สมเพียรคงไม่ตาย ดังนั้นนายกฯต้องแก้ปัญหาการซื้อขายตำแหน่งโดยด่วน ตั้งกรรมการสอบสวนให้เจอว่า ใครเป็นคนรับเงิน " นายกฤช กล่าว

วันเดียวกัน พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วยผบ.ตร. ในฐานะโฆษกตร. เป็นประธานรับมอบเงินบริจาค จำนวน 100,000 บาท

จาก
พ.ต.อ.บุญส่ง นามกรณ์ ผกก.สน.ลาดพร้าว และตำรวจในสังกัด
เพื่อร่วมสมทบกองทุน "จ่าเพียรเพื่อตำรวจกล้า 3 จังหวัดชายแดนใต้" โดยเป็นเงินที่ตำรวจ ครอบครัว และประชาชนในพื้นที่ร่วมกันบริจาค โฆษกตร. กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณตำรวจสน.ลาดพร้าว และประชาชนที่ตระหนักถึงคุณงามความดีของพล.ต.อ.สมเพียร และตำรวจที่กำลังปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงภัย และส่วนใหญ่ต้องห่างไกลครอบครัว ความห่วงใยถือเป็นกำลังใจที่ยิ่งใหญ่
สำหรับผู้ที่ต้องการบริจาคเงินสมทบ บริจาคได้ที่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาอาคารมาลีนนท์ เลขบัญชี กระแสรายวัน 014-300-3838

พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวถึงเป้าหมายการประชุมของอนุก.ตร. ร้องทุกข์ ว่า ยังไม่ทราบเป้าหมายชัดเจนแต่น่าจะเกี่ยวข้อง 2 ประเด็น

คือ การแต่งตั้งเป็นไปตามกฎ ก.ตร. หรือกฎหมายที่ ตร. ตั้งไว้หรือไม่ และการย้ายข้ามกองบัญชาการนั้นเกี่ยวกับใช้ดุลพินิจของทั้ง 2 กองบัญชาการถูกต้องหรือไม่ ถ้าพบว่าหน่วยงานใดบกพร่องต้องมีข้อมูลหลักฐาน ชัดเจนว่าผิดอย่างไรเพื่อตอบข้อสงสัยของสังคมได้ โดยตร. ไม่ต้องการคำตอบคลุมเครือ เพราะอนุ ก.ตร.ทราบว่าทั้งตำรวจและประชาชนรอคำตอบอยู่ ซึ่งการใช้ดุลพินิจในการพิจารณาจะดูเรื่องการใช้ธรรมาภิบาล คุณธรรม จริยธรรมด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากตรวจสอบพบว่ามีนักการเมืองเกี่ยวข้องกับการโยกย้ายครั้งนี้

รวมถึงเป็นผู้ทำให้ต้องนำรายชื่อ พล.ต.อ.สมเพียรออกจากคำสั่งแต่งตั้งจะดำเนินการอย่างไร และตำรวจจะกล้าดำเนินการหรือไม่ พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า ต้องรอให้ข้อเท็จจริงปรากฏก่อน ต้องดูว่านักการเมืองคนนั้นเป็นใคร หากอนุ ก.ตร. ไม่สามารถตัดสินใจได้ ก็จะนำเข้า ก.ตร.ชุดใหญ่ที่มี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ เป็นประธานเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่า ก.ตร.มีอำนาจหน้าที่ตรวจสอบกรณีมีนักการเมืองเข้ามาแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายหรือไม่ พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า แท้จริงแล้ว ก.ตร. มีอำนาจในการเปิดประเด็นและชี้แจงแถลงข้อเท็จจริง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของ พล.ต.อ.สมเพียร จะรู้สึกบาปหรือไม่ พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับความรู้สึกแต่ละคน

แต่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ถึงแม้ตนเองจะไม่รู้สึกบาปแต่ก็คงนอนไม่หลับ และความรู้สึกสำนึกที่ต้องติดตัวผู้นั้นไปจนเสียชีวิต รายงานข่าวแจ้งว่า เวลา 15.00 น. วันที่ 23 มี.ค. พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. จะเป็นประธานประชุมเรื่องสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.) ร่วมกับหน่วยที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้การประชุมเรื่องสิทธิประโยชน์จชต. ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก ก่อนหน้านี้ตร.เคยพิจารณามาหลายครั้งแล้ว หลังจากเคยมีมติ ครม.ปี2547 ให้สิทธิประโยชน์และปูนบำเหน็จพิเศษแก้ผู้ปฏิบัติงานในจชต. และตั้งแต่มีระเบียบสำนักนายกฯ ว่าด้วยบำเหน็จความชอบสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2550 ใช้บังคับ โดยการพิจารณาเพื่อปรับกฎ ระเบียบของตร.ให้เป็นไปตามระเบียบฯและมติครม.ฉบับนี้ แต่การประชุมที่ผ่านมาทุกครั้งมีการคัดค้าน หาข้อยุติไม่ได้ โดยให้ความเห็นกันว่าให้สิทธิประโยชน์ตำรวจในจชต.มากเกินไปทำให้จนถึงขณะนี้ตำรวจในจชต.จึงยังไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ใดๆ

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์