จับแก๊งชิงทรัพย์ก่อเหตุคืนเดียว5ราย

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 15 ต.ค.49 พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.วิชัย สังข์ประไพ รอง ผบก.น.2 พ.ต.ท.ณัฐกร ประภายนต์ สว.สส.สน.โคกคราม พ.ต.ต.บุญเลิศ เกตุนุติ สวป.สน.โคกคราม ร่วมกันแถลงการจับกุมแก๊งคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์ ได้ผู้ต้องหา 4 ราย คือนายวิชาญ ทับโนนทอง อายุ 29 ปี นายวสันต์ ธนทวีธรรม อายุ 26 ปี น.ส.สุจิตรา อุปคำ อายุ 25 ปี และนายรส ซื่อสัตย์ อายุ 19 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ 2 กระบอก เครื่องกระสุน 9 นัด โทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง สร้อยคอทองคำ 1 เส้น และรถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน

พล.ต.ต.อำนวยกล่าวว่า สืบเนื่องจากกลางดึกเมื่อวันที่ 13 ต.ค. ตำรวจ สน.ลาดพร้าวได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าเห็นคนร้าย 2 คนก่อเหตุใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ผู้เสียหายเป็นหญิง บริเวณถนนลาดพร้าว จึงได้วิทยุสกัดจับ กระทั่งทราบว่าคนร้าย 2 คนขับรถจักรยานยนต์หลบหนีมาจนถึงบริเวณซอยนวลจันทร์ 9 ถ.นวลจันทร์ แขวงและเขตบึงกุ่ม ในเขตท้องที่ สน.โคกคราม

ก่อนถูกรถแท็กซี่พลเมืองดีซึ่งได้ติดตามมาพุ่งชน ทำให้รถเสียหลักล้มลง คนร้ายทั้งสองจึงทิ้งรถจยย. และใช้ปืนจี้รถแท็กซี่ ทะเบียน ทย-4620 กทม. ที่ขับมาจอดส่งผู้โดยสารพอดี หลบหนีอีกครั้งหนึ่ง ขณะนั้นด.ต.กิตินันท์ ดัดสร ผบ.หมู่งานจราจร สน.โคกคราม ซึ่งได้รับแจ้งทางวิทยุ ขับจักรยานยนต์สายตรวจตามมาจนทันบริเวณปั๊มน้ำมันปตท. สาขารามอินทรา ก.ม.2 แขวงท่าแร้ง เขตอนุสาวรีย์ จึงได้เข้าจับกุมนายวิชาญได้ ส่วนนายรสหลบหนีไปได้

จากการสอบสวนนายวิชาญรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับนายรสก่อเหตุใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ โดยในคืนเกิดเหตุก่อนที่จะถูกจับกุมได้ร่วมกันก่อเหตุชิงทรัพย์รวม 5 ราย ในพื้นที่ สน.ลาดพร้าว คันนายาว โชคชัย และบางเขน ก่อนถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ นอกจากนี้ยังรับสารภาพอีกว่าได้ร่วมกับเพื่อนอีก 2 คนก่อเหตุ ฝ่ายสืบสวนจึงได้ขยายผลตรวจค้นที่อาคารศิริวรรยา อพาร์ตเมนต์ เลขที่ 101 ซ.นวลจันทร์ 36 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม พบนายวสันต์ และ น.ส.สุจิตรา

อยู่ในห้องพร้อมของกลางอาวุธปืน 1 กระบอกพร้อมเครื่องกระสุน จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี และสามารถติดตามจับกุมตัวนายรส ที่หลบหนีมาได้ภายในห้องเลขที่ 7106 อาคารมโนรัตน์แมนชั่น ซ.นวมินทร์ 109 แขวงคลองกุ่ม เขตบึ่งกุ่ม กทม. พร้อมของกลางกระสุนปืน 3 นัด โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ร่วมกันก่อเหตุลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้งในพื้นที่ สน.ดอนเมือง ทุ่งสองห้อง หัวหมาก สภ.อ.คูคต จ.ปทุมธานี กระทั่งถูกจับกุมดังกล่าว โดยจะนำเงินที่ได้จากการชิงทรัพย์ไปเที่ยวเตร่ตามสถานบริการและนำโทรศัพท์ไปแลกยาบ้ามาเสพ อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบประวัติพบว่านายวิชาญ และน.ส.สุจิตรา เคยถูกดำเนินคดีข้อหาร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ พื้นที่ สน.ประชาชื่น ซึ่งอยู่ระหว่างการประกันตัวและได้หลบหนีประกันมา ส่วนนายรสเคยถูกจับกุมฐานปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนและพยายามฆ่า

ในพื้นที่ สภ.อ.เมือง จ.ราชบุรี อยู่ระหว่างหลบหนีการประกันตัวเช่นกัน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาแก่นายวิชาญ คือข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดหรือไม่กระทำการใดหรือจำนนต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต, พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนเข้าไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

ส่วนนายรสถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือรับของโจร, มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนนายวสันต์และน.ส.สุจิตรา แจ้งข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด