คณะลูก ขุนศาลฮ่องกงตัดสินจำคุกตลอดชีวิตช่างซ่อมแอร์จอมโหดวัย 27 ปี ฐานก่อคดีสะเทือนขวัญข้ามประเทศ
ใช้มีดแทงและฆ่ารัดคอเศรษฐินีชาวไทย เจ้าของธุรกิจอัญมณีดับสยอง จากนั้นร่วมกับเพื่อนคนงานลงมือปลดทรัพย์และนำศพไปซ่อนบนช่องแอร์ชั้น 33 ของสำนักงานสรรพากรฝั่งเกาลูน ตร. ใช้เวลาถึง 3 ปีกว่า จะจับกุมตัวสำเร็จพร้อม หลักฐานของกลาง ทั้งอาวุธสังหารและโทรศัพท์ มือถือผู้ตาย
เมื่อวันที่ 10 มี.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า คณะลูกขุนศาลฮ่องกง 7 คนลงมติเอกฉันท์ ตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิต นายโซ กัมถง ช่างซ่อมแอร์ วัย 27 ปี
ในความผิดฐานฆาตกรรม นางชลิตา กมลนรนารถ เศรษฐินีนักธุรกิจหญิงไทยวัย 40 ปี เหตุเกิดเมื่อปีพ.ศ.2548 ภายหลังนายโซใช้มีดแทงและรัดคอนางชลิตาจนขาดอากาศหายใจดับสยอง และซ่อนศพไว้เหนือช่องระบายอากาศบนชั้น 33 ของอาคารสำนักงานสรรพากร ตั้งอยู่ในฝั่งเกาลูน เขตบริหารพิเศษฮ่องกง ประเทศสาธารณรัฐประชา ชนจีน
รายงานข่าวแจ้งว่า ที่มาของคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ.2548 ขณะนางชลิตากับแฟนหนุ่มชาวออสเตรเลีย
เดินทางไปท่องเที่ยวและติดต่อทำธุรกิจอัญมณีในฮ่องกง แต่ระหว่างเดินทางไปติดต่อขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจในอาคารสรรพากรกลับถูกนายโซ ซึ่งเป็นช่างแอร์ประจำตึกใช้มีดจี้บังคับปล้นทรัพย์ ทั้งยังแทงและรัดคอเหยื่อหญิงไทยจนเสียชีวิต จากนั้นขโมยบัตรเครดิต แหวนเพชร และโทรศัพท์มือถือ ของนางชลิตาไป ต่อมาคนร้ายร่วมมือกับเพื่อนคนงานอีก 1 ราย ช่วยกันนำศพนาง ชลิตาไปซ่อนไว้บนช่องระบายอากาศขนาดใหญ่บนชั้น 33 ฝ่ายทนายความนายโซพยายามต่อสู้ในชั้นศาลว่า ลูกความพลั้งมือแทงนางชลิตาถึงแก่ความตายระหว่างปล้นทรัพย์โดยไม่เจตนา
หลังเกิดเหตุ คดีฆาตกรรมนางชลิตาตกเป็นข่าวใหญ่ทั้งในฮ่องกงและประเทศไทย ส่งผลให้ตำรวจฮ่องกงเร่งสืบสวนหาทางจับกุมตัวคนร้ายขนานใหญ่
แต่ไม่คืบหน้าเพราะขาดพยานหลักฐาน กระทั่งปี พ.ศ.2551 เกิดคดีฆ่าชิงทรัพย์พนักงานหญิง วัย 21 ปี ของสายการบินแห่งหนึ่ง และตำรวจจับกุมตัวนายโซคนร้ายในคดีนี้ได้สำเร็จ นอกจากนั้น ผลการสอบสวนขยายผลปรากฏว่าเพื่อนซึ่งเคยช่วยนายโซลงมือซ่อน ศพนางชลิตายอมรับสารภาพเพื่อขอให้ตำรวจกันตัวเป็นพยาน โดยซัดทอดว่า นายโซเป็นคนลงมือฆ่าโหดนางชลิตาด้วยเช่นกัน เมื่อรุดเข้าตรวจค้นห้องพักนายโซพบมีดของกลางที่เคยใช้ก่อเหตุสังหารนางชลิตา รวมถึงโทรศัพท์มือถือของนางชลิตา ทำให้ตำรวจฮ่องกงปิดแฟ้มคดีได้ในที่สุด