เผยเหยื่อช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หมอต้องเอาเด็กออก ตรวจดีเอ็นเอผลออกมาแทบช็อก คนร้ายคือน้องชายแท้ ๆ
วันนี้ (9 มี.ค.) ที่ห้องประชุม สภ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก พ.ต.อ.เผชิญ ตันศิริ ผกก.สภ.ชาติตระการ
พร้อมด้วย พ.ต.ท.ชูศักดิ์ วัฒนโยธิน รอง ผกก.(ป.) ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมเยาวชนวัย 15 ปี อาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.ป่าแดง อ.ชาติตระการ ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาคดีข่มขืนพี่สาวพิการวัย 22 ปี จนตั้งครรภ์ 5 เดือน โดยเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหากระทำชำเราหญิงซึ่งมิใช่ภรรยาของตน โดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยหญิงอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือทำให้หญิงเข้าใจผิดว่า ตนเป็นบุคคลอื่น ตามกฎหมาย ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276
คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.อนุศิษฐ์ ปารมีวิศิษฐ์ พงส.(สบ 2) สภ.ชาติตระการ ได้รับแจ้งจากมารดาของเหยื่อสาวว่า ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมคนร้ายที่ข่มขืนลูกสาวจนตั้งท้อง
โดยมารดาเหยื่อไอ้หื่นรายนี้ให้การเบื้องต้นว่า ตนได้แต่งงานอยู่กินกับสามีเก่าจนมีบุตรด้วยกัน 2 คน คือ บุตรสาว ซึ่งพิการแขนขาลีบมาตั้งแต่กำเนิด พูด และช่วยเหลือตนเองไม่ได้ แต่กลับถูกคนร้ายหื่นข่มขืนจนตั้งครรภ์ และบุตรชายซึ่งขณะนี้มีอายุ 15 ปี จากนั้นตนก็ได้หย่าร้างกับสามีคนเก่า และมาอยู่กินกับสามีใหม่เมื่อปี 2547 จนมีบุตรด้วยกันอีก 1 คน โดยตนเองได้นำลูกสาวที่พิการ และลูกชาย มาอยู่ด้วยกันทั้งหมดที่บ้านของสามีใหม่ ซึ่งปัจจุบันนี้ตน และสามีมีอาชีพทำไร่ และรับจ้างทั่วไป เมื่อออกไปทำงานนอกบ้านก็จะปล่อยให้ลูกสาวที่พิการพักอาศัยภายในบ้านอยู่ตามลำพังเป็นประจำ และในบางครั้งก็ให้น้องชาย และตา ดูแล
หัวอกแม่รายนี้เล่าต่อไปว่า กระทั่งวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา ตนเห็นบุตรสาวมีอาการท้องโตกว่าปกติ จึงพาบุตรสาวไปตรวจที่ รพ.ชาติตระการ
และแทบลมจับ เมื่อแพทย์บอกว่า บุตรสาวของตนท้องได้ 5 เดือนเศษแล้ว โดยตนเชื่อว่า คนร้ายซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด ได้ฉวยโอกาสที่ตนไม่อยู่บ้านเข้ามาข่มขืนบุตรสาว จึงแจ้งความดำเนินคดีให้ตำรวจติดตามจับกุมคนร้าย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เรียกผู้ต้องสงสัย 5 ราย ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดกับผู้เสียหายมาสอบสวน แต่ทั้งหมดต่างให้การปฏิเสธ เจ้าหน้าที่จึงขอโลหิตไปส่งตรวจดีเอ็นเอ
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 11 ก.พ. แพทย์ได้ผ่าตัดเด็กออกเพื่อระงับการตั้งครรภ์ จากนั้นได้ส่งตัวอย่างโลหิตตรวจพิสูจน์ที่ รพ.มหาวิทยาลัยนเรศวร ผลปรากฏว่า บุตรในครรภ์ของเหยื่อมีดีเอ็นเอที่มีความสัมพันธ์เป็นบุตร บิดา และมารดา กับน้องชายแท้ ๆ เจ้าหน้าที่จึงได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดพิษณุโลก ลงวันที่ 8 มี.ค. ก่อนจะจับกุมตัวน้องชายหื่นรายนี้ ที่สุดท้ายต้องยอมจำนนต่อหลักฐาน.