ตร.ออกหมายจับ ไล่ล่าหนุ่มใหญ่หื่นกาม เกิดหน้ามืดตัณหาจัด ใช้อุบายล่อลวงลูกสาวแท้ ๆ วัย 15 ปี อ้างพาไปสะเดาะเคราะห์ในป่าเปลี่ยว
แต่กลับบังคับให้เปลื้องผ้า ใช้กำลังชกต่อยเข้าที่หน้าท้อง อย่างแรง จนจุกเสียดสิ้นเรี่ยวแรง หมดหนทางต่อสู้ จึงถูกบิดาสายเลือดเดียวกัน ปลุกปล้ำกอดจูบลูบไล้ ใช้ลิ้นสอดใส่เข้าไปในปาก สุดท้ายพลาดท่า ถูกลูกสาวกัดลิ้นขาดคาปาก จนจำต้องจากไปด้วยความเจ็บปวด
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 7 มี.ค.ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากชาวบ้านห้วยพิกุลทอง ต.วังแดง อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ ว่าเมื่อวันที่ 28 ก.พ. เวลาประมาณ 20.00 น.
เกิดเรื่องราวสลดใจ เนื่องจากมีพ่อหื่นกาม พยายามข่มขืนลูกสาวตัวเอง แต่ลูกสาวต่อสู้ขัดขืน และใช้ปากกัดจนลิ้นขาด เหตุเกิดที่บริเวณในซอยป่าข้างทางถนนหมายเลข 11 ถนนอุตรดิตถ์-พิษณุโลก เขตติดต่อ อ.ตรอน และ อ.ทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ ส่วนผู้ก่อเหตุอยู่ระหว่างการหลบหนี
สำหรับเหยื่อสาวเคราะห์ร้ายราย นี้ทราบชื่อ น.ส.เก๋ (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน อ.เมืองอุตรดิตถ์
โดยเหตุเกิดระหว่างที่ น.ส.เก๋ ขี่รถจักรยานยนต์ เพื่อไปทำการบ้านที่บ้านเพื่อน แต่ระหว่างนั้นถูกนายปื๊ด (นาม สมมุติ) พ่อแท้ ๆ อายุ 52 ปี ใช้อุบายอ้างว่า ขอนั่งรถไปเป็นเพื่อนด้วย แต่ระหว่างเดินทางกลับ ซึ่งเป็นช่วงค่ำมืด นายปื๊ด กลับขี่รถจักรยานยนต์ ไปคนละเส้นทาง โดยอ้างว่าจะพาลูกสาวไปสะเดาะเคราะห์ แต่พอถึงจุดเกิดเหตุ กลับขี่รถเข้าป่าละเมาะข้างทาง แล้วใช้ผ้าห่มที่เตรียมมาปูลงกับพื้น พร้อมนำเทียนมาจุดทำเป็นพิธี จากนั้นได้ บอกให้ลูกสาวถอดเสื้อผ้าออก
จากนั้นนายปื๊ด ได้ใช้กำลังปลุกปล้ำ แต่ลูกสาวพยายามขัดขืน จึงถูกบิดาชกไปที่ท้องอย่างแรง จนเกิดอาการจุกเสียด
หมดกำลังต่อสู้ จึงถูกบิดาปลุกปล้ำกอดจูบ และใช้ลิ้นสอดใส่เข้าไปในปาก เลยพลาดท่าถูกลูกสาวใช้ฟันกัดอย่างแรง จนลิ้นขาดติดอยู่ในปาก ยาวประมาณ 1.5 เซนติเมตร ทำให้นายปื๊ด เกิดความเจ็บปวด และด้วยความตกใจ จึงรีบวิ่งหลบหนีเข้าป่าข้างทาง จากนั้น มารดา น.ส.เก๋ ทราบเรื่อง จึงพาลูกสาวเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.พยุง ภุฒชัย พนักงานสอบสวน สภ.ทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ เพื่อ ให้สอบสวนเอาผิดกับพ่อหื่นกามรายนี้
จนกระทั่งต่อมา พ.ต.ท.พยุง ได้สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เสนอออกหมายจับพ่อหื่นกามรายนี้แล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ที่ผ่านมา พร้อมกับประสานฝ่ายสืบสวน เร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วนแล้ว แต่ในเบื้องต้นยังไร้วี่แวว.