แม่ร้องปวีณาช่วยลูกชายวัย 17 ปี ถูกทำร้ายร่างกายเสียชีวิต หลังเข้าไปอยู่ในศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 2 ราชบุรี
และถูกทำร้ายเมื่อ 19 ก.พ. ถูกส่งเข้าไอซียูร.พ.ราชบุรี ก่อนสิ้นใจเมื่อเช้าวันที่ 5 มี.ค. หมอชี้ทรวงอกได้รับบาดเจ็บรุนแรง ปอดฟกช้ำรุนแรง ระบบหายใจล้มเหลว แม่เผยมีเทปเสียงครูโทร.มาสารภาพว่าทำร้ายลูก จนนอนไอซียูให้ออกซิเจน- เจาะเลือดออกจากปอดทั้งสองข้าง ด้านผอ.ศูนย์ระบุต้องรอผลสอบจากกรรมการ ขณะที่ตร.รู้ ตัวคนทำร้ายเด็กแล้ว รอแม่แจ้งความดำเนินคดีวันนี้
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 7 มี.ค. น.ส.อรุณลักษณ์ อุ่นเดช อายุ 33 ปี อาชีพค้าขาย อยู่ที่ จ.สมุทรปราการ
เดินทางมายัง "มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี" ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เพื่อร้องทุกข์ต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิ กรณีนายธนทัต อุ่นเดช หรือเอ็ม ลูกชาย อายุ 17 ปี ซึ่งอยู่ในความดูแลของศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 2 ราชบุรี ถูกทำร้ายร่างกายเมื่อวันที่ 19 ก.พ.2553 ได้รับบาดเจ็บสาหัส เข้ารักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู โรงพยาบาลราชบุรี และเสียชีวิตในช่วงเช้าของวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา
น.ส.อรุณลักษณ์กล่าวว่า เมื่อเดือนมี.ค.2552 ลูกชายถูกส่งตัวเข้าสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดราชบุรี
ต่อมาลูกชายก็ถูกส่งไปอยู่ในความควบคุมดูแลของศูนย์ฝึกและ อบรมเด็กและเยาวชนเขต 2 ราชบุรี เป็นเวลา 1 ปีเศษ อีก 3 เดือนก็จะพ้นโทษออกมา ต่อมาวันที่ 19 ก.พ.2553 ตนได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ศูนย์ฝึกฯ ว่า ลูกชายป่วยนอนรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลราชบุรี ตนและญาติจึงเดินทางไปเยี่ยม ในวันที่ 20 ก.พ. พบว่าลูกชายรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู สภาพบอบช้ำภายใน ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจและต้องเจาะเลือดออกจากปอดทั้ง 2 ข้าง ลักษณะคล้ายถูกทำร้ายอย่างรุนแรง ไม่เหมือนคนป่วยด้วยโรคตามที่เจ้าหน้าที่ศูนย์แจ้งมา ตนจึงพยายามสอบถามลูกชายว่า "ใครเป็นคนทำร้ายลูก ครูใช่ไหม" ลูกชายก็พยักหน้ารับว่าใช่ ซึ่งขณะที่ถามลูกชายมีสติสัมปชัญญะดีอยู่ แต่พูดไม่ได้ เพราะต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
ร้องปวีณาช่วย ลูกตายปริศนา
ต่อมาวันที่ 24 ก.พ.ครูฝึกชื่อเล่นว่าน้อย ได้โทรศัพท์มาหาตนบอกว่าลูกชายเป็นเด็กดี ช่วยเหลืองานครูฝึกเป็นประจำ เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เจตนา
โดยยอมรับว่าเป็นคนทำร้ายลูกชายและขอโทษตนที่ทำให้ลูกชายต้องได้รับบาดเจ็บ โดยขณะที่พูดโทรศัพท์กับนายน้อยอยู่นั้นตนได้บันทึกเสียงของนายน้อยไว้โดยตลอด เพราะสงสัยว่าลูกชายคงไม่ได้โดนเด็กในศูนย์ฝึกอบรมฯ ทำร้ายอย่างแน่นอน จนกระทั่งวันที่ 27 ก.พ.ได้พบกับนายน้อยที่โรงพยาบาลราชบุรี ซึ่งตนพยายามถามถึงสาเหตุการทำร้ายร่างกายลูกชาย แต่นายน้อยพยายามบ่ายเบี่ยง และพูดเรื่องอื่นแทน ต่อมาในเช้าวันที่ 5 มี.ค.ลูกชายก็เสียชีวิตลง โดยแพทย์ระบุสาเหตุการตายว่าทรวงอกได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง ปอดฟกช้ำรุนแรง ก่อให้เกิดกลุ่มอาการหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน ตนจึงตัด สินใจเข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณา เพราะตนเชื่อว่าลูกชายไม่ได้เสียชีวิตเพราะถูกเพื่อนทำร้ายร่างกาย สิ่งที่เกิดขึ้นทางศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 2 ราชบุรี ต้องรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้น
ภายหลังจากรับทราบเรื่องนางปวีณาได้ประสานไปยังนายธวัชชัย ไทยเขียว อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม
เพื่อขอให้สอบสวนสาเหตุการตายของนายธนทัต เพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย ซึ่งมีหลักฐานลักษณะเป็นเทปที่บันทึกทางโทรศัพท์ ที่น่าสงสัยว่าใครเป็นผู้ทำร้ายนายธนทัต จึงจำเป็นต้องแจ้งและดำเนินการให้ตำรวจสอบสวน และได้ประสานกับ พล.ต.ต.เพชร รัตน์ แสงไชย ผบก.ภ.จว.ราชบุรี นำน.ส.อรุณลักษณ์เดินทางเข้าพบพล.ต.ต.เพชรรัตน์ และ พ.ต.อ.อนุภาพ ศรีนวล ผกก.สภ.เมืองราชบุรี เพื่อเร่งดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดอย่างเร่งด่วน โดยทางชมรมถ้ำเสือ จ.ปทุมธานี ได้มอบเงินค่าทำศพ 5,500 บาท ขณะที่มูลนิธิปวีณาฯ ได้มอบเงินช่วยเหลือค่าเดินทางอีก 2,500 บาทด้วย
ด้านนายยุทธนันท์ ยิ้มพลูทรัพย์ ผอ.ศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชน เขต 2 ราชบุรี กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เหตุนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ก.พ. และได้นำผู้บาดเจ็บมานอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลราชบุรี
และเมื่อวันที่ 6 มี.ค.ได้รับรายงานว่า เด็กที่ได้รับบาดเจ็บเสียชีวิตแล้ว ตนได้สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน 3 คน เพื่อหาสาเหตุในครั้งนี้ เบื้องต้นได้ประสานกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองราชบุรี ในการชันสูตร และต้องรอผลการชันสูตรและการดำเนินการของ พนักงานสอบสวน ซึ่งในตอนนี้ไม่สามารถพูดอะไรได้มาก ต้องรอผลจากคณะกรรมการที่ลงไปสอบสวนก่อน
พ.ต.ท.ปัญญา เมฆพยัพ พนักงานสอบสวน กล่าวว่า เมื่อวันที่ 6 ก.พ.ได้รับแจ้งให้ไปชันสูตร พลิกศพที่โรงพยาบาลราชบุรี
ซึ่งเป็นเด็กในศูนย์ฝึกฯ จึงแจ้งอัยการ และฝ่ายปกครอง ร่วมกันชันสูตร เบื้องต้นทราบจากญาติของเด็กว่าเด็กถูกทำร้าย แต่ได้บันทึกรับเรื่องไว้ ต้องรอผลผ่าพิสูจน์จากทางแพทย์ก่อน ถ้าแพทย์ลงความเห็นว่าถูกทำร้ายก็ต้องดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อเหตุ และได้ประสานกับทางแม่ของผู้ตาย ให้มาแจ้งความในวันที่ 8 ก.พ.ทางตำรวจจะได้ดำเนินการต่อไป
อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 19 ก.พ.ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุทะเลาะวิวาทในศูนย์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสและนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลราชบุรี และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 5 มี.ค. ทางญาติของผู้ตายได้ติดใจสาเหตุการตาย และจะขอดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อเหตุ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ทราบแล้วว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร จะได้สืบสวนและดำเนินคดีต่อไป