ผวาอีกรอบ บินเล็กชนตึกกลางนิวยอร์ก ตายคาเครื่อง

ชาวมหานครนิวยอร์กต้องขวัญผวากันอีกครั้ง


นับตั้งแต่เผชิญเหตุวินาศกรรมตึกเวิลด์เทรด เซ็นเตอร์ ที่ตั้งอยู่ใจกลางมหานครนิวยอร์ก พังถล่มลงมาราบเป็นหน้ากลอง เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2544 จนกลายเป็นข่าวช็อกโลกเมื่อ 5 ปีก่อน โดยคราวนี้เหตุเกิดคล้ายคลึงกัน แต่เป็นเครื่องบินเล็กพุ่งเข้าชนอาคารคอนโดมิเนียมหรูหรา จนเกิดเพลิงไหม้ตัวอาคาร

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 ต.ค.


ระบุเกิดเหตุลักษณะคล้ายคลึงกับเหตุการณ์ 911 เมื่อเครื่องบินเล็กเครื่องยนต์เดี่ยว ขนาด 4 ที่นั่ง รุ่นเซอร์รัส เอสอาร์ 20 พุ่งชนอาคารคอนโดมิเนียมหรูชื่อ บีแลร์ ขนาดความสูง 50 ชั้น ตั้งอยู่ระหว่างถนนอีส 72 เอ็นดีเอสที กับถนนยอร์ค อเวนิว ใกล้กับแม่น้ำอีส ในย่านแมนฮัตตันด้านตะวันออกตอนเหนือ โดยเครื่องบินพุ่งชนอาคารบริเวณชั้น 20 และ 21 ทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้อย่างน่ากลัว

เศษซากเครื่องบิน ซากอาคาร และกระจกหน้าต่างร่วงหล่นลงบนพื้นถนนด้านล่าง ทำให้ผู้คนแตกตื่นหนีภัยกันโกลาหล

เหตุการณ์ที่ทำให้ขวัญผวาดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 14.45 น. วันพุธที่ 11 ต.ค. ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลา 01.45 น. เช้าวันพฤหัสบดีที่ 12 ต.ค. ตามเวลาประเทศไทย

เบื้องต้นผู้คนผวาเป็นเหตุก่อการร้าย


เนื่องจากเพิ่งผ่านพ้นวันครบรอบ 5 ปี เหตุวินาศกรรม ตึกเวิลด์เทรดได้แค่เดือนเดียว แต่ในเวลาต่อมา พบว่าเครื่องบินลำดังกล่าวเป็นของนายคอรี ไลเดิล วัย 34 ปี นักเบสบอลตำแหน่งผู้ขว้างลูก สังกัดทีมนิวยอร์ก แยงกี้ อยู่บนเครื่องบินพร้อมครูฝึกการบินแค่ 2 คน และเสียชีวิตทั้งคู่

แต่ยังไม่ทราบชัดว่าใครคือผู้ควบคุมการบิน

ต่อมารัฐบาลสหรัฐฯแถลงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทันที ระบุไม่ใช่การก่อการร้าย เป็นแค่อุบัติเหตุ แต่ได้สั่งปิดน่านฟ้าและส่งเครื่องบินกับเฮลิคอปเตอร์หลายลำขึ้นตรวจการณ์

นอกจากนั้น ยังไม่มีคำสั่งเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติจากระดับที่เป็นอยู่ด้วย


นายไพโรจน์ ปักษาษิณ ผู้สื่อข่าวไทยรัฐประจำมหานครนิวยอร์ก รายงานว่า บริเวณใกล้ที่เกิดเหตุมีร้านอาหารไทยอยู่ด้วยชื่อ เวียงพิงค์ 2 พนักงานในร้าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนไทย ได้ยินเสียงระเบิดและตกใจวิ่งออกไปดูที่เกิดเหตุ แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ทางร้านไม่มีอะไรเสียหาย ยังเปิดค้าขายปกติ

นอกจากนั้น

ตึกคอนโดมิเนียมดังกล่าวก็ไม่มีคนไทยพักอาศัยอยู่ด้วย อย่างไรก็ดี ระหว่างเกิดเหตุร้ายมีฝนตกลงมาพรำๆ ทำให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและหน่วยกู้ภัยของมหานครนิวยอร์กสามารถควบคุมเพลิงได้อย่างรวดเร็วไม่ถึง 1 ชั่วโมง แต่มีรายงานผู้บาดเจ็บเล็กน้อยด้วย 21 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ดับเพลิง แต่ไม่ทราบสาเหตุของการบาดเจ็บ

ขณะที่เจ้าหน้าที่การบินพลเรือนของสหรัฐฯอยู่


ระหว่างเร่งสอบสวนสาเหตุเครื่องบินพุ่งชนตึกครั้งนี้ เบื้องต้นเชื่อว่าอาจเพราะระบบส่งเชื้อเพลิงขัดข้อง สำหรับนายไลเดิล เพิ่งได้รับใบอนุญาตขับเครื่องบินเมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา

ส่วนเครื่องบินลำดังกล่าวผลิตเมื่อปี 2545

นายไลเดิลเพิ่งซื้อเมื่อช่วงต้นปีนี้ โดยเครื่องบินรุ่นนี้มีการติดตั้งระบบร่มชูชีพปล่อยถ่วงเวลา หากเกิดกรณีเครื่องบินตกด้วย แต่ลักษณะที่เกิดเหตุ ไม่พบการทำงานของระบบร่มดังกล่าว

ข่าวแจ้งว่านายไลเดิลเพิ่งเซ็นสัญญาลงเล่นให้ทีมเบสบอลฟิลลีส์


เมื่อเดือน พ.ย. ปี 2547 สัญญามีระยะเวลา 2 ปี ด้วยค่าเหนื่อย 6.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่นายไลเดิลได้รับเงินค่าจ้างไปทั้งหมดแล้ว และผู้จ้างก็ไม่สามารถขอคืนเงินที่เหลือก่อนหมดสัญญาได้ด้วย เพราะฤดูกาลแข่งขันในปีนี้ได้จบสิ้นลงแล้ว ซึ่งบุคคลใกล้ชิดนายไลเดิลเผยว่า

นายไลเดิลคลั่งไคล้ชื่นชอบชีวิตการบินอย่างมาก

เพราะรู้สึกถึงความเป็นอิสระ ปลดเปลื้องความเครียดจากการแข่งขันเบสบอลได้อย่างดี แม้รู้ดีถึงความเสี่ยง แต่เขาเคยพูดว่าขับเครื่องบินยังเสี่ยงน้อยกว่าการขับรถยนต์บนพื้นดินเสียอีก

สำหรับประวัตินายไลเดิล


แต่งงานแล้ว มีบุตรชาย 1 คน วัย 6 ขวบ มักใช้ชีวิตเล่นกีฬากับลูกชายที่โรงเรียนบ่อยครั้ง นอกจากนั้น ยังมีน้องชายเป็นอดีตนักกีฬาเบสบอลในลีกรัฐฟลอริดาด้วย




แหล่งที่มา:

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์