เมื่อวันที่ 3 มี.ค. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พร้อม พ.ต.ท.สราวุธ จินดาคำ ผกก.สน.ลุมพินี
พ.ต.ท.ปิโยรส กัณหะสิริ สว.สส. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ลุมพินี เดินทางไปที่วัดคลองเตยใน แขวงเเละเขตคลองเตย ในเวลา 5 โมงเย็น เพื่ออายัดศพ ด.ญ.รัตติกาล หรือ น้องโฟกัส หม่องสนธิ อายุ 2 ขวบ ขณะกำลังจะถูกนำขึ้นเมรุเพื่อฌาปนกิจ หลังจากได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า น้องโฟกัสอาจจะเสียชีวิตเนื่องจากถูกฆาตกรรม
นางปวีณา กล่าวว่า เมื่อ 2 มี.ค. มีพลเมืองดีเข้ามาร้องเรียน ว่าเด็กไม่น่าเสียชีวิตเพราะหกล้มเองตามที่น.ส.น้องหนู อายุ 20 ปี พี่เลี้ยงของน้องโฟกัส และมีศักดิ์เป็นอา
กล่าวอ้าง เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดโลงออกตรวจสอบสภาพศพก็พบว่า สภาพร่างกายภายนอกของน้องโฟกัสเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำดำเขียวกว่า 30 จุด ขณะที่แผนกนิติเวชโรงพยาบาลจุฬาฯ ระบุสาเหตุของการเสียชีวิตว่า น้องโฟกัส เสียชีวิตเนื่องจากมีเลือดออกในช่องท้อง เยื่อบุลำไส้ฉีกขาด เลือดคั่งในสมองซีกซ้าย และกะโหลกศีรษะร้าว เจ้าหน้าที่จึงอายัดศพน้องโฟกัส ส่งไปยังแผนกนิติเวชโรงพยาบาลจุฬาฯ เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง
ต่อมา พ.ต.ท.ปิโยรส นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ลุมพินี ไปยังแฟลตเทพประทาน เพื่อเชิญตัว น.ส.น้องหนู มาสอบปากคำ
โดยใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง จนเจ้าตัวยอมรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือตีน้องโฟกัสจนสลบเอง แต่ไม่คิดว่าจะทำให้ถึงขั้นเสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้ พ่อแท้ๆ ของน้องโฟกัส เสียชีวิตไปแล้ว ประมาณ 2 ปี ส่วนแม่ก็ติดคุกคดีทำร้ายร่างกาย ทำให้น้องโฟกัส ถูกส่งไปยังสถานรับเลี้ยงเด็ก จนกระทั่งแม่ของน้องโฟกัส พ้นโทษออกมาก็ไปรับน้องโฟกัสกลับมาเลี้ยงเอง แต่ก็เลี้ยงไม่ไหว จึงเอาไปฝากให้ย่าเลี้ยง แต่ย่าก็เลี้ยงไม่ไหวอีกเพราะแก่แล้ว เลยเอามาฝากตน ซึ่งเป็นลูกสะใภ้และมีศักดิ์เป็นอาสะใภ้ของน้องโฟกัสเลี้ยง
น.ส.น้องหนู กล่าวว่า ตลอดเวลาที่เด็กอยู่กับตนก็ชอบบ่นงอแง ว่าอยากกลับไปอยู่กับแม่ ตนหาอะไรให้กินก็ไม่ยอมกิน สร้างความเอือมระอาให้ตนอย่างมาก
จนเมื่อวานนี้ ด้วยความโมโหเลยตีไปหลายครั้งอยู่นานเป็นชั่วโมง จนเด็กสลบไป จากนั้นตนก็ออกจากห้องไปซื้อข้าวกลับเข้ามากิน พอกลับมาที่ห้องก็เข้าไปปลุกเด็กแต่ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมตื่น ไม่ว่าจะตบแรงแค่ไหนก็ตาม ด้วยความตกใจเลยออกไปเรียกคนข้างห้องมาช่วยกันพาเด็กส่งโรงพยาบาลยาสูบ แต่แพทย์ระบุว่าเด็กเสียชีวิตแล้ว
เบื้องต้น ตำรวจแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ก่อนนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป