ย้อนรอยประกาศิตสั่งตายโจ๋เมืองน้ำดำ 21 ศพ

ความตายของวัยรุ่น ใน จ.กาฬสินธุ์


ไม่เว้นแม้แต่ผู้หญิง ถูกฆ่าแขวนคอ -ยิงทิ้ง ตลอด 2 ปี ตายกว่า 20 คน ทุกคดีไร้เงื่อนงำ ไม่คืบหน้า หากไม่มี "นางสา" ย่าผู้สูญเสียหลานชาย ปมปริศนาก็อาจไม่ถูกคลี่คลาย

ปมปริศนาการตายของนายเกียรติศักดิ์ ถิตย์บุญครอง หรือน้องเอ็กซ์


ที่ถูกฆ่าแขวนคอด้วยวัยเพียง 17 ปี ที่เคยมืดมิด กำลังจะคลี่คลายด้วยฝีมือ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ และอาจเป็นแสงสว่างที่นำไปสู่คดีปริศนาอื่นๆ อีกกว่า 20 คดี ที่เกิดขึ้นใน จ.กาฬสินธุ์ นานต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2546-2548

ปูมลึกของชีวิตน้องเอ็กซ์ พ่อแม่แยกทางกัน จึงต้องมาอยู่กับย่าที่ จ.กาฬสินธุ์


ตั้งแต่ยังแบเบาะ ซึ่งมีนางพิกุล พรหมจันทร์ ผู้เป็นอาเลี้ยงดูมากับลูกพี่ลูกน้องในบ้านอย่างอบอุ่น กระทั่ง 14 ปีที่แล้ว นางพิกุลย้ายครอบครัวไปอยู่นนทบุรี น้องเอ็กซ์จึงต้องอยู่กับย่า ซึ่งคอยดูแลอย่างใกล้ชิด

เมื่อหลานชายหายไป นางสาก็แทบเป็นบ้า บางคืนลุกขึ้นมานั่งพูดคนเดียว ลูกหลานต้องไปรับตัวมาอยู่ด้วย แต่นางสาประกาศว่า "ก่อนตายต้องรู้ว่าใครฆ่าหลานรัก"

ย้อนเหตุการณ์วันแห่งความเศร้าโศกของนางสา


เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2547 ตำรวจภูธรอำเภอจังหาร จ.ร้อยเอ็ด พบศพนายเกียรติศักดิ์ สภาพถูกฆ่าแขวนคอ ที่กระท่อมปลายนาในเขตท้องที่ตำรวจอำเภอจังหาร จ.ร้อยเอ็ด คนร้ายพยายามอำพรางว่า แขวนคอตาย แต่จากการชันสูตรพบว่า ถูกฆ่าอย่างทรมานก่อนจะนำศพมาแขวนคอ

เป็นคดีที่ประชาชนทั่วประเทศให้ความสนใจในทันที เมื่อญาติๆ ระบุว่า น้องเอ็กซ์ ตายเพราะฝีมือตำรวจ !!!

นางสา เล่าว่า เชื่อว่าหลานรักตายเพราะถูกตำรวจฆ่า


เพราะถูกจับข้อหาขโมยรถจักรยานยนต์ก่อนเสียชีวิต 2 วัน และได้โทรศัพท์มาหาย่า ส่งเสียงตะโกนอย่างลนลานว่า "ตำรวจกำลังจะฆ่าเอ็กซ์แล้ว" ก่อนเสียงเงียบหาย

เมื่อไปตามหาถึงโรงพักก็พบเพียงถุงเสื้อผ้า มารู้อีกทีก็กลายเป็นศพถูกฆ่าแขวนคอแล้ว

ตำรวจไม่เคยตอบชัดเจนว่า


หลังพามาโรงพักแล้ว น้องเอ็กซ์หายไปไหน เพียงบอกแต่ว่า ปล่อยตัวไปแล้ว และไม่รู้ว่าใครฆ่า !!!

ที่น่าแปลกคือ...

หากปล่อยตัว ทำไมหลานชายจึงไม่เอาถุงเสื้อผ้าไปด้วย การที่ตัวหายไปโดยทิ้งข้าวของไว้ แสดงว่าน่าจะต้องมีเรื่องรีบร้อนหรือถูกกระชากตัวไปกะทันหัน

หลังพบศพ การร้องเรียนตามหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้เริ่มต้นขึ้น


และทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถ่ายเอกสารหนังสือร้องเรียนไปมากมาย แต่คดีก็ไม่คืบหน้า กระทั่งเข้าร้องต่อสำนักราชเลขาธิการเพื่อถวายฎีกาในปี 2548

โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ได้รับทำเป็นคดีพิเศษที่ 30/2548 ในเดือนมีนาคม และเริ่มสืบหาสาเหตุ

ต่อมาเมื่อมีการยึดอำนาจโดย คปค. คดีน้องเอ็กซ์ นับเป็นรายแรกๆ


ที่มีการร้องเรียนถึง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้า คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) สะท้อนถึงนโยบายของรัฐโดยเฉพาะตำรวจนอกแถว ที่ใช้ประกาศิตชี้ตายวัยรุ่นกว่า 20 คนในเมืองกาฬสินธุ์ อย่างไร้มนุษยธรรม

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2549


พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งเป็นเจ้าของคดี ได้เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุภายใน สภ.อ.เมืองกาฬสินธุ์ ท่ามกลางความสนใจของชาวบ้านและสื่อมวลชน

โดยยืนยันว่า

การตายของนายเกียรติศักดิ์ เป็นคดีฆาตกรรมและมีนายตำรวจทั้งชันประทวนและสัญญาบัตรรวม 5 นายที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ และสอบพยานไปแล้ว 108 ปาก

ตำรวจ สภ.อ.เมืองกาฬสินธุ์ และพยานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง


เคยเข้าเครื่องจับเท็จ ตามความยินยอมของพยานแล้ว 12 นาย ซึ่งผลออกมามีทั้งเท็จและไม่เท็จ แต่การสอบสวนเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะเชื่อว่าเรื่องนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับคนในเครื่องแบบ...

พ.อ.ปิยะวัฒก์ กล่าวว่า


นายเกียรติศักดิ์ถูกฆ่าตายก่อนที่จะนำศพไปแขวนคอเพื่ออำพรางคดี ซึ่งจากการชันสูตรพลิกศพของแพทย์ยืนยันว่านายเกียรติศักดิ์ เสียชีวิตก่อนนำไปแขวนคอไม่น้อยกว่า 8 ชั่วโมง

พ.อ.ปิยะวัฒก์ กล่าว


ขณะนี้เราสามารถรวบรวมพยานและหลักฐานเกือบครบแล้วประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ เหลือเพียงรอหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งคาดว่าจะสามารถสรุปคดีได้ไม่นาน ส่วนการตายของคดีอื่นร่วม 20 คดีในช่วง 2546-2548 ใน จ.กาฬสินธุ์และจังหวัดใกล้เคียง ยังไม่ได้เป็นคดีพิเศษ ดีเอสไอจึงยังไม่มีอำนาจสืบสวนสอบสวน

แต่ถ้าหากว่ามีส่วนเกี่ยวพันกับคดีนายเกียรติศักดิ์

ก็สามารถเสนอขออนุมัติจากคณะกรรมการคดีพิเศษ เป็นคดีพิเศษก่อน จึงจะมีอำนาจในการสืบสวนสอบสวนและจับกุมได้

แหล่งข่าวรายหนึ่งระบุว่า


การตายของกลุ่มวัยรุ่นใน จ.กาฬสินธุ์ ส่วนใหญ่เป็นคนที่มีคดีติดตัว ไม่ว่าจะเป็นเสพยาบ้าตลอดจนการลักเล็กขโมยน้อย ซึ่งในยุคของการปราบปรามยาเสพติดนั้น เคยมีคำสั่งให้ล้างบางผู้ค้าและผู้เสพที่ถือว่าเป็นภัยสังคม

ต่อมาการใช้อำนาจในการปราบปรามเริ่มทวีความรุนแรง

จนกลายเป็นข้อกังขาในสังคมขึ้นมาทันที เนื่องจากการตายของกลุ่มวัยรุ่นหลายคดีที่ถูกตีแผ่ออกไป ล้วนแล้วแต่เป็นคดีลักเล็กขโมยน้อยเท่านั้น

คดีของนายเกียรติศักดิ์ เหยื่อรายที่ 13 ที่ถูกฆ่าแขวนคอ


จึงเป็นการเปิดโปงเพื่อเป็นบทพิสูจน์การทำงานของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ อีกทั้งยังเป็นการเตือนสติให้แก่ตำรวจนอกแถวบางคนที่คิดจะสั่งสมบารมีด้วยการใช้อำนาจรัฐทำร้ายประชาชน วันนี้ สังคมจึงต้องการให้เปิดโปง...คนลุแก่อำนาจ

คดีวัยรุ่นที่เสียชีวิตทั้ง 21 คน ใน จ.กาฬสินธุ์ ระหว่างปี 2546-2548


ที่ถูกแขวนคอและยิงตาย โดยข้อมูลของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ แจ้งว่า คดีที่เป็นเงื่อนงำกลายเป็นปริศนา ได้แก่

รายที่ 1.นายประเสริฐ์ กรุงศรีวัฒนา ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2546


2.นายจตุพล นันนาเชื่อก ถูกยิงเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2547 ที่หน้าโรงเรียนอนุกูลนารี


3.นายทองจัน ภาระดี ถูกฆ่าแขวนคอเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2547 ที่กระท่อมปลายนาบ้านเตาไห อ.เมืองกาฬสินธุ์


4.นายสุพรรณ พลอยวิเลิศ ถูกยิงเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2547 บริเวณซอยคำผลพัฒนา เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์


5.นายชาญชัย กอหาญ ถูกยิงเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2547


6.นางแพก แสงสว่าง ถูกยิงเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2547


7.นายพิทูรย์ ไร่เกียรติ ถูกยิงเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2547


8.น.ส.น้ำฝน ดลรัศมี ถูกยิงเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2547


9.นายประวิทย์ สัตวุธ ถูกฆ่าแขวนคอเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2547


10.นายสงกรานต์ เดชกรภัทร ถูกยิงเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2547


11.นายด๊าด ปาทาน ถูกยิงเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2547


12.นายกฤตชาดน ปัญจะ หายตัวอย่างไร้ร่องรอยตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม 2547


13.นายเกียรติศักดิ์ ถิตย์บุญครอง ถูกฆ่าแขวนคอ


14.นายสมสิน วรวัฒนาวงค์ ถูกยิ่งเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2548


15.นายไพรวรรณ ภูขีด ถูกยิงเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2548


16.นายสาคร สาระวิถี ถูกยิงเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2548


17.นายวินัย โกมาร ถูกยิงเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2548


18.นายปรีชา คำประเทือง ถูกยิงเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2548


19.นายชัยวุฒิ เหล่าเจริญ ถูกยิงตายในเดือนมีนาคม 2548


20.นายปุ้ย ไม่ทราบนามสกุล ถูกฆ่าแขวนคอในเดือนมีนาคม 2548 ที่ศาลามอดินแดง


และรายที่ 21 เป็นคดีหายตัวของวัยรุ่นรายหนึ่งในเขต อ.เมืองกาฬสินธุ์ที่ยังไม่เปิดเผย




แหล่งที่มา:

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์