เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 27 ก.พ. พ.ต.ท.สมเชิญ ทองใหญ่ สารวัตรเวรสภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช
รับแจ้งจากร.พ.ท่าศาลาว่า มีผู้ถูกลูกคลั่งทำร้ายร่างกายมาเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 2 ศพ จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.อดุลย์ ธนะชัยขันธ์ ผกก.สภ.ท่าศาลา พ.ต.ท.ประเสริฐ นาคคง รองผกก.ป. พ.ต.ท.ศิริพงษ์ โพธิ์พัฒน์ รองผกก.สส. พ.ต.ท.ปรีชา ศรีสุกุล พ.ต.ท.นิยม เชตวรรณ์ สวป. แพทย์เวรร.พ.ท่าศาลา และมูลนิธิใต้เต็กตึ๊งท่าศาลา รีบรุดเดินทางไปร่วมชันสูตรพลิกศพที่ร.พ.ดังกล่าว
เมื่อไปถึงพบศพผู้เสียชีวิต 2 ศพเป็นสองสามีภรรยา ศพแรกคือ นายแอ ยะโกบ อายุ 75 ปี
สภาพศพถูกฟันด้วยมีดพร้าเข้าที่ศีรษะ ใบหน้าเละนับสิบแผล ศพที่ 2 คือ นางหับส่อ ยะโกบ อายุ 71 ปี ภรรยาของนายแอ ถูกฟันด้วยมีดพร้าเข้าที่ศีรษะ ใบหน้าและลำตัวเละนับสิบแผล ผู้ตายทั้งสองอยู่บ้านเลขที่ 177/2 หมู่ 11 ต.กลาย อ.ท่าศาลา นครศรีธรรม ราช ซึ่งเป็นบ้านสถานที่เกิดเหตุ
จากการสอบสวนทราบว่า คนร้ายรายนี้คือ นายปรีชา ยะโกบ อายุ 28 ปี ลูกชายของผู้ตายทั้งสองนั่นเอง
โดยหลังเกิดเหตุชาวบ้านและตำรวจช่วยกันจับกุมตัวนายปรีชาไว้ได้ แต่ยังมีอาการคลุ้มคลั่งเนื่องจากป่วยเป็นโรคประสาท พูดจาไม่รู้เรื่อง พูดจาเพ้อเจ้อตลอดเวลา และพอจะจับใจความได้ว่าพ่อกับแม่นั้นเป็นผีปอบ ตนได้ฆ่าปอบทั้งสองเรียบร้อยแล้ว จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนายปรีชาเข้าห้องขังเพื่อสงบสติอารมณ์ต่อไป
ต่อมาพ.ต.ท.ประเสริฐนำกำลังตำรวจเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าบ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ อยู่กลางสวนมะพร้าว
บริเวณพื้นดินหน้าบ้านพบกองเลือด 2 จุด จุดแรกห่างจากตัวบ้านประมาณ 5 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่นายแอถูกทำร้าย และห่างไปอีก 20 เมตรในสวนมะพร้าวเป็นจุดที่นางหับส่อถูกทำร้าย นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ยังพบมีดพร้าเปื้อนเลือดตกอยู่ใกล้บ้าน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบปากคำนายสมพร บิสลาม อายุ 50 ปี ลูกเขยผู้ตายให้การว่า
ก่อนเกิดเหตุขณะที่นายแอและนางหับส่อ กำลังทำกับข้าวบริเวณโอ่งน้ำข้างบ้าน เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อนายปรีชากลับมาจากนอกบ้าน เดินถือมีดพร้าตรงเข้าไปยังผู้ตายทั้งสอง ก่อนจะใช้มีดพร้ากระหน่ำฟันไปที่ศีรษะนายแอและนางส่อแบบไม่ยั้งนับสิบครั้ง ทั้งสองพยายามวิ่งแล้วไปล้มฟุบบาดเจ็บสาหัส ก่อนเพื่อนบ้านจะมาช่วยเหลือนำส่งร.พ.ท่าศาลา และเสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังเกิดเหตุญาติและชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์แจ้งตำรวจ ก่อนจะร่วมกันไล่จับนายปรีชาได้
พ.ต.อ.อดุลย์เปิดเผยว่า การสอบประวัติของนายปรีชาผู้ต้องหาฆ่าพ่อแม่ตัวเองรายนี้ทราบว่า เคยติดยาเสพติดอย่างรุนแรงทั้งยาบ้า กัญชา และน้ำกระท่อมจนประสาทเสีย
ทำให้เป็นคนเสียสติ ญาตินำตัวไปรักษาตัวที่ร.พ.สวนสราญรมย์ ที่จ.สุราษฎร์ธานี หลายปีแล้วแต่ไม่หายขาด กระทั่งเกิดอาการคลุ้มคลั่งมาก่อเหตุใช้มีดพร้าฟันพ่อแม่ตายสยอง 2 ศพดังกล่าว เบื้องต้นหลังจากคุมตัวเข้าห้องขังจนสงบสติอารมณ์ แล้วจะได้นำตัวไปให้แพทย์ตรวจหาสารเสพติดและตรวจโรคจิตประสาทต่อไป ก่อนคุมตัวดำเนินคดีต่อไป