กลโกงโจรสมองใส เสิร์ชกูเกิลปลอมบัตร รูดเงินนักธุรกิจ-ไฮโซ

สารพัดความไม่ปลอดภัยที่มาพร้อมกับการใช้ "บัตรเครดิต" จากกลวิธีอันแยบยลของอาชญากรไอที ลักลอบเจาะระบบ เปลี่ยนรหัสเจ้าของบัตรโดยที่เจ้าตัวไม่รู้เรื่อง นับว่าได้สร้างความเสียหายแก่เหยื่อมากมาย

เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก ที่โจรไฮเทคก่อเหตุลอบถอนเงินของผู้เสียหายจากตู้เอทีเอ็ม แล้วนำไปรูดปื๊ด...รูดปื๊ด... ซื้อของใช้ตามห้างร้านอย่างสบายใจเฉิบ

แต่สุดท้ายหนีไม่พ้นมือศูนย์สืบสวนนครบาล

โดยเมื่อช่วงเย็นวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.มานพ น่วมลิวงศ์ ผกก.3 บก.สส.บช.น. ร่วมแถลงข่าวจับกุมนายอดิเรก โชคบัณฑิต อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 201 หมู่ 3 ต.บ้านเต่า อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ

ตามหมายจับของศาลจังหวัดพระโขนง ที่ ส.1744/2552 ลง 14 ต.ค.2552 ในข้อหา
ปลอมแปลงเอกสารทางบัตรเครดิต ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่น ที่ได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิใช้ เพื่อประโยชน์ในการชำระค่าสินค้า ค่าบริการหรือหนี้อื่นแทนการชำระเงินสด หรือเบิกถอนเงินสดโดยมิชอบในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่น และฉ้อโกงด้วยการแสดงตนเป็นคนอื่น

ตามรวบตัวได้บริเวณหน้าห้องพักเลขที่ 511 ของอพาร์ตเมนต์ไม่มีชื่อ เลขที่ 20/1 ข้างห้างสรรพสินค้าพาต้า ปิ่นเกล้า ถ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กทม.

คดีนี้สมาคมธนาคารไทย และชมรมบัตรเครดิตธนาคารไทย ได้ประสานมายังพล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต ผบก.สส.บช.น. ให้ช่วยสืบสวนหากลุ่มมิจฉาชีพที่โทรศัพท์เข้าไปคอลเซ็นเตอร์ธนาคารต่างๆ แล้วหลอกให้พนักงานหลงเชื่อว่า บัตรเครดิตมีปัญหาและขอแก้ไขข้อมูลแล้วทำบัตรใหม่ จากนั้นนำบัตรเครดิตไปใช้รูดซื้อสินค้าและกดเงินสด

เจ้าของบัตรเครดิตผู้เสียหาย ล้วนเป็นผู้ที่มีฐานะหน้าตาในแวดวงทางสังคมชั้นสูง

ต้องสูญเงินให้กับกลวิธีของโจรสมองใสนับล้านบาท

ได้แก่ นายสุภกิต เจียรวนนท์ ผู้บริหารบริษัทซีพี นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ น.ส.สุทธินันท์ คุตนา อดีตเจ้าหน้าที่ฝ่ายสถิติประกันภัย

ยังมีผู้เสียหายที่โชคดีซึ่งทางธนาคารตรวจเจอเสียก่อน จึงรีบอายัดบัตรเครดิตไว้ทัน ได้แก่ นายรักษ์ศักดิ์ วิศวพลานนท์ กรรมการบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) นายสุริยน วันเพ็ญ เลขาธิการกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) นายสันติ ชาญกลราวี กรรมการผู้จัดการมิลเลเนียมสตีล จำกัด นายสมชัย วสุพงศ์โสธร บริษัทไทยฟิล์มอินดัสทรี

เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่อายัดได้ทัน !!!

ภายหลังได้รับการประสานข้อมูลดังกล่าว พล.ต.ต.ฉันทวิทย์รีบสั่งการให้พ.ต.อ.มานพ น่วมลิวงศ์ สืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายรายนี้ โดยมอบหมายให้ พ.ต.ท.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผกก.3 บก.สส.บช.น. นำทีมพ.ต.ท.ปัญญา กุลไทย สว.กก.3บก.สส.บช.น. ด.ต.บุญโชค เพชรอุทัย ด.ต.รัตนศักดิ์ นาคพนม ส.ต.ท.ศราวุฒิ พิมพ์สุภาพร ผบ.หมู่ฯ เร่งติดตามจับกุมให้ได้ผลอย่างจริงจัง

ทีมสืบสวนได้วางแนวทางการตามล่าตัวมิจฉาชีพกลุ่มนี้ โดยย้อนรอยสืบไปที่พฤติกรรมของคนร้ายที่โทรศัพท์ไปที่ Call Center ซิตี้แบงก์หลายครั้ง จึงรวบรวมข้อมูลการใช้โทรศัพท์ พร้อมนำข้อมูลที่คนร้ายใช้บัตรเครดิตไปกดเงินตามตู้เอทีเอ็มของธนาคาร ซึ่งมีกล้องวงจรปิดได้บันทึกภาพไว้ พร้อมกับตรวจสอบข้อมูลของคนร้ายที่ให้ไว้กับทางธนาคารแห่งหนึ่ง ตรงกับข้อมูลของลูกค้าชื่อ นายอดิเรก โชคบัณฑิต

ตรวจสอบต่อไปก็พบว่ามีประวัติเคยถูกสน.ปทุมวันจับกุมตัวแล้วเมื่อ 18 กุมภาพันธ์ 2550 คราวนั้นมีมูลค่าความเสียหาย 6 ล้านบาท ในทางคดีศาลอาญากรุงเทพใต้พิพากษาจำคุก 6 เดือน และได้พ้นโทษออกมาแล้ว

ตกเป็นเป้าที่ตร.จับตาสงสัยทันที !!!

เมื่อนำภาพมาเทียบจากภาพคนร้ายจากกล้องวงจรปิด ก็ตรงกับตำหนิรูปพรรณของนายอดิเรกอย่างชัดเจน จึงตรวจสอบเพิ่มเติม พบมีหมายจับของศาลจังหวัดพระโขนงที่ ส.1744/2552 ลง 14 ต.ค. 2552
โดยทางบริษัทเซ็นทรัลการ์ด แจ้งความไว้ที่บก.ปอศ. มูลค่าความเสียหาย 830,000 บาท

เมื่อรวมมูลค่าความเสียหายครั้งหลังที่มาก่อเหตุซ้ำรวม 2 ล้านเศษ

ตำรวจตัดสินใจล่าตัวทันที !!!

ชุดสืบสวนกระจายกำลังออกไล่ล่าตามแหล่งหลบซ่อน ตามบ้านเช่าห้องพักหลายแห่งแถวย่าน สุขุมวิท สีลม ลุมพินี บางซื่อ เยาวราช ปิ่นเกล้า รวมทั้งแหล่งเที่ยวเตร่แถวร้านอีสานคลาสสิค ถนนอรุณอมรินทร์ ปิ่นเกล้า

จึงแบ่งทีมซุ่มเฝ้ารอ จนเจอตัวขณะเดินออกจากร้านอาหารเพื่อกลับไปยังที่พัก จึงเข้ารวบตัวเอาไว้ได้ ยอมจำนนต่อหลักฐานแต่โดยดี

สารภาพว่า ใช้วิธีเข้าไปในเว็บไซต์ www.google.com เพื่อค้นหารายชื่อนักธุรกิจที่สำคัญๆ เมื่อได้รายชื่อแล้ว จะเข้าไปที่เว็บไซต์ข้อมูลผู้มีสิทธิเลือกตั้งของกระทรวงมหาดไทย พร้อมกับกรอกข้อมูลชื่อ-สกุล ของลูกค้าเป้าหมาย จะปรากฏที่อยู่ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน วันเดือนปีเกิด

เมื่อได้ข้อมูลแล้ว จะโทรศัพท์เข้าไปยังคอลเซ็นเตอร์ของธนาคารต่างๆ พูดจาหลอกพนักงานให้หลงเชื่อว่า บัตรเครดิตมีปัญหา เพื่อขอให้แก้ไขข้อมูลบัตรเครดิต ขอทำบัตรใบใหม่ รวมทั้งให้ดำเนินการส่งไปยังที่อยู่ใหม่ ก่อนนำไปใช้รูดสินค้า และกดเงินสด

นายอดิเรกยังสารภาพด้วยว่า เมื่อพ้นโทษออกมา ยังรู้สึกว่ามีความสามารถในการใช้กลอุบายหาเงินโดยทุจริตมาใช้เลี้ยงชีพ และเที่ยวเตร่ เนื่องจากอัตราโทษเล็กน้อย แต่ผลประโยชน์ที่ได้รับมหาศาล จึงไม่เข็ดหลาบ ก่อนตัดสินใจก่อเหตุซ้ำ

แล้วเจ้าตัวยังฝากเตือนไปยังธนาคารต่างๆ ควรหามาตรการป้องกันระบบรักษาความปลอดภัยในการปกป้องข้อมูลของลูกค้า และการเข้าถึงข้อมูลของลูกค้า

เพื่อป้องกันทรชน ที่อาจจะเอาเยี่ยงอย่างเช่นนี้!!

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์