ตำรวจจราจรกลางเจอพิษ “ส่วยซ่อนรูป” ถูกผู้ประกอบการขนส่งทางบกนำขบวน “คอนวอย” พร้อมทั้งรถโดยสารและรถทัวร์
ปิดถนนบางนา-ตราด กม.4 ขาเข้า ประท้วงที่ตั้งด่านตรวจจับควันดำ-เสียงดัง ถี่ยิบถึง 4 จุด ในระยะทาง 10 กม. หวังออกใบสั่งทำยอดรางวัลนำจับที่หักจากค่าปรับ 70-75% แม้แต่รถบรรทุกใช้แก๊สเอ็นจีวีไร้ควันยังโดนบังคับเหยียบคันเร่งจนมิดแช่ไว้นานเอาผิดจนได้ ร้องรัฐบาลเร่งแก้ไข ไม่เช่นนั้น 15 มี.ค.นี้ นำสิงห์รถบรรทุกบุกปิดล้อม บก.จร.แน่ ด้านประธาน กมธ.คมนาคม รับเป็นเจ้าภาพจัดเวทีพิสูจน์ความจริง จร.เก็บส่วย
ที่ กม.4 ถนนบางนา-ตราด ขาเข้า เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 22 ก.พ. สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย
ที่มีสมาชิกเป็นผู้ประกอบการขนส่งทางบกทั่วประเทศไทย 13 สมาคม และ 4 ชมรม ได้นำรถบรรทุก รถพ่วง รถเครน รถโดยสาร และรถทัวร์ 300 คัน จอดปิดถนนบางนา-ตราด ขาเข้า ช่วง กม. 4 จำนวน 2 ช่องทางเดินรถ เป็นทางยาว 3 กม. เพื่อประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรกลางตั้งด่านตรวจจับควันดำและเสียงดังซ้ำซาก สร้างปัญหาและความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการรถบรรทุกทั่วประเทศ ซึ่งการกระทำที่เกิดขึ้นเสมือนหนึ่งส่วยซ่อนรูป
สำหรับบรรยากาศการประท้วงเป็น ไปด้วยความสงบเรียบร้อย ไม่ส่งผลกระทบ ด้านการจราจร
โดยกลุ่มผู้ประท้วงได้จัด รถบรรทุก 6 ล้อติดตั้งเครื่องเสียงจอดหน้า อาคารเนชั่นทาวเวอร์ โดยแกนนำสลับกันขึ้นปราศรัยโจมตีการตั้งด่านตรวจควันดำและเสียงดังของตำรวจกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) ที่ตั้งด่านตรวจจับควันดำและเสียงดังแบบถี่ยิบ โดยในระยะทาง 10 กม. มีด่านตรวจแบบเดียวกันถึง 4 ด่าน
สุดทนส่วยซ่อนรูปสิบล้อฮือประท้วงหัวปิงปอง
นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์ฯ เปิดเผยว่า พวกเราได้รับความเดือดร้อนจริง ๆ จึงมารวมตัวกันด้วยความบริสุทธิ์ใจเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม
จากการกระทำของตำรวจบางนายที่ทำยอดตรวจจับเขียนใบสั่งปรับรถบรรทุกควันดำและเสียงดังนำไปแลกกับเงินนำจับ 70-75 เปอร์เซ็นต์ โดยการตรวจควันดำและเสียง ดังไม่มีเจ้าหน้าที่ที่ชำนาญการร่วมตรวจ ขณะเดียวกันเครื่องมือที่ใช้ก็เก่าเก็บไม่ได้มาตรฐาน ทั้งที่ส่วนใหญ่รถบรรทุกของผู้ประกอบการทุกคนมีการตรวจสภาพอยู่ตลอด
โดยเฉพาะรถบรรทุกที่ติดตั้งแก๊สเอ็นจีวีรับรองว่าไม่มีควันดำแน่นอน แต่ตำรวจจราจรกลางเมื่อตรวจเสียงดังจะให้เหยียบคันเร่งจนมิดแช่ไว้นาน ๆ
เพื่อต้องการให้เกิดเสียงดังหรือควันดำให้ได้ และไม่ใช่แค่ ผู้ประกอบการรถบรรทุกที่ได้รับความเดือดร้อน ผู้ประกอบการรถแท็กซี่ และผู้ประกอบการรถตู้ ก็จะเข้าร่วมประท้วงกับพวกเราด้วย และพวกตนยังมีพยานหลักฐาน มีคลิปวิดีโอการรับเงิน หรือส่วยของตำรวจที่ตั้งด่านด้วย
“เราเคยยื่นหนังสือร้องเรียนไปยังกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคมหลายครั้ง และส่งหนังสือร้องเรียนไปยัง บก.จร. แต่ไม่มีอะไรคืบหน้า พวกเรารอไม่ไหว ทนไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นจึงต้องออกมารวมตัวแสดงพลังเรียกร้องความถูกต้อง และต้องการให้รัฐบาลเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาการรับส่วยซ่อนรูปของตำรวจ วันนี้รัฐบาลต้องส่งตัวแทนมารับหนังสือร้องเรียนกับพวกเราที่นี่ ไม่เช่นนั้นจะประท้วงต่อไปอย่างไม่มีกำหนดสลายตัว และพวกเราจะไม่เชื่อคำพูดของผู้ใหญ่ใน บก.จร.อีกแล้ว” นายอภิชาติ กล่าว
ต่อมา เมื่อเวลา 10.50 น. วัน เดียวกัน นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ส.ว. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการคมนาคมขนส่งทางบก วุฒิสภา
ได้เดินทางมารับหนังสือร้องเรียนกับผู้ประท้วง พร้อมกับกล่าวว่า วุฒิสภามีความจริงจังและจริงใจในการช่วยเหลือแก้ไขปัญหา โดยจะเป็นเจ้าภาพจัดเวทีเพื่อท้าพิสูจน์ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ในวันที่ 25 มี.ค.นี้ ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ ให้ทุกคนทุกฝ่ายนำพยานหลักฐานทุกชิ้นที่มีไปพิสูจน์กัน เราจะเอาจริงเรื่องการตรวจสอบเพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐโดยเฉพาะตำรวจซึ่งเป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย หาช่องโหว่ของกฎหมายมารังแกประชาชน ส่วนอุปกรณ์ ตรวจควันดำและเสียงดังของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ร้องเรียนด้วยว่าไม่มีประสิทธิภาพ และไม่มีผู้ชำนาญการร่วมตรวจ จะมีการตรวจสอบอุปกรณ์เช่นกัน ว่ามีขั้นตอนวิธีการตรวจอย่างไร ระดับขนาดไหนถึงเกินปริมาณที่กฎหมายกำหนด
หลังจากนั้นกลุ่มผู้ประกอบการขนส่งทางบกได้สลายตัวแยกย้ายกันไปในตอนเที่ยงวันเดียวกันนี้
พร้อมกับกำชับด้วยว่า ถ้าหน่วยงานของรัฐโดยเฉพาะ บก.จร. ไม่ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขปัญหานี้ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 มี.ค.นี้ สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย จะนำสมาชิกขับรถบรรทุกไปเยี่ยมถึง บก.จร. ถนนวิภาวดี รังสิต แน่นอน
พล.ต.ต.อุทัยวรรณ แก้วสอาด ผบก.จร. เปิดเผยถึงกรณีที่ผู้ประกอบการขนส่งทางบกปิดถนนประท้วงกล่าวหาตำรวจ บก.จร. ตั้งด่านเก็บส่วยซ่อนรูป
เรื่องการเรียกเก็บส่วยน่าจะเกิดจากตัวบุคคลมากกว่าที่จะทำกันเป็นขบวนการ เพราะเรื่องนี้เคยกำชับให้ทำงานด้วยความสุจริตไปหลายครั้งแล้ว ซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นได้สั่งให้ ผกก.ทุกหน่วยในสังกัด บก.จร. ตรวจสอบความประพฤติของผู้ใต้บังคับบัญชาว่ามีใครมีพฤติกรรมตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่
ส่วนการตั้งด่านซ้ำซ้อนที่ผ่านมา พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น. ได้เรียกประชุมเพื่อปรับปรุงการตั้งด่านในพื้นที่ให้เป็นระบบไม่ซ้ำซ้อน
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำลงปฏิบัติในพื้นที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เกิดขึ้นจะต้องแก้ไขโดยภาพรวม ซึ่งจะต้องหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) และ บก.ทล. เพื่อลดปัญหาการตั้งด่านซ้ำซ้อนในพื้นที่ที่เป็นรอยต่อระหว่างกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ทั้งนี้ หากประชาชนพบพฤติกรรมตำรวจจราจรมีความประพฤติไม่เหมาะสมให้จดหมายเลขที่หมวกแล้วโทรฯแจ้งได้ที่ โทร.1197.