เมื่อเวลา 11.30 น. พ.ต.ท.เชิงชัย มหศักดิ์สุนทร สารวัตรเวร สภ.ปากน้ำ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง
รับแจ้งจากนายกิติพงษ์ โกยวานิช รองหัวหน้าชุดกู้ภัยมูลนิธิระนองสงเคราะห์ ว่าชาวประมงพบศพลอยน้ำอยู่ในทะเลอันดามัน ใกล้กับเกาะช้าง ม.2 ต.เกาะพยาม อ.เมือง ซึ่งเจ้าหน้าที่มูลนิธิได้ลงเรือเร็วไปตรวจสอบบริเวณที่รับแจ้งแล้ว จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และไปรอชันสูตรพลิกศพ ร่วมกับแพทย์เวร ร.พ.ระนอง
เมื่อเจ้าหน้าที่มูลนิธิไปถึงพบศพลอยน้ำอยู่ 1 ศพ ในสภาพขึ้นอืด เริ่มเน่าเปื่อยใส่กางเกงยีนส์สีเขียว ในลักษณะมือถูกมัดไพล่หลังด้วยเชือกไนลอน
แต่เมื่อดึงศพขึ้นจากน้ำต้องตะลึงเมื่อพบว่ามีเชือกผูกศพติดกันอีกถึง 3 ศพ รวมเป็น 4 ศพ เป็นผู้ชายล้วน โดยศพที่ 2 ใส่กางเกงยีนส์สีดำ เสื้อเชิ้ตสีขาว ศพที่ 3 ใส่เสื้อเชิ้ตสีม่วง มีรอยสักรูปผู้หญิงที่หน้าอก และศพที่ 4 ใส่กางเกงยีนส์แต่ไม่ใส่เสื้อ ทุกศพมีบาดแผลที่ศีรษะและลำตัว และมัดมือไพล่หลังด้วยเชือกไนลอน เอาหินถ่วงไว้ จึงช่วยกันนำศพขึ้นมาบนเรือ แล้วไปชันสูตรพลิกศพที่ร.พ.ระนอง ตรวจสอบในตัวศพแรกพบเงินไทยจำนวน 100 บาท และเงินพม่า 300 จ๊าต แต่ในตัวไม่พบหลักฐานใด
จากการชันสูตรของแพทย์ ระบุว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ศพน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน เนื่องจากศพเน่าเปื่อยแล้ว บางศพศีรษะเกือบหลุดจากลำคอ ตามลำตัวและศีรษะมีรอยบาดแผลเป็นรูหลายจุด คล้ายถูกยิงด้วยอาวุธปืน
พ.ต.ท.เชิงชัยกล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าศพทั้ง 4 คนเป็นใคร เพราะไม่พบหลักฐานในตัว แต่คาดว่าน่าจะเป็นแรงงานต่างด้าว อาจจะเป็นลูกเรือประมง หรืออาจจะถูกฆ่ามาจากที่ไหนสักแห่ง แล้วนำมาโยนทิ้งทะเล โดยผูกมัดมือไพล่หลังติดกันเป็นพวง ส่วนชนิดของอาวุธต้องรอการยืนยันจากแพทย์อีกครั้งหนึ่ง จะได้สืบสวนว่าศพทั้ง 4 เป็นใครมาจากไหน เพื่อหาผู้ที่กระทำผิดมาลงโทษต่อไป