จับแก๊งลักตู้เซฟอาละวาดทั่วอีสาน

"แถลงข่าวจับกุมแก๊งลักตู้เซฟรายใหญ่"


เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 10 ต.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.สถาพร หลาวทอง ผบช.ภาค 3 แถลงจับกุมผู้ต้องหาแก๊งลักตู้เซฟรายใหญ่ ได้ผู้ต้องหาคือนายธนากร เสาสูง อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76 หมู่ 20 ต.กระสัง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ เงินสด 3,500 บาท บัตรเครดิตธนาคารไทยพาณิชย์ มีเงินอยู่ในบัญชี 30,000 บาท บัตรเครดิตวีซ่า

ธนาคารกสิกรไทย 1 ใบ มีเงินอยู่ในบัญชี 40,000 บาท สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารกสิกรไทย รถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นสตราด้า สีบรอนซ์ ทะเบียน บง 1953 บุรีรัมย์ ถุงมือ ไฟฉาย ตู้เซฟยี่ห้อคิงส์ดอม รุ่น เอสเอ 824 หมายเลข 186333 จำนวน 1 ตู้ สภาพถูกงัดเสียหาย สมุดเช็คธนาคาร หนังสือรับรองการหักภาษี คู่มือรหัสการเปิดเซฟ 1 เล่ม ถุงมือไหมพรม 1 คู่ และเอกสารต่างๆ อีกหลายรายการ

"จบแล้วไม่มีงานทำ ชวนกันตั้งแก๊งลักทรัพย์"


พล.ต.ท.สถาพร เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากมีแก๊งลักตู้เซฟอาละวาดอย่างหนักในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 3 จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสืบสวนสอบสวน กระทั่งทราบว่านายธนากรเป็นหนึ่งในแก๊งโจรกรรมตู้เซฟ ที่มีนายนวย สายสุด เป็นหัวหน้าแก๊ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าจับกุมตัวนายธนากร ได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมืองจ.สุรินทร์ สอบสวนให้การรับสารภาพว่า

เรียนหนังสือจบระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ มีพ่อเป็นถึงผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งในอ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ หลังจบออกมาตกงาน เลยถูกเพื่อนชื่อนายนวย และพวกอีก 3 คน ชักชวนมาตั้งแก๊งลักทรัพย์ โดยนายธนากรเป็นคนขับรถตระเวนลักทรัพย์ตามบ้านเรือน ห้างร้าน บริษัท และโรงงานต่างๆ ในภาคอีสาน และภาคกลางหลายแห่ง ครั้งล่าสุดเข้าโจรกรรมตู้เซฟที่ร้านดีแท็ค ข้างห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขานครราชสีมา ได้ทรัพย์สินมูลค่ารวม 1,000,000 บาท

"ได้เงินมาแบ่งกัน แล้วฝากธนาคาร"


ผบช.ภาค 3 กล่าวว่า นอกจากนี้ นายธนากรยังมีเพื่อนร่วมแก๊งอีก 4 คน ซึ่งหลบหนีไปก่อนหน้านี้ และขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัว ประกอบด้วยนายนวย สายสุด อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 94 หมู่ 4 ต.สะเดา อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ หัวหน้าแก๊ง, นายเกียรติศักดิ์ หรือวอน ดีทวี อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77 หมู่ 12 ต.ตระแสง อ.เมือง จ.สุรินทร์, นายตุ๊ กอรัมย์ และนายยืน ไม่ทราบนามสกุล

โดยพฤติกรรมของแก๊งนี้จะใช้รถกระบะตระเวนโจรกรรมลักทรัพย์สินช่วงเวลากลางคืน ในพื้นที่จ.บุรีรัมย์ จ.สุรินทร์ จ.นครราชสีมา และในภาคกลางที่จ.สระบุรี และจ.พระนครศรีอยุธยา จะก่อเหตุตามร้านขายโทรศัพท์มือ โดยประสงค์ต่อทรัพย์ประเภทบัตรเติมเงิน และเงินสดที่อยู่ในตู้เซฟ ส่วนเงินในบัญชีธนาคารอีกหลายใบที่พบ เป็นเงินที่ผู้ต้องหาได้มาจากการโจรกรรม และนำมาแบ่งกัน พร้อมทั้งนำเงินไปฝากไว้กับธนาคารอีกด้วย

"โดนกันหลายข้อกล่าวหา"


พล.ต.ท.สถาพร กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคล หรือทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุมหรือรับของโจร

และจะส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ขอประชาสัมพันธ์ให้ร้านขายโทรศัพท์ทั่วไปให้ระมัดระวังทรัพย์สินด้วย ส่วนตำรวจภูธรภาค 3 จะเพิ่มความเข้มในการสืบสวน และให้สายตรวจออกตรวจมีความถี่มากขึ้นในพื้นที่ต่อไป


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์