โจรป่วนใต้-บึมพระ ขณะบิณฑบาต

เมื่อเวลา 06.20 น. วันที่ 10 ต.ค. ขณะ จ.ส.อ.สมพงษ์ จันทร์ดี สังกัดร้อย ร.2123 ฉก.36 นำกำลังทหารรวม 3 นาย รปภ.พระเคน รังสร้อย อายุ 62 ปี พระลูกวัดวัดชลเฉลิมเขต อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ออกบิณฑบาต ถึงหน้าร้านขายของชำชื่อ สินดีวัฒน์ เลขที่ 15-17 หน้าตลาดสดรถไฟ ถนนเจริญเขต ซอย 2 เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ของนายจุนเต็ก แซ่ลิ่ม

ระหว่างพระเคนยืนรอรับบิณฑบาตอยู่นั้น คนร้ายซึ่งลอบซุกระเบิดแสวงเครื่องไว้ในท่อระบายน้ำหน้าร้านได้จุดชนวนระเบิดด้วยโทรศัพท์มือถือ เกิดระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว พระเคนถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณใบหน้าและแขนซ้ายบาดเจ็บ ส่วนทหารปลอดภัย รายที่ 2 เมื่อช่วง 2 ทุ่มคืนวันที่ 9 ต.ค. ขณะที่นายอภินันท์ สามะลาแล อายุ 45 ปี อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.เรียง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ขี่รถจักรยานยนต์กลับจากกินน้ำชาที่ร้านในหมู่บ้าน มาถึงบริเวณบ้านบาโงปูโละ หมู่ 3 ต.เรียง มีโจรไม่ทราบจำนวนซุ่มยิงด้วยปืนลูกซองยาว 4 นัด กระสุนถูกบริเวณศีรษะและลำตัวเสียชีวิต

รายที่ 3 เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 10 ต.ค. ขณะนายแวเลาะ แวมูซอ อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 4 หมู่ 5 ต.ลิปะสะโง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี อดีตอาสาสมัครตำรวจ ปัจจุบันลาออกมาเป็นชุดรักษาความปลอดภัยโรงเรียนบ้านทุ่งโพธิ์ ขี่รถจักรยานยนต์กลับจากเข้าเวรที่โรงเรียนมุ่งหน้ากลับบ้าน ไปตามถนนสายบ้านทุ่งโพธิ์-บ้านไร่ ถึงบริเวณหมู่ 4 ต.ลิปะสะโง ถูกโจรใต้ดักซุ่มอยู่ในป่าข้างถนน ใช้ปืนไม่ทราบขนาดยิงใส่ 3 นัด

กระสุนถูกศีรษะและขาขวาเสียชีวิต แล้วคนร้ายชิงเอาปืนลูกซองสั้น โทรศัพท์ มือถือหลบหนีไป พ.ต.อ.ถวัลย์ นคราวงศ์ ผกก.สภ.อ.หนองจิก รับรายงานนำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ อีกรายเวลาไล่เลี่ยกันคนร้ายใช้ปืนลูกซองลอบยิงนายมะมือลี เมะลี อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 5 หมู่ 6 ต.บ้านนอก อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ขณะนายมะมือลียืนอยู่หน้าบ้าน แต่ไม่ถูก ทำให้รอดตายหวุดหวิด พ.ต.อ.กอบ อัจฉนากิตติ ผกก.สภ.อ. ปะนาเระ รับแจ้งไปสอบสวน เบื้องต้นคาดเป็นฝีมือของกลุ่มโจรต้องการสร้างสถานการณ์

เหตุรุนแรงรายต่อมา เมื่อช่วงเย็นวันเดียวกัน ขณะนายกิติวัฒน์ หลีเจริญ อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 32-33 หมู่ 1 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส และเป็นพนักงานขับรถเทศบาลตำบลรือเสาะ ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากที่ทำงานมุ่งหน้ากลับบ้าน ไปตามถนนสายรือเสาะ-ศรีสาคร ห่างจาก รพ.รือเสาะ ประมาณ 500 เมตร ถูกคนร้าย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบยิงด้วยปืน 11 มม. เข้ากลางหลัง 1 นัด ตกจากรถเสียชีวิต แล้วคนร้ายหลบหนีไป ต่อมา ร.ต.ท.พิบูรณ์ ธนรัตน์ ร้อยเวร สภ.อ.รือเสาะ รับแจ้งเหตุรุดไปสอบสวน เบื้องต้นคาดเป็นฝีมือของโจรต้องการสร้างสถานการณ์

นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า การจัดตั้งศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต.ขึ้นดูแลพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ใหม่ เป็นเรื่องที่ดี เพราะมีอำนาจการตัดสินใจได้รวดเร็วทันเวลา แก้ปัญหาได้ตรงจุด ช่วงที่ผ่านมาต้องรอการสั่งการจากส่วนกลาง แต่ไม่ควรมีกรอบอัตรากำลังที่มากเกินไป ในส่วนของผู้ที่เข้าทำงานใน ศอ.บต.ควรมีการปฐมนิเทศ สำหรับเจ้าหน้าที่ที่จะมารับตำแหน่งใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องรู้หลักศาสนาและวัฒนธรรม

ชาวบ้านจะมีความเชื่อถือ เพราะมีการทำงานร่วมกัน ทั้งภาครัฐ เอกชน ผู้นำศาสนาเรื่องข้อมูลข่าวสารความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามชาวบ้านก็กล้าที่จะรายงาน กล้าที่จะให้ข้อมูล ต่างจากปัจจุบันที่ชาวบ้านกลัว ความแตกต่างเห็นได้ชัดเจน ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดและมีความสำคัญสำหรับชาวบ้านใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกเรื่องหนึ่ง คือการอำนวยความสะดวกในการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ณ นครเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย เดิม ศอ.บต.จัดทำได้ดี หลังจากยุบ ศอ.บต.ผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ประสบปัญหามาก

นายแสงทอง ปรีชาวุฒิเดช ประธานชมรมโรงแรม จ.นราธิวาส กล่าวถึงทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ ที่มี ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล เป็นรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เป็นคนควบคุมดูแลว่า มีความเชื่อมั่นจะนำเศรษฐกิจของชาติก้าวไปข้างหน้าแน่ เพราะเป็นคนมีความรู้ความสามารถสูงในเรื่องการเงินการคลัง และมีประวัติดีมาตลอด ส่วนด้านดรีมทีมเศรษฐกิจ แม้จะอาวุโสไปหน่อย แต่เชื่อว่าขิงแก่มากประสบการณ์จะช่วยกันแก้ไขปัญหาสภาพการณ์ในปัจจุบันให้ดีขึ้นได้

ส่วนปัญหาเศรษฐกิจใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ซบเซาเหมือนตายซากจากเหตุการณ์ความไม่สงบหลายปี ติดต่อกันมานี้ เห็นว่านอกจากทิศทางนโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลแล้ว ที่สำคัญรัฐบาลจะต้องเร่งแก้ไข 3 ประเด็นหลัก คือ ความมั่นคง ความปลอดภัย และสวัสดิภาพของประชาชน ที่เหลือทางภาคเอกชนพร้อมจะเดินหน้าเอง เชื่อว่าหากรัฐบาลแก้ไขได้ รับรองเศรษฐกิจไปโลดแน่

ด้านนายบัญญัติ จันทน์เสนะ รมช.มหาดไทย กล่าวถึงการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้วันเดียวกันว่า เรื่องนี้คงต้องใช้เวลา แต่ก็ต้องมองถึงเหตุของปัญหาแล้วนำมาแก้ไข เชื่อว่าจะดีขึ้น โดยหลักแล้ววันนี้ต้องดีกว่าอดีตตามความคาดหวังของเรา บางเรื่องทำได้ทันที เช่น การมอบนโยบาย อย่าไปสร้างปัญหาเพิ่ม สั่งเป็นแนวทางไปและสามารถปฏิบัติได้ทันที แต่ต้องติดตามว่าแนวทางที่ให้ไปเป็นผลหรือไม่ ส่วนเรื่องการฟื้น ศอ.บต. ยังไม่ได้คุยกับ รมว.มหาดไทย เมื่อถามว่าจากที่เคยดำรงตำแหน่ง ศอ.บต. และ รมว.มหาดไทย เป็นมุสลิม

จะทำให้มั่นใจได้มากขึ้นหรือไม่ว่าจะแก้ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนได้ นายบัญญัติตอบว่า เชื่อว่าวันนี้จะต้องดีกว่าเมื่อวาน เพราะหากเราช่วยกันก็ไม่มีอะไรภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ที่เราจะทำไม่ได้ ถ้าถามว่าหนักใจหรือไม่ คนที่มาอยู่ตรงนี้ต้องหนักและเหนื่อยแน่ แต่สิ่งที่เราทำก็ทำเพื่อบ้านเมือง เพื่อประเทศชาติ เป็นของคนทุกคน ถ้าปล่อยไปปัญหาก็ตกอยู่กับลูกหลาน ดังนั้น ไม่เฉพาะฝ่ายการเมืองหรือฝ่ายข้าราชการประจำ ประชาชนทั่วไปก็ต้องช่วยกัน

เมื่อถามว่าหากฟื้น ศอ.บต. ขึ้นมาอีกครั้งจะทำให้โครงสร้างของหน่วยงานเหมาะสมกับเหตุการณ์ในปัจจุบันหรือไม่ นายบัญญัติตอบว่า โครงสร้างใหม่นำมาจากโครงสร้างเก่า แต่ต้องพิจารณาว่าจุดไหนเป็นจุดอ่อน จุดแข็ง ตรงไหนเหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบัน ศอ.บต. ปรับมาตลอด 20 ปีที่มีขึ้นมา ไม่ได้อยู่นิ่ง และเท่าที่ทราบมีการหารือเพื่อปรับโครงสร้างหน่วยงานเหล่านี้มาหลายครั้งและได้ข้อสรุปแล้ว แต่รายละเอียดคงให้ผู้รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรงพูดเอง คงไม่สามารถไปก้าวล่วงได้

ในขณะที่นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวถึงการที่รัฐบาลจะฟื้น ศอ.บต. และ พตท.43 เพื่อแก้ไขปัญหาภาคใต้ว่า ตามโครงสร้างแล้ว ทั้ง 2 หน่วยงานมีหลายฝ่ายประกอบอยู่ด้วยกันทั้ง ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และมหาดไทย ที่ผ่านมาเมื่อมีข่าวต่างๆก็ถูกส่งไปรวมกันไม่กระจัดกระจายเหมือนปัจจุบัน ดังนั้น หากจะมีการปัดฝุ่นนำ 2 หน่วยงานขึ้นมาใหม่ก็น่าจะเกิดประโยชน์ในการแก้ไขปัญหา

นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า ครม.ชุดนี้เป็น ครม. สูงวัย ส่วนใหญ่ก็คุ้นเคยกัน และมีเวลาน้อย คงไม่ทำงานแบบเอ้อระเหย คงช่วยกันทำงานประสานกัน โดยเฉพาะเรื่องที่นายกรัฐมนตรีย้ำเร่งด่วนคือ สถานการณ์การเมือง สมานฉันท์ชายแดนภาคใต้ เรื่องความไม่เป็นธรรมทางสังคม ซึ่งเป็นที่มาของการแตกแยกและความรุนแรงในจังหวัดภาคใต้ เป็นเรื่องต้องหารือกันเพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะครั้งที่แล้วแทนที่จะคลี่คลาย แต่กลายเป็นการราดน้ำมันให้ลุกโชน แนวทางการทำงานใน 1 ปี นี้ที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายคือ มีความโปร่งใส มีความเป็นธรรม มีความประหยัดและมีประสิทธิภาพ

รอยเตอร์รายงานเมื่อ 10 ต.ค. อ้างการเปิดเผยของนายมุกห์รีซ มหาเธร์ ลูกชายนายมหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียว่า นายมหาเธร์ได้จัดการพูดคุยหารือกับแกนนำระดับสูงของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบทางภาคใต้ไทยจำนวนกว่า 50 คน หลายครั้ง อาทิ กลุ่มเบอร์ซาตู, พูโล, บีอาร์เอ็น, ขบวนการอิสลามมูจาฮีดีนปัตตานี ซึ่งการหารือเริ่มมาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว จนถึงเดือน ส.ค.ปีนี้ โดยจัดขึ้นทั้งที่เกาะลังกาวี ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือมาเลเซีย

รวมทั้งเมืองปุตราจายา เมืองเอกด้านการบริหารของมาเลเซีย ทั้งนี้ นายมุกห์รีซ มหาเธร์ กล่าวว่า ได้มีการสัมภาษณ์เพื่อพยายามทำความเข้าใจถึงความทุกข์ร้อนและความต้องการของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่อยากได้รับจากรัฐบาลไทย เราพบว่า พวกเขาไม่ได้ต้องการแบ่งแยกดินแดน แต่จริงๆแล้วต้องการให้รัฐบาลไทยให้ความสนใจพื้นที่ภาคใต้มากขึ้น โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจและการศึกษา บุตรชายนายมหาเธร์กล่าว

นอกจากนี้ นายมุกห์รีซยังกล่าวว่า เขาเชื่อมั่นว่า องค์การสันติภาพโลกเปอร์ดานา ซึ่งเป็นกลุ่มเอ็นจีโอของนายมหาเธร์ที่เป็นฝ่ายริเริ่มการเจรจา ได้หารือกับระดับประธานและรองประธานกบฏกลุ่มต่างๆข้างต้น ซึ่งก็ได้รับการสนับสนุนอย่างกลายๆจากรัฐบาลมาเลเซีย

จากนั้น ทางเปอร์ดานาได้ส่งรายงานเรื่องการพูดคุยดังกล่าวให้แก่ พล.อ.ไวพจน์ ศรีนวล ผู้นำสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติของไทยแล้ว หลังการก่อรัฐประหารยึดอำนาจเมื่อ 19 ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งท่าทีของรัฐบาลใหม่ของไทยก็ตอบรับในทางที่ดี ตรงข้ามกับท่าทีของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยเฉพาะในระยะ 4-5 เดือนหลัง ก่อนเกิดเหตุยึดอำนาจ

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ