คมชัดลึก :รวบกิ๊กสาว-แฟนส.ท.ฆ่าเผาเสี่ยเงินกู้ ส.ท.สารภาพแฟนสาวหลอกนัดเสี่ยมาพบที่ร้านอาหารสบโอกาสใช้ท่อนไหม้ตีท้ายทอย 4-5 ครั้ง และขับรถไปจุดเกิดเหตุใช้น้ำมันราดเผาทั้งเป็น แล้วนำบัตรเครดิตกดเงิน 1 แสน ส่วนกิ๊กสาวให้การภาคเสธ อ้างแค่นัดมาขอเลิกแต่แฟนหนุ่มลงมือรุนแรง
จากกรณีนายประสาท มัชฌิมานนท์ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24/19 หมู่ 9 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ อดีตพนักงานธนาคารกสิกรไทย
ปัจจุบันทำธุรกิจปล่อยเงินกู้ถูกฆ่าแล้วเผาทิ้งศพเหลือแต่โครงกระดูกอยู่ในซากรถยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคัมรี สีฟ้า ทะเบียน 3ฬ-2693 กรุงเทพมหานคร เหตุเกิดภายในซอยแบนชะโด 3 (แขวงทรายกองดินใต้) เขตคลองสามวา กทม. นั้น
ล่าสุดที่สน.นิมิตรใหม่ เมื่อเวลา15.30 น. วันที่ 9 กุมภาพันธ์ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น.
แถลงข่าวจับกุม ส.ท.วัชระ หรือเอ บุญฤทธิ์ อายุ 24 ปี ทหารสังกัดกองพลทหารราบ 11 จังหวัดฉะเชิงเทรา อยู่บ้านเลขที่ 169 หมู่ 2 ต.ปากคม อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ตามหมายจับที่ 141/2553 ศาลจังหวัดมีนบุรี และน.ส.สุวารี หรือนะ เด่นซอ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59/67 ซอยสุเหร่า คลองหนึ่ง 10 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม. ตามหมายจับที่ 142/2553 ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ หรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีดำ ทะเบียน 338 ตรัง 1 คัน หมวกคุมหน้าสีดำ 1 ใบ หมวกนิรภัยชนิดเต็มใบสีดำ 1 ใบ เงินสดจำนวน 4.3 หมื่นบาท โทรศัพท์เคลื่อนที่ยี่ห้อโนเกีย 1 เครื่อง โดยจับกุมส.ท.วัชระ ได้ที่บริเวณตรงข้ามร้าน 108 ช็อป ถนนวัดโสธร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ส่วนน.ส.สุวารี ถูกจับกุมได้ที่บริเวณถนนสีหบุรานุกิจ แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กทม.
พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. วันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พบศพนายประสาท มัชฌิมานนท์ อายุ 62 ปี เสียชีวิตในลักษณะศพถูกไฟไหม้อยู่ภายในรถเก๋ง
โดยรถคันดังกล่าวจอดอยู่ในพงหญ้ารกทึบ ภายในซอยแบนชะโด 3 (แขวงทรายกองดินใต้) เขตคลองสามวา กทม. จากการสืบสวนทราบว่า รถคันดังกล่าวยี่ห้อโตโยต้า คัมรี สีฟ้า ทะเบียน 3ฬ-2693 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถของนายประสาท ผู้ตาย อยู่บ้านเลขที่ 24/99 หมู่ 9 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. จึงเชื่อว่าเพิ่งถูกไฟไหม้ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนทำการสืบสวนจนทราบว่า ส.ท.วัชระและน.ส.สุวารี กระทำผิดในคดีนี้ก่อนที่พนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลมีนบุรีออกหมายจับ จนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนได้ในเวลาต่อมา
จากการสอบสวน ส.ท.วัชระ ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือสังหารนายประสาทจริงโดยได้ร่วมกับน.ส.สุวารี ซึ่งเป็นแฟนสาวของตนเอง
โดยก่อนจะฆ่านายประสาทนั้น น.ส.สุวารี บอกว่า หากฆ่านายประสาทตายจะซื้อปืนกับรถยนต์ให้ จากนั้นน.ส.สุวารี ก็ให้เงินมา 1.6 หมื่นบาท และตนอยากได้ปืนกับรถจึงวางแผนสังหารนายประสาท โดยน.ส.สุวารี ได้ติดต่อนัดหมายนายประสาทให้มาที่ศาลาริมน้ำ ร้านอาหารเรือนแพ ฟิชชิ่งปาร์ค ถ.ประชาร่วมใจ แขวงคู้คลองฝั่งเหนือ เขตหนองจอก กทม. ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ เวลา 11.00 น. หลังจากนายประสาทเดินทางมาพบที่ร้านอาหารตามที่นัดหมายจึงลงมือทำร้าย โดยใช้ท่อนไม้ที่เตรียมมา ตีบริเวณท้ายทอยของผู้ตาย 4-5 ครั้ง
จับกิ๊ก-แฟนส.ท.ฆ่าเผาเสี่ยอำพรางคดี
จากนั้นช่วยกันลากนายประสาท ไปไว้ที่วางเท้าหลังคนขับ ก่อนจะนำผ้าเปลที่อยู่ในร้านอาหาร คลุมร่างของนายประสาทที่อยู่ภายในรถเก๋ง ส่วนน.ส.สุวารีเป็นผู้ดูต้นทาง และขึ้นนั่งเบาะหน้า
จากนั้นตนได้ขับรถยนต์ของนายประสาทออกจากบ่อปลามุ่งหน้าไปยังซอยแบนชะโด 3 ซึ่งก่อนจะเลี้ยวรถเข้าไปในซอยแบนชะโด 3 ได้จอดรถส่งน.ส.สุวารี ลงบริเวณปากทาง จากนั้นขับรถเข้าไปจอดในพงหญ้าบริเวณที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะขี่รถจักรยานยนต์ซึ่งนำมาจอดซ่อนไว้ก่อนหน้านี้ ออกไปซื้อน้ำมันเบนซินกลับมาราดนายประสาท ภายในรถ แล้วก็ราดหลังคารถและใช้ไม้ขีดไฟจุดไฟเผา แต่ไฟไม่ติด
ส.ท.วัชระกล่าวอีกว่า ต่อจากนั้นได้นำน้ำมันราดลงบนพื้นดินห่างจากตัวรถประมาณ 2 เมตร และจุดไฟ ไฟจึงลุกลามและลุกไหม้จนทั่ว
ตนจึงขี่รถจักรยานยนต์ไปรับน.ส.สุวารีที่ปากทาง จากนั้น ตนกับน.ส.สุวารี ได้นำบัตรเอทีเอ็มของผู้ตาย ไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม บริเวณถนนสุวินทวงศ์ ได้เงินไปประมาณ 1 แสนบาท โดยช่วงที่กดเงินนั้น ก็สวมหมวกสีดำปกคลุมใบหน้า เนื่องจากบริเวณที่กดเงินมีกล้องวงจรปิด หลังจากได้เงินแล้วก็แยกย้ายกันหลบหนี จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมตัวได้ในที่สุด
"ที่จริงแล้วทำไปเพราะว่าความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อีกทั้งน.ส.สุวารี บอกว่าจะซื้อรถและปืนให้ ผมอยากได้ จึงลงมือทำ ส่วนในช่วงที่ลงมือเผารถนั้นก็ไม่ทราบว่านายประสาทนั้นตายหรือยัง รู้แต่ว่าผมใช้ท่อนไม้ตีไป 4-5 ครั้ง ซึ่งตอนนั้นนายประสาทสลบไป อยากจะขอโทษญาติของนายประสาทด้วย" ส.ท.วัชระ กล่าว
ด้านน.ส.สุวารี กล่าวอ้างว่า ตนเองมีความสัมพันธ์กับผู้ตายมา 10 ปีเศษ และเมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมาได้รู้จักกับส.ท.วัชระ
ซึ่งตนก็มีความประสงค์ที่อยากจะเลิกคบกับนายประสาท จึงได้นัดหมายให้นายประสาทมาเจรจาเพื่อขอเลิก แต่นายประสาทไม่ยอม ซึ่งในขณะนั้นส.ท.วัชระได้เดินถือไม้เข้ามาข้างหลังก่อนที่จะลงมือตีนายประสาทไป 4-5 ครั้ง ซึ่งตนไม่ทราบมาก่อนว่าส.ท.วัชระจะลงมือกระทำการรุนแรงดังกล่าว และขอปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการตายของนายประสาท แต่ยอมรับว่าในช่วงที่เอาศพนายประสาทไปนั้น ตนก็ลงกลางทาง แล้วก็ไม่ทราบว่าจะเกิดเรื่องราวดังกล่าวขึ้น
"สำหรับนายประสาทนั้นฉันยอมรับว่า เคยยืมเงินมาจำนวน 2 แสนบาท เพื่อที่จะนำไปทำธุรกิจขายอาหารสัตว์แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จึงปิดกิจการไป จากนั้นได้มาขายข้าวมันไก่ ย่านตลาดมีนบุรี ภายหลังนายประสาทได้ตามทวงเงินมาเป็นระยะๆ แต่ฉันไม่มีให้ ภายหลังก็มาคบกับส.ท.วัชระ ฉันจึงได้เล่าเรื่องดังกล่าวให้ส.ท.วัชระฟัง ซึ่งส.ท.วัชระเองก็อยากจะได้เงิน จนกระทั่งนัดนายประสาทมาเพื่อที่จะเคลียร์และขอเลิก" น.ส.สุวารี กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำตัวทั้งสองคนมาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณหน้าสน.นิมิตรใหม่
โดยส.ท.วัชระแสดงท่าทางลากผู้ตายขึ้นรถโดยมีน.ส.สุวารีเป็นคนเปิดประตูรถด้านหลังคนขับ และส.ท.วัชระ ก็ลากผู้ตายขึ้นไป สภาพศพผู้ตายคว่ำหน้านอนเหยียดตรงอยู่ที่วางเท้า และนำผ้าเปลมาคลุมทับปิดร่างของผู้ตายไว้ จากนั้นได้ขับรถยนต์ของผู้ตายโดยมีน.ส.สุวารีนั่งข้างๆ และแสดงท่าทางราดน้ำมัน โดยนำน้ำมันราดไปที่ศพผู้ตาย บนหลังคารถและรอบๆ พื้นดินบริเวณรถ จากนั้นก็จุดไฟเผา หลังจากนั้นตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองรายไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพจุดที่สอง บริเวณตู้เอทีเอ็ม ถ.สุวินทวงศ์เสร็จแล้วนำตัวผู้ต้องหามาคุมขังที่สน.นิมิตรใหม่ เพื่อดำเนินคดีต่อไป
พ.ต.อ.จำลอง สว่างวงศ์ ผกก.สส.บก.น.3 กล่าวเสริมถึงการติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองรายว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้แกะรอยติดตามจับกุมคนร้าย
ภายหลังทราบว่ารถคันดังกล่าวเป็นของผู้ตาย จึงได้เชิญญาติผู้ตายมาสอบปากคำ จนกระทั่งทราบจากญาติของผู้ตายซึ่งเป็นนายตำรวจที่เกษียณอายุราชการแล้ว ให้การว่า ผู้ตายเคยเล่าให้ฟังว่าไปติดพันผู้หญิงรายหนึ่ง และมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องการเงิน ฝ่ายสืบสวนจึงได้สอบสวนทางลึก จนกระทั่งพบว่าผู้หญิงคนดังกล่าวชื่อ น.ส.สุวารี ขายข้าวมันไก่อยู่ข้างธนาคารกสิกรไทย สาขามีนบุรี ก่อนที่จะนำตัวมาสอบสวน จนกระทั่งให้การยอมรับว่าอยู่ในเหตุการณ์ฆ่าผู้ตาย ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดตามจับกุม ส.ท.วัชระ ภายหลังจากที่ไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม บริเวณถ.สุวินทวงศ์ ซึ่งมีภาพวงจรปิดมัดตัวคนร้ายได้ชัดเจน แม้จะสวมหมวกปิดบังใบหน้าก็ตาม