หนุ่มเลือดร้อนมือสาดสุกี้เอ็มเคใส่เด็กที่สุพรรณฯ จนเป็นข่าวใหญ่เมื่อปีก่อนก่อคดี
อุกอาจซ้ำสองหนนี้ถึงขั้นรวบรวมสมัครพรรคพวกตั้งแก๊งบุกอุ้มตัวน.ศ.สาววัย 19 ปีกลางวันแสกๆ ในร้านส้มตำเพราะแค้นที่ตามจีบแต่ฝ่ายหญิงไม่เล่นด้วย ตร.อ่างทองตามรวบตัวได้ทันควัน
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 5 ก.พ. พ.ต.อ.รวีโรจน์ กองกันภัย ผกก.สภ.เมืองอ่างทอง รับ แจ้งเหตุจากนายอำนาจ แสนภู อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/2 หมู่ 4 ต.หัวไผ่ อ.เมือง อ่างทอง ว่า
มีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น 3 คน ขับรถยนต์กระบะมิตซูบิชิ สีขาว ทะเบียน บง-2662 อ่างทอง เป็นพาหนะ ก่อเหตุใช้อาวุธมีดจี้ลักพาตัวน.ส.รัชฎาภรณ์ แสนภู หรือ "น้องปุ้ย" ลูกสาวอายุ 19 ปี หลบหนีไป เหตุเกิดที่ร้านค้าในหมู่บ้าน หน้าวัดเซิงหวาย หมู่ 4 ต.หัวไผ่ แต่ไม่ทราบเส้นทางหลบหนีของคนร้าย หลังรับแจ้งจึงจัดกำลังชุดสืบสวนและสายตรวจติดตามค้นหา
ต่อมา ชุดสืบสวนไล่ล่าพบรถยนต์ต้องสงสัยกำลังขับอยู่บนถนนคันคลองชลประทานบริเวณทางแยกเข้าวัดจันทรังสีและวัดเซิงหวาย ตรงข้ามโรงเรียนอ่างทองปัทมโรจน์วิทยาคม ริมถนนโพธิ์พระยา-ท่าเรือ หมู่ 11 ต.บ้านอิฐ จึงสั่งให้หยุดรถเพื่อตรวจสอบและพบน.ส.รัชฎาภรณ์ ผู้เสียหายนั่งอยู่ด้วยในรถ ภายในรถยังพบมีดหัวตัดยาวประมาณ 50 ซ.ม. 1 เล่ม จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่า
กลุ่มคนร้ายประกอบด้วยนายพงศกร สุกรเสพย์ หรือ จ๊อย อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84 หมู่ 8 ต.ศาลเจ้าโรงทอง อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง นายประมิน บัวเลิศ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52 หมู่ 4 ต.ศาลเจ้าโรงทอง และนายสมพร โสนอ่อน อายุ 24 ปี บ้านอยู่ ต.ท่าช้าง เบื้องต้นแจ้งข้อหาลักพาตัว กักขังหน่วงเหนี่ยวทำร้ายจิตใจ โดยทั้งสามให้การรับสารภาพ
พ.ต.อ.รวีโรจน์ กองกันภัย ผกก.สภ.เมืองอ่างทอง กล่าวว่า
โชคดีที่จับกุมผู้ก่อเหตุอย่างรวดเร็ว ทำให้เหยื่อรอดพ้นอันตรายมาได้ ไม่เช่นนั้นเหตุการณ์จะวุ่นวายสลับซับซ้อนยิ่งกว่านี้ ส่วนการตัดสินใจลงมือก่อเหตุเนื่องจากนายพงศกรแอบชอบผู้เสียหายมาหลายเดือน แต่ผู้เสียหายไม่เล่นด้วย จึงตัดสินใจมาอุ้มเหยื่อและให้เพื่อนมาคอยคุ้มกัน
ด้านน.ส.รัชฎาภรณ์ เหยื่ออุ้มกลางวันแสกๆ ซึ่งอยู่ในอาการตกใจกลัวสุดขีด ให้การว่า
เป็นนักศึกษาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.อ่างทอง ก่อนเกิดเหตุนั่งกินส้มตำอยู่ในร้านค้า แต่จู่ๆ นายพงศกรกับเพื่อนเดินเข้ามาในร้านขู่บังคับอุ้มขึ้นรถขับออกไปและไม่ให้ขัดขืน เจ้าของร้านค้าจึงรีบบอกให้พ่อทราบและแจ้งตำรวจ กระทั่งสามารถตามช่วยเหลือได้ในที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ค่ำวันเดียวกัน นายพงศกรยังไม่ได้ประกันตัวออกจากห้องขังสภ.เมืองอ่างทอง นอกจากนั้น จากการตรวจสอบประวัติคนร้ายรายนี้พบว่า
เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ.2552 เคยก่อคดีทำร้ายร่างกายใช้น้ำเดือดจัดในหม้อสุกี้สาดใส่นายพัฒนินท์ อุดมภักดีพงศ์ อายุ 32 ปี เจ้าของร้านขายยากิตติพงศ์ฟามาซี เลขที่ 736 หมู่ 2 ต.สามชุก อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี รวมถึงนางสมพร อายุ 60 ปี มารดา นางณัฐโสภิต อายุ 32 ปี ภรรยา และ ด.ญ.พิมพาภรณ์ ลูกสาวอายุ 1 ขวบเศษของนายพัฒนินท์ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่ร้านเอ็มเคสุกี้ ห้างโลตัสสาขาสามชุก ต้นเหตุเพราะนายพงศกร ซึ่งนั่งอยู่โต๊ะติดกันไม่พอใจที่ลูกชาย วัย 5 เดือนของนายพัฒนินท์ร้องไห้งอแง ปัจจุบันคดียังอยู่ในชั้นศาล
อย่างไรก็ตาม หลังเหตุสาดสุกี้ดังกล่าว นายพัฒนินท์เดินทางเข้าร้องเรียนผู้สื่อข่าวเพราะหวาดกลัวเกรงไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะช่วงเกิดเหตุด.ต.ทวี เขียวไสว ตำรวจสภ.สามชุก พ่อเลี้ยงนายพงศกรได้มีส่วนเข้ามารุมชกต่อยตนกับภรรยาด้วย แต่ด.ต.ทวีอ้างว่า เรื่องที่เกิดขึ้นมีสาเหตุเริ่มต้นจากนายพงศกรทะเลาะกับแฟนสาวแล้วตะโกนคำว่า "ทนไม่ไหวแล้วโว้ย" ทำให้โต๊ะนายพัฒนินท์เข้าใจผิดและเดินเข้ามาหาเรื่องก่อน ลูกเลี้ยงเป็นคนใจร้อนจึงเกิดทะเลาะวิวาทกันขึ้น ส่วนด.ต.ทวีถูกย้ายไปช่วยราชการที่ บก.ภ.จว.สุพรรณบุรี