นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ส่งแพทย์ด้านระบาดวิทยา
และนักวิชาการจากสำนักระบาดวิทยา จำนวน 2 คน ลงไปสอบสวนร่วมกับทีมของกทม. ที่โรงเรียนวัดท่าพระเป็นการด่วน และสั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ลงไปตรวจสอบผลิตภัณฑ์ที่เด็กกินเข้าไป พร้อมเก็บตัวอย่างส่งตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ว่ามีสิ่งปนเปื้อนอันตรายหรือไม่ และเป็นอาหารที่ได้มาตรฐานหรือไม่ ผ่านการขึ้นทะเบียน อย.หรือไม่ หากไม่ปฏิบัติตามกฎหมายก็จะมีโทษตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522
นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า ล่าสุดเวลา 15.00 น. เด็กนักเรียนที่มีอาการป่วยทุกรายอาการปลอดภัยแล้ว
ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะติดตามอาการทุกวัน เพื่อสอบสวนโรคต่อไป ทั้งนี้ ขอย้ำเตือนให้ครูโรงเรียนต่างๆ ช่วยตรวจสอบ กวดขันร้านค้าที่จำหน่ายอาหารและขนม หากเป็นขนมที่มาจากโรงงานขอให้เข้มงวดในเรื่องมาตรฐาน อย. ขนมทุกซองต้องมีตรา อย. กำกับ เพื่อแสดงถึงความปลอดภัย หากขนมเหล่านี้ไม่มีตรา อย. ขอให้แจ้งสายด่วน 1556 เพื่อกวาดล้าง คุ้มครองความปลอดภัยให้เด็ก จะได้ปลอดภัยจากอาหารไม่ได้มาตรฐาน
ด้านนายแพทย์พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบที่โรงเรียนท่าพระ
สอบถามเด็กนักเรียนพบว่า เด็กส่วนใหญ่ซื้อยาดังกล่าวมาจากร้านเกม โดยร้านเกมได้ให้ข้อมูลว่าซื้อจากร้านขายยา จึงตามไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กองยา พบว่าเป็นยาแก้ไอ เดกซ์ โทร เมทอร์แฟน ( Dextromethorphan) ซึ่งเป็นยาแก้ไอที่มีฤทธิ์กดประสาทเล็กน้อย เพื่อระงับอาการไอ หากกินมากจะง่วงซึม มึนงง และอาเจียน ต้องมีทะเบียนยาควบคุมการจำหน่าย และจำหน่ายโดยเภสัชกร ขณะนี้ กำลังตรวจสอบใบอนุญาตจำหน่ายยา และทะเบียนคุมยา
ล่าสุดในช่วงเย็นวันเดียวกัน ตำรวจ สน.ท่าพระ ประสานขอตัวนักเรียนที่อาการดีขึ้นไปชี้ร้านเกมที่อ้างว่าได้ซื้อยาแก้ไอ พบว่าเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น
ตั้งอยู่เลขที่ 15/23 บริเวณปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 1 ตรงข้ามโรงเรียนวัดท่าพระ เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงร้านเกมดังกล่าวปิดบริการ เจ้าหน้าที่จึงเรียกให้เปิดประตู จากนั้นนายสุวมิตร มนตรีวิบูลย์ชัย หรืออั๋น อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นคนดูแลร้าน ออกมาเปิดประตู เจ้าหน้าที่จึงเชิญไปสอบปากคำที่ สน.ท่าพระ
นายสุวมิตรให้การรับสารภาพว่า ขายยาดังกล่าวจริง โดยเริ่มจากซื้อมากินเอง เนื่องจากมีอาการไอ
ภายหลังรู้สึกว่ากินยาตัวนี้เข้าในไปปริมาณมากขึ้นจะรู้สึกระชุ่มกระชวย จึงบอกต่อๆ กระทั่งนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาที่มาเล่นเกมในร้านรู้เรื่อง จึงขอซื้อต่อจากตน แต่ไม่รู้ว่าซื้อไปเพื่ออะไร "ผมขายได้ประมาณ 2 สัปดาห์ กระทั่งสัปดาห์ที่แล้วเริ่มแปลกใจที่จำนวนเด็กมาซื้อยามากขึ้นเรื่อยๆ แต่ผมก็ไม่ได้ขายเอากำไร ซื้อมาเม็ดละ 1 บาท ก็ขายต่อไปในราคาเดียวกัน ส่วนเด็กชั้นประถมที่กินยาเข้าไปจนต้องหามส่งโรงพยาบาลผมไม่ได้ขายให้ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เป็นเด็กมัธยม" นายสุวมิตรกล่าว