ขี่เก๋งบีเอ็มร่อนฉีดเพิ่มผิวขาวโดนรวบคาเข็ม

ตำรวจ ปคบ. ตะครุบหนุ่มตกงาน ใช้สารต้องห้าม อุลตร้าไทโอ

ฉีดเพิ่มความขาวให้หญิงสาว ใช้รถบีเอ็มฯเป็นคลินิกเถื่อนเคลื่อนที่ รับฉีดยาเข็มละ 1,800 บาท เจอสายสืบซ้อนแผนจับกุมได้คาหนังคาเขา รับสารภาพ ซื้อยาต่อจากเพื่อนที่เป็นหมอรับมาฉีดให้คนอยากมีผิวขาว อย.เตือน สารอุลตร้าไทโอ ใช้รักษามะเร็ง ไม่มีผลวิจัยรองรับทำให้ผิวขาว

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 2 ก.พ. นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการอย. พล.ต.ต. จตุรงค์ ภุมรินทร์ ผบก.ปคบ.

.ต.อ. พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ ผกก.4 ปคบ. นพ.ธเรศ กรัชนัยริวงศ์ ผอ.สำนักงานการพยาบาลและประกอบโรคศิลป์ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ร่วมกันจับกุมตัวนายวรุตม์ มะกรูดทอง อายุ 24 ปี พร้อมสาร อุลตร้าไทโอ ซึ่งเป็นสารต้องห้าม ยาและ วิตามินต้องห้ามอีกจำนวนหนึ่ง โดยจับกุมได้ที่บริเวณลานจอดรถชั้น เอ 2 ห้างท็อปซุปเปอร์มาร์เก็ต สาขาเกษตรศาสตร์ ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร โดยพล.ต.ต.จตุรงค์ เผยว่า เจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่าผู้ต้องหามีพฤติกรรมลักลอบฉีดสารอุลตร้าไทโอ ให้กับหญิงสาวที่ต้องการมีผิวขาว ราคาเข็มละ 1,800 บาท โดยสารที่ใช้เป็นสารต้องห้ามและก่อให้เกิดอันตราย
   
ผบก.ปคบ. กล่าวต่อว่า ตำรวจสืบทราบว่าผู้ต้องหาได้ขับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ย์ 318 ไอ สีบรอนซ์ทะเบียน ฐท 2792 กรุงเทพมหานคร

เข้ามาที่ลานจอดรถเพื่อฉีดสารให้กับสายลับตำรวจที่ปลอมเป็นลูกค้า โดยผู้ต้องหาได้หยิบขวดที่บรรจุสารดังกล่าวออกมาพร้อมกับอ้างว่าเป็นวิตามิน ก่อนใช้เข็มฉีดยาดูดสารออกมาจากขวดระหว่างที่กำลังจะฉีดเข้าเส้นเลือดให้กับสายลับ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม สอบสวนนายวรุตม์ ให้การรับสารภาพว่า ตนเพิ่งจบการศึกษาจากคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง แต่ยังไม่มีงานทำ ต่อมาได้รู้จักกับเพื่อนที่เป็นหมอและมีการพูดคุยกันเกี่ยวกับสารดังกล่าว จึงคิดวิธีหารายได้ด้วยการซื้อสารดังกล่าวจากเพื่อนเพื่อนำมาฉีดให้กับหญิงสาวที่ต้องการมีผิวขาว ทั้งนี้ไม่รู้ว่าการกระทำดังกล่าวผิดกฎหมายจึงทำมาอย่างต่อเนื่อง
   
นพ.พิพัฒน์ กล่าวว่า สารดังกล่าวเป็นสารต้องห้าม ใช้ในวงการแพทย์เท่านั้น ไม่ได้ใช้เพื่อการเสริมความงาม

โดยสารดังกล่าวใช้ในการรักษาโรคมะเร็งและผู้ป่วยที่เป็นโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด การใช้สารตัวนี้ต้องอยู่ในการควบคุมของแพทย์ บุคคลภายนอกไม่สามารถมีไว้ในครอบครองได้ นอกจากนี้สารดังกล่าวยังไม่มีผลวิจัยที่ยืนยันว่าสามารถใช้ในการเสริมความงามได้ ผู้ที่ได้รับสารนี้เข้าไปในร่างกายมาก ๆ อาจทำให้ช็อกได้ อีกทั้งผู้ต้องหายังฉีดสารให้กับลูกค้าตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วไป ไม่มีสถานที่ให้บริการเป็นหลักแหล่ง อาจจะทำให้ติดเชื้อในกระแสเลือดได้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาและควบคุมตัวดำเนินคดีต่อไป.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์