จากกรณีนายสมศักดิ์ เครือบุญ ชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา วัย 45 ปี ขับรถยนต์พาครอบครัวไปร่วมงานศพที่จ.อุตรดิตถ์
ประสบอุบัติเหตุ ตกลงไปในแม่น้ำแควน้อย อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก นางสุพัตรา เครือบุญ ภรรยาอายุ 33 ปี ช่วยเหลือลูกน้อยจำนวน 4 คนปลอดภัย แต่ตัวเองจมหายไปกับกระแสน้ำ ส่วนนายสมศักดิ์อาการสาหัส เมื่อวันที่ 29 ม.ค.ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อเวลา 05.50 น. วันที่ 31 ม.ค. พ.ต.ต.ปรีชา ช่างเหล็ก สารวัตรเวร สภ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก รับแจ้งจากชาวบ้าน
ว่าพบศพหญิงลอยน้ำ ห่างจากสถานีตำรวจวัดโบสถ์ไม่มากนัก จึงรุดไปทำการตรวจสอบ พบหลักฐานบัตรประชาชน ว่าเป็น น.ส.สุพัตรา ด้านนางดอกไม้ กันยา พี่สาวนางสุพัตรา กล่าวว่า ตอนนี้เจอศพน้องสาวแล้ว จะนำไปตั้งที่วัดผักขวง ต.ผักขวง อ.ทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ บ้านเกิด แต่ต้องรอให้ทางวัดเผาศพแม่เสร็จก่อน ในช่วงเย็นวันที่ 31 ม.ค. จากนั้นจะนำศพน้องสาวไปตั้งที่วัดดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 30 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงพยาบาลวัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก พบว่าเด็กจำนวน 4 คนยังอยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าแพทย์พยาบาลอย่างใกล้ชิดโดยมีนางดอกไม้ ป้าของเด็กๆ เดินทางมาดูแลหลานด้วยตนเอง
ด.ญสุภาภรณ์ ลูกสาวคนโต วัย 10 ปี กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุตนนอนหลับ ตกใจตื่นหลังจากรถกระแทกอย่างแรงและตกไปในน้ำ ตอนนั้นแม่ได้ดันออกมาช่องด้านข้างหลังคาไฟเบอร์ ตนว่ายน้ำเป็น ก่อนที่แม่จะดันด.ช.ชาญชัยตามออกมา พาไปเกาะที่ตอไม้ จากนั้นแม่เข้าไปช่วยน้องอีก 2 คน ดันจนพ้นน้ำว่ายพาถึงฝั่ง ช่วงนั้นแม่น่าจะเข้าไปช่วยพ่อเพราะติดอยู่ข้างในติดเข็มขัดนิรภัย ก่อนมีคนมาช่วย และแม่ได้จมน้ำหายไป
ด้านชาวบ้านคนอื่นๆ เช่น นางประทวน การเมือง อายุ 50 ปี ชาวจ.พิษณุโลก กล่าวว่า ตนพร้อมกับญาติ ได้พากันมาเยี่ยมเด็ก
พร้อมกับนำสิ่งของขนมอาหารมาฝาก เพราะนึกสงสารกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตลอดทั้งวันทราบว่ามีคนมาเยี่ยมเป็นจำนวนมาก จึงได้ชักชวนคนที่รู้จักมาเยี่ยมให้กำลังใจกับเด็กๆ