เมื่อวันที่ 29 ม.ค. ผู้สื่อข่าว จ.น่าน รายงานว่า ชาวบ้านในพื้นที่บ้านปรางค์ ม.3 ต.ปัว อ.ปัว
ซึ่งเป็นเหยื่อที่ถูกโจรงัดเข้าบ้านไปขโมยทรัพย์สินจนหมดตัวและเข้าแจ้งความต่อตำรวจแต่ไม่มีความคืบหน้าใดๆ กลับถูกโจรขึ้นบ้านลักทรัพย์ซ้ำซาก จนสุดทน เขียนป้ายประกาศติดหน้าบ้านด้วยข้อความต่างๆนานา เช่น “คุณโจรขา ไม่มีอะไรให้อีกแล้ว” “ชาวบ้านเดือดร้อน ใครจะช่วยได้ โจรชุม หมดตัวแล้ว” “ช่วยให้หาโจรให้เจอ คุณตำรวจปัว” ฯลฯ
นางจันทร์เพ็ญ มโนสอน อายุ 51 ปี บ้านเลขที่ 124 บ้านปรางค์ เจ้าของร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าแห่งหนึ่ง เปิดเผยว่า
คนร้ายงัดเข้าไปขโมยทรัพย์สินช่วงที่ตนไม่อยู่บ้านต้องไปเฝ้าร้าน เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2552 ทรัพย์สินหายหลายรายการ ทองรูปพรรณน้ำหนักกว่า 50 บาท แหวนเพชร นาฬิกาเรือนทอง หลังเกิดเหตุแจ้งความไว้ที่สภ.ปัวก็ไม่มีความคืบหน้าใดๆ ทั้งๆที่หน้าบ้านตนติดตั้งตู้แดงสายตรวจ ต้องจ่ายค่าตู้แดงเดือนละ 500 บาท แต่ก็ไม่พ้นมือโจร เมื่อเรื่องดำเนินการไม่ถึงไหนจึงต้องปิดประกาศวอนให้คุณโจร เมตตาบ้าง เพราะทรัพย์สินมีค่าหมดแล้ว”
ขณะที่น.ส.สุภานันท์ พรมโชติ อายุ 49 ปี บ้านเลขที่ 247 ซึ่งอยู่หมู่บ้านเดียวกัน เล่าว่าเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2552 ว่า คนร้ายปีนรั้วบ้านเข้าไปลักทรัพย์สินในห้องนอน
ทั้งสร้อยคอทองคำ ทองคำแท่ง เครื่องเพชร พระเครื่อง รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ช่วงเกิดเหตุตนเดินทางไปทำบุญต่างจังหวัด และได้เข้าแจ้งความไว้แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าเหมือนกัน ตอนนี้ชาวบ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากให้ตำรวจในพื้นที่เร่งกวดขันเรื่องของยาเสพติด และปราบปรามเรื่องบ่อนการพนัน ซึ่งอาจจะเป็นต้นเหตุของการลักทรัพย์ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในท้องที่
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้ขอสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดี แต่ได้รับการปฏิเสธ อ้างว่าต้องขออนุญาตผู้บังคับบัญชา แต่ยืนยันว่าตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามออกหาข่าว หาหลักฐานเพื่อติดตามคนร้ายอย่างเต็มที่แล้ว