โกวิท ไม่ตำหนิ อชิรวิทย์ บ่นตำรวจเหนื่อย

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 8 มีนาคม 2549 11:08 น.

โกวิท วัฒนะ วอนทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากันเพื่อให้เหตุการณ์สงบโดยเร็ว พร้อมชี้เป็นสิทธิส่วนตัวของ อชิรวิทย์ ที่สามารถแสดงความรู้สึกได้ ว่าตำรวจเหน็ดเหนื่อย

วันนี้ (8 มี.ค.) พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยก่อนเข้าร่วมการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ถึงกรณีที่ พล.ต.ท.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกมาระบุว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีความเหน็ดเหนื่อยในการควบคุมดูแลสถานการณ์ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ยืดเยื้อว่า เป็นสิทธิส่วนตัวที่ พล.ต.ท.อชิรวิทย์ จะแสดงความรู้สึกได้

อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.โกวิท เน้นย้ำว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องทำตามหน้าที่อยู่แล้ว ส่วนการที่กลุ่มผู้ชุมนุมมีการปรับเปลี่ยนวิธีการชุมนุมเพื่อกดดันในแต่ละจุดนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีการเตรียมแผนเพื่อรับมือไว้แล้วเช่นกัน

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ต้องการให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหารือกันเพื่อให้เหตุการณ์ทุกอย่างคลี่คลายและสงบลงโดยเร็ว

ต่อข้อถามถึงข้อเสนอของ พล.ต.ท.อชิรวิทย์ ที่ทำจดหมายถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี โดยเสนอให้ประกาศไม่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้ง และให้ฝ่ายค้านลงสมัครรับเลือกตั้งเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาว่า ไม่ทราบรายละเอียด และเป็นความเห็นส่วนตัวของ พล.ต.ท.อชิรวิทย์

อย่างไรก็ตาม สำหรับ พล.ต.ท.อชิรวิทย์ นั้นเมื่อวานที่ผ่านมาได้แถลงย้ำว่า ที่ออกมาพูดเป็นการออกมาพูดในฐานะโฆษก ตร.ที่รับความรู้สึกของเจ้าหน้าที่ตำรวจ 220,000 นาย เป็นการพูดจากความรู้สึกของตำรวจซึ่งปฏิบัติหน้าที่ควบคุมการชุมนุมของฝ่ายต่อต้านและฝ่ายสนับสนุนรัฐบาล เพื่อให้เกิดความปลอดภัยไม่มีเหตุร้าย หลังจากมีการชุมนุมยืดเยื้อโดยไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุด ประกอบกับที่ผ่านมากลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และฝ่ายรัฐบาลไม่เคยมาตั้งโต๊ะเจรจาพูดคุยกัน มีแต่ต่างฝ่ายต่างขึ้นเวทีคนละที่คนละเวลา เช่น วันที่ 3 มี.ค. ฝ่ายรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็ออกมาปราศรัย มีประชาชนมาฟังเป็นแสนคน ขณะที่วันที่ 5 มี.ค.กลุ่มพันธมิตรฯ ก็ได้มีการชุมนุมเช่นเดียวกัน เวลาห่างกันเพียง 48 ชม. กำลังตำรวจที่มารักษาความปลอดภัยก็มีความเหนื่อยล้า เพราะต้องมีการเตรียมการตั้งแต่ก่อนการชุมนุมจนกว่าการชุมนุมจะเสร็จสิ้น แต่ผลที่ผ่านมากลับมีการด่าว่าตำรวจผ่านทางเว็บไซต์ด้วยถ้อยคำหยาบคายเหมือนตำรวจไม่ใช่มนุษย์ ซึ่งตนรับไม่ได้

ส่วนที่พูดในนามส่วนตัวไม่เกี่ยวกับพันองค์กร คือตนได้ปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งนี้ เมื่อ 10 วันที่ผ่านมาได้ยื่นจดหมายถึงนายกรัฐมนตรีว่าขณะนี้หลายฝ่ายที่ชุมนุมกันขอให้นายกฯ ลาออก ในขณะที่นายกฯ ก็ไม่ยอมลาออกเพื่อต้องการรักษากติกา โดยถ้อยคำในจดหมายระบุว่า อยากให้นายกฯ ประกาศไม่รับตำแหน่งหลังการเลือกตั้งหากพรรคไทยรักไทยชนะ และให้สรรหาบุคคลที่เหมาะสม มีความรู้ ความสามารถ มีคุณธรรม แต่ฝ่ายค้านต้องลงสมัครรับเลือกตั้ง โดยขอพระราชทานแก้ไขพระราชกฤษฎีกา เลื่อนวันเลือกตั้ง ถือเป็นการถอยคนละก้าว หากประชาชนตัดสินให้พรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคชาติไทยชนะการเลือกตั้งก็ไม่มีปัญหา ทั้งนี้ เมื่อเลือกตั้งเสร็จผู้ที่ได้รับเลือกก็ตั้งคณะกรรมการมาปฏิรูปการเมือง ครบ 1 ปี ก็ยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ ซึ่งพวกเราจะได้รักษากติกาของบ้านเมือง โดยไม่ต้องขอพระราชทานนายกฯ ตามมาตรา 7 ให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท ปัญหาก็สามารถคลี่คลายได้ในระดับหนึ่ง