อัยการสำนักงานคดีพิเศษ นำตัว"เจ๊ฉอด"ส่งฟ้องข้อหาเป็นจำเลยฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เจ้าตัวยื่น 2 แสนประกันตัวสู้คดี....
วันนี้(22 ม.ค.)ที่ศาลอาญา อัยการสำนักงานคดีพิเศษ นำตัวนางสายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา หรือ"เจ๊ฉอด"มาฟ้องเป็นจำเลยฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามสำนวนการสอบสวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.)
อัยการฟ้องว่า ก่อนหน้านี้ อัยการได้ดำเนินคดีกับ พ.อ.ชิษณุ โสพจน์ อดีตนายทหารประจำกรมการทหารสื่อสาร กองทัพบก และต่อมาได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการกิจการวิทยุ จำเลยได้กระทำผิดร่วมด้วยกล่าวคือ เมื่อวันที่ 9 ก.ค.2546 กองกระจายเสียง กองทัพบก ได้ประกวดราคาการสั่งโฑฆษณาวิทยุกระจายเสียง สถานีวิทยุกระจายเสียงจเรทหารสื่อสาร 1 เอฟเอ็ม 94.5 พอถึงวันที่ 26 ส.ค.2546 เป็นวันกำหนดยื่นซอง มีผู้เสนอชื่อเข้าประกวดสองราย คือ บริษัท บรอดคลาสติ้งเนตเวิร์ค จำกัด กับบริษัทโกลบอลมิวสิคเทเลวิชั้น จำกัด และบริษัท บรอดคลาสติ้ง เป็นผู้ชนะการประกวดราคาในวงเงิน 1.23 ล้านบาทเศษ
ส่งฟ้องเจ๊ฉอด เอี่ยวทุจริต ยื่นประกัน 2 แสน
ต่อมา พ.อ.ชิษณุ กับพวกที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้องเป็นนายทหารยศพลเอก ร่วมกับจำเลยในคดีนี้ ได้เสนอเอกสารเกี่ยวกับการประกวดราคาให้เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตรวจสอบ เข้าใจผิดเป็นว่ามี บริษัท จีเอ็มเอ็ม มีเดีย จำกัด เป็นบริษัทที่สาม ที่เข้าประกวดราคา แล้วถือโอกาสแก้ข้อความเป็นว่า ผู้ชนะการประกวดราคา คือ บริษัท จีเอ็มเอ็ม มีเดีย จำกัด จากนั้นได้แก้ตัวเลขราคาสั่งโฆษณากับจำนวนภาษี จากเดิม 1,235,850 บาท เป็น 1,444,500 บาท
ต่อมา พ.อ.ชิษณุ ได้ทำปลอมตารางการแสดงผลการคัดเลือกแล้วเอาไปเสนอให้ พ.ต.หญิง ดวงฤดี กิตติยุทธโยธิน ผู้รับผิดชอบให้เข้าใจผิดว่าเป็นความจริง
การกระทำของจำเลยจึงเป็นการสนับสนุน พ.อ.ชิษณุ ทำให้กองทัพบกเสียหาย ต่อมาบริษัทบรอดคลาสติ้ง ได้ร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.ทำการไต่สวน คดีมีมูล จึงแยกดำเนินคดีกับ พ.อ.ชิษณุไว้แล้วเป็นคดีดำที่ อ.4695/52 คดีอยู่ระหว่างพิจารณา ส่วนความคืบหน้านางสายทิพย์ หรือเจ๊ฉอด ได้ยื่นประกันตัวเป็นเงินสด 2 แสนบาท ศาลอยู่ระหว่างพิจารณา