พล.ต.ท.พิทักษ์ จารุสมบัติ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ รองผู้บญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พล.ต.ต.กิตติสัณห์ เดชสุนทรวัฒน์ รอง ผบช.ภ.8 และ พล.ต.ต.วีระศักดิ์ มีนะวาณิชย์ ผบก.สส.ภ.8 แถลงข่าวจับกุมคดีค้างเก่า โดยตำรวจจับกุมนายวัฒนา หรือสำคัญ หรือแดง รักษ์กำเนิด อายุ 43 ปี อยู่อ.ทุ่งสง จ.นครราชศรีธรรมราช ข้อหาความผิดต่อชีวิต,พ.ร.บ.อาวุธปืน ซึ่งได้หลบหนีการประกันตัวชั้นพิจารณาของศาล ศาลได้อ่านคำพิพากษาแล้วให้ลงโทษประหารชีวิต แต่ลดโทษให้คงเหลือจำคุกตลอดชีวิต
ผู้ต้องหารับสารภาพว่าได้ปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ. ตบตาตำรวจเพื่อสะดวกต่อการหลบหนี พร้อมกับทำงานรับจ้างทั่วไปและสาเหตุที่หนีระหว่างประกันตัวนั้นเพราะเห็นว่าศาลไม่เชื่อตามคำที่ให้การและได้พิจารณาลงโทษคงเหลือจำคุกตลอดชีวิต ทั้งนี้หลังถูกจับกุมจะต่อสู้ตามกระบวนการของศาลต่อไป
สำหรับคดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อ 29 ม.ค. 2547 เวลาประมาณ 16.30 น. นายวัฒนา หรือ สำคัญฯ ร่วมกับ นายภาณุพงศ์ หรือสมบัติ อ้วนเส้ง ใช้รถยนต์กระบะเป็นยานพาหนะจับตัว นางอดิศัย หรือเจ้กี่ กิตติชนม์ธวัช ภรรยาของ นายธวัช บุรินทร์วัฒนา อดีตประธานหอการค้าจังหวัดชุมพร ขณะขับขี่รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ บีเอ็ม ดับบลิว สีขาว ป้ายแดง อยู่บนถนนเขตท้องที่ อ.ปะทิว จ.ชุมพร แล้วนำตัว นางอดิศัยฯ ไปยิงจนถึงแก่ความตาย แล้วทิ้งศพไว้ในท้องที่ ม.4 ต.หาดขาม ต.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากนั้นนำรถยนต์ของผู้ตายไปส่งขายยังประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้จับกุมตัว นายวัฒนา หรือสำคัญฯ ดำเนินคดีเมื่อ 20 มี.ค. 2547 ระหว่างชั้นพิจารณาคดีของศาล นายสำคัญฯ ได้หลบหนีระหว่างประกันตัวไม่ยอมฟังคำพิพากษาตามนัด ศาลจึงออกหมายจับ ซึ่ง พล.ต.ต.วีระศักดิ์ มีนะวาณิชย์ ผบก.สส.ภ.8 ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.มีชัย นกแก้ว รอง ผกก.ฯ กับพวก เดินทางไปจับกุมตัว ได้ดังกล่าว
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
