สำหรับนางระวีวรรณ เสตะรัตน์ ผู้ตาย ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2548 ที่ผ่านมา เคยตกเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วประเทศ เมื่อเจ้าตัวออกมาร้องเรียนต่อสื่อมวลชนทั้งทางโทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์ ว่า ตกเป็นเหยื่อคลินิกศัลยกรรมแห่งหนึ่งย่านดอนเมือง จนทำให้ใบหน้าเสียโฉม เนื่องจากในปี 2546 ได้ติดต่อขอรับการทำศัลยกรรมใบหน้าจากคลินิกดังกล่าวหลายอย่าง ทั้ง ผ่าตัดทำตาสองชั้น ดูดไขมันใต้ตา เสริมจมูก แต่กลับถูก เจ้าของคลินิก และเป็นแพทย์ผู้ทำศัลยกรรม ฉีดสารเคมีบางชนิดด้วยวิธี "ไบโอเทคนิค" เข้าไปในใบหน้า แต่สารดังกล่าวเกิดการแข็งตัวไม่เป็นไปตามประสงค์ ต้องผ่าตัดแก้ไขอยู่กว่า 20 ครั้ง ตลอดระยะเวลา 2 ปี ทำให้ใบหน้าเสียโฉม ผิวตาไม่เรียบ เปลือกตาซ้ายปิดไม่สนิท มีแสงลอดเข้าไปได้ น้ำตาเยิ้มคลอเบ้าอยู่ตลอดเวลา โดยนางระวีวรรณ ได้นำเรื่องนี้ร้องเรียนหลายหน่วยงาน ทั้งแพทยสภา สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กระทั่งถูกแพทย์คนดังกล่าวฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายนับร้อยล้านบาท จากกรณีหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา แต่สุดท้ายศาลยกฟ้อง ขณะเดียวกัน นางระวีวรรณ ก็เป็นโจทก์ยื่นฟ้องแพทย์คนดังกล่าวเป็นจำเลย เรื่องละเมิดด้วยเช่นกัน จากการประมาทที่รักษาใบหน้าจนเสียโฉม เรียกค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 12.6 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลแพ่ง
ยกฟ้อง2มือยิง ระวีวรรณ เหยื่อศัลกรรมไบโอคลินิก
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม ยกฟ้อง2มือยิง ระวีวรรณ เหยื่อศัลกรรมไบโอคลินิก
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 19 ม.ค. ศาลอาญารัชดา นัดอ่านคำพิพากษา ในคดีที่ อัยการพิเศษ ฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายจตุรงค์ หรือ ตึ๋ง เบ็ญกุล และ นายประกอบ หรือ กอบ สีนาค เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และร่วมกันมีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในหมู่บ้าน หรือ สาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร จากกรณีเมื่อวันที่ 13 ก.ย. 2550 จำเลย ร่วมกับพวกที่ยังหลบหนี ใช้อาวุธปืนก่อเหตุยิง นางระวีวรรณ เสตะรัต หรือ นางอภัสนันท์ ธิติโชติชัยปรีชา เหยื่อศัลยกรรมความงามเสียชีวิต บริเวณหมู่บ้านฉัตรแก้ว ซอย 11 ถนนแฮปปี้แลนด์ สาย 1 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าหลักฐานไม่ชัด ยกประโยชน์ให้จำเลย แต่ให้คุมขังต่อระหว่างยื่นอุทธรณ์คดี