“บิ๊กตุ”สั่งจับตา3ซุ้มมือปืนภาคกลางเป็นพิเศษ

ผบช.ภ.1 สั่งจับตา 3 ซุ้มมือปืนภาคกลางเป็นพิเศษ หลังเกิดเหตุฆ่านักการเมืองท้องถิ่นมีต่อเนื่อง

วันนี้ (12 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.กฤษฎา พันธ์คงชื่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เปิดเผยความคืบหน้า คดีคนร้ายยิง นายทนงค์ ภู่เกษร อดีตประธานสภา อบต.สำพะเนียง อ.บ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา จากการสอบพยานพอจะทราบกลุ่มคนร้าย ประเด็นน่าจะมาจากเรื่องความขัดแย้งส่วนตัวเกี่ยวกับการเมืองท้องถิ่น ส่วนคดี ร.ต.ต.กฤติสันต์ จันทร์กระจ่าง หรือ “จ๊อด กองปราบ” นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านอิฐ อ.เมือง อ่างทอง ตำรวจยังคงติดตามคนร้ายอย่างต่อเนื่อง แม้จะยังไม่มีการติดต่อขอมอบตัวก็ตาม  เบื้องต้นเชื่อว่า คนร้ายน่าจะหลบไปอยู่ในที่ที่ตนเองคิดว่า ปลอดภัยที่สุด แต่อาจจะไม่ใช่กับนักการเมืองท้องถิ่นตามที่ตำรวจสันนิษฐาน เพราะคนร้ายเป็นคนที่มีพวกพ้องเยอะมากในแถบ จ.ลพบุรี

พล.ต.ท.กฤษฎา กล่าวอีกว่า สาเหตุที่ช่วงนี้มีการลงมือฆ่านักการเมืองท้องถิ่นบ่อยครั้ง อาจจะมาจากหลายสาเหตุ แต่ที่มากสุดคือการขัดแย้งผลประโยชน์งบประมาณ รวมถึงขวางผลประโยชน์กลุ่มผู้รับเหมาประมูลงาน จึงทำให้นักการเมืองท้องถิ่นที่ไม่ยอม ถูกสั่งเก็บ ซึ่งเท่ากับเป็นการเขียนเสือให้วัวกลัวเป็นตัวอย่าง เพื่อให้คนที่คิดจะขวางผลประโยชน์เลิกล้มความคิด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เกิดเหตุคนร้ายฆ่านักการเมืองท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง ตนเองได้กำชับให้ตำรวจทุกท้องที่ตรวจสอบกลุ่มมือปืน และซุ้มมือปืนต่าง ๆ ในพื้นที่ภาคกลางทั้งหมดว่า มีความสัมพันธ์กับใคร

ส่วนนักการเมืองท้องถิ่นยอมรับว่า มีหลายจังหวัดที่น่าเป็นห่วง และมอบหมายให้สายสืบทุกสถานีฯ หาข้อมูลเชิงลึกว่า นักการเมืองท้องถิ่นแต่ละคนมีความขัดแย้งกับใครบ้าง และสาเหตุมาจากเรื่องใด เพราะจะได้ติดตามพฤติกรรมฝ่ายตรงข้ามหากจะมีการลงมือก่อเหตุ หรือลงมือก่อเหตุแล้ว และในส่วนของนักการเมืองท้องถิ่นที่รู้ตัวเองว่า ไม่มีความปลอดภัย สามารถแจ้งข้อมูลกับตำรวจได้ทันที ขณะนี้ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุก สภ.ใน บชภ.1 ตั้งจุดตรวจป้องกันเหตุ ด้วยการตรวจค้นหาอาวุธปืน

ข้อมูลของตำรวจกลุ่มงานสืบสวน กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ระบุว่า ในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 มีกลุ่ม หรือซุ้มมือปืนอย่างน้อย 3 ซุ้ม ได้แก่ ซุ้มคนมีสีในพื้นที่ จ.ลพบุรี และสระบุรี มีลูกทีม ๆ ละ 6-7 คน ซุ้มนักการเมืองท้องถิ่นใน จ.อ่างทอง มีลูกทีม 4 คน ซึ่งทั้งหมดเชี่ยวชาญในการใช้อาวุธสงคราม แต่ที่ใช้มากขณะนี้คือปืน .38, .357 และ 11 มม. เนื่องจากพกง่ายใช้ง่าย และไม่เป็นที่ผิดสังเกตของเจ้าหน้าที่ตำรวจมากนัก.