ผวาหนุ่มแสบ ป่วยเป็นโรคร้ายอวดอ้างเป็นตำรวจยศ “ร.ต.ต.” จับกุมวัยรุ่นซิ่งจยย.เที่ยวเตร่ยามค่ำคืน
ใช้กลอุบายแกมขู่บังคับว่า เป็นรถเถื่อนผิดกฎหมาย ให้ฝ่ายชายไปหาหลักฐานมายืนยัน สบโอกาสลากแฟนสาว ด.ญ. อายุ 14 ปี ข่มขืนยับป่นปี้ แต่สุดท้ายไปไม่รอด ไปก่อเหตุกับเด็กสาวใกล้บ้าน เลยถูกตำรวจแกะรอยตามรวบไว้ได้ทันควัน ขณะที่มีเหยื่อนับ 50 ราย ขวัญกระเจิงกลัวติดโรคร้าย
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 10 ม.ค. พ.ต.อ.วีระพงษ์ พงษ์พุ่ม ผกก.สภ.เมืองอำนาจเจริญ
นำตัวนายโสภา ภิรมย์ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95 หมู่ 6 ต.โนนหนามแท่ง อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ ผู้ต้องหาแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และข่มขืน ด.ญ.อายุต่ำกว่า 15 ปี มาสอบสวนปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง หลังจากถูกจับกุมเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พ.ต.อ.วีระพงษ์ เปิดเผยว่า นายโสภา ประวัติมีพฤติกรรมชอบอ้างตัวเป็นตำรวจยศ ร.ต.ต. ก่อเหตุดักปล้นจี้ในเวลากลางคืน และล่าสุดได้แอบอ้างตัวเป็นตำรวจ จับกุมนายแดง (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี และด.ญ.ดำ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี แฟนสาว ที่บริเวณด้านหน้าโรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน ต.บุ่ง อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ ขณะขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านพัก โดยใช้อุบายอ้างเป็นตำรวจขอตรวจค้นรถ จยย. แล้วขู่บังคับว่า เป็นรถเถื่อนผิดกฎหมาย จากนั้นได้สั่งให้ฝ่ายชายไปหาหลักฐานมายืนยันว่า เป็นเจ้าของรถอย่างถูกต้อง หลังจากนั้นได้ขู่บังคับข่มขืนฝ่ายหญิง จนสำเร็จความใคร่ ก่อนหลบหนีไป
นายโสภา ให้การสารภาพอ้างว่า เคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาหลายครั้ง ในเขต จ.อำนาจเจริญ และขอนแก่น
อีกทั้งเมื่อปี 2544 เคยต้องโทษคดีมีอาวุธสงคราม ศาลตัดสินจำคุก 5 ปี จนกระทั่งพ้นโทษออกมาแล้วไม่รู้จะทำอะไร จึงกลับมาก่อเหตุปล้นจี้ไปเรื่อย ๆ ด้วยการแต่งกายเลียนแบบตำรวจ ไปแอบอ้างข่มขู่กลุ่มวัยรุ่นที่ชอบเที่ยวเตร่ตอนกลางคืน และหากใครมีเงิน จะถูกยึดไว้ อ้างเป็นค่าปรับ แต่ถ้าใครไม่มีเงิน จะลงมือข่มขืนที่บริเวณข้างทาง และส่วนใหญ่จะไม่มีใครไปแจ้งความ เพราะกลัวจะเสื่อมเสียชื่อเสียง แต่ในรายล่าสุด เหยื่อเป็นคนใกล้บ้าน จึงถูกตำรวจสืบสวนตามรวบตัวไว้ได้
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำผู้เสียหายมาชี้ตัวยืนยันความผิด และค้นหาหลักฐานต่าง ๆ
และพบหลักฐาน และเอกสารสำคัญจำนวนมาก จำพวกนามบัตรของบุคคลต่าง ๆ อยู่ในกระเป๋าสตางค์ของผู้ต้องหาจึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ดำเนินคดีต่อไป มีรายงานว่า ผู้ต้องหารายนี้ ป่วย ติดเชื้อโรคร้าย โดยมีหลักฐานการรับยา ใช้ในการรักษาตัว จากโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตรวจค้นได้ จากห้องพักของผู้ต้องหา อีกทั้งผู้ต้องหา ยอมรับด้วยว่า ตัวเองป่วยเป็นโรคร้าย และอยู่ระหว่างกินยารักษา และหลังจากมีข่าวว่า ได้มีการจับกุมตำรวจปลอม ป่วยเป็นโรคร้าย ได้สร้างความวิตกให้กับเหยื่อ ประมาณ 50 ราย ที่ถูกผู้ต้องหารายนี้ข่มขืนเป็นอย่างมาก.