มือมืดบุกทุบกระจกสำนักงานสก.ย่านดอนเมือง

บุกทุบกระจกประตูสำนักงาน สก.ปชป.ย่านดอนเมือง ตร.คาดเหตุการเมืองท้องถิ่น และเรื่องส่วนตัว

วันนี้ (7 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.วิโรจน์ มาสง พงส.(สบ 2) สน.ดอนเมือง รับแจ้งเหตุทุบกระจกสำนักงาน สก.กนกนุช นากสุวรรณ พรรค ปชป. เลขที่ 8/3 ถนนสรงประภา สามแยกประชาอุทิศ แขวง-เขตดอนเมือง กทม. จึงพร้อม พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ พรหมสวัสดิ์ ผกก. ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ประตูด้านหน้าซ้ายมีรอยแตกเสียหายทั้งบาน ภายในสำนักงานมีเศษกระจกตกเกลื่อนพื้น และพบอิฐตัวหนอนตกอยู่ 1 ก้อน

จากการสอบสวน นางธาริณี สินสถาน อายุ 54 ปี แม่บ้าน ให้การว่า ทำงานที่นี่มากว่า 10 ปี โดยวานนี้ได้ปิดสำนักงานตอนประมาณ 1 ทุ่ม และเมื่อตอน 8 โมงเช้าตนก็มาเปิดออฟฟิศตามปกติ แต่ขณะที่กำลังไขประตูอยู่นั้นก็พบว่า กระจกถูกทุบแตก และยังพบผ้าขนหนูวางอยู่บนโต๊ะหน้าสำนักงาน ซึ่งเชื่อว่า คนร้ายน่าจะใช้เพื่อป้องกันลายนิ้วมือ จากนั้นตนจึงโทรศัพท์แจ้งให้ สก.กนกนุช  ทราบ ก่อนมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ด้าน สก.กนกนุช กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวรู้สึกตกใจมาก ออฟฟิศนี้เปิดมา 10 ปีแล้ว โดยตนทำงานการเมืองท้องถิ่นมากว่า 10 ปี ตลอดเวลาไม่เคยมีเรื่องกับใคร และไม่เคยขัดแย้งกับใคร แต่อาจเป็นไปได้ว่า มีผู้ไม่หวังดีเกิดความหมั่นไส้ หรือต้องการกลั่นแกล้งตนมากกว่า เนื่องจากระยะนี้ทีมงานของตนลงพื้นที่พบชาวบ้านเป็นอย่างมาก เพราะช่วงเดือน มิ.ย. จะมีการเลือกตั้ง สข. จึงต้องให้ทีมงานลงพื้นที่รับเรื่องร้องเรียน หรือร้องทุกข์จากชาวบ้านเยอะ ต้องลงพื้นที่ตรวจสอบเข้มข้น นอกจากกระจกที่แตกแล้วยังมีป้ายคัทเอาท์รณรงค์ช่วงปีใหม่ของตน จำนวน 5 ป้าย ที่ติดตั้งไว้ใกล้สำนักงานเขตดอนเมือง ก็ถูกทำลายด้วยเช่นกัน คาดว่า คนร้ายน่าจะลงมือตอนประมาณ 03.00 น. เพราะขณะนั้นมีฝนตกหนัก เหมาะกับการลงมือ อย่างไรก็ตาม ไม่เคยกลัวแม้จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น เชื่อว่าน่าจะเป็นการข่มขู่มากกว่า แต่ต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น

ด้าน พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ กล่าวว่า หลังจากนี้จะได้ทำการสอบปากคำเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในออฟฟิศทั้งหมด รวมทั้งตัว สก.กนกนุช ด้วย ส่วนการสืบสวนจะทำไปในวงกว้างไว้ก่อน เบื้องต้นได้ตั้งไว้ 2 ประเด็น คือ เรื่องการเมืองท้องถิ่น และเรื่องส่วนตัว หลังจากนี้จะจัดกำลังเจ้าหน้าที่มาดูแลสำนักงานอย่างเข้มงวด รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่บริเวณใกล้เคียง และติดตามพยานในที่เกิดเหตุ พยานแวดล้อม มาทำการสอบปากคำอย่างละเอียด พร้อมทั้งให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาข่าว เพื่อใช้เป็นเบาะแสในการติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป.