เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 5 ม.ค. ที่โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วยผบ.ตร. ในฐานะโฆษกตร.
เข้าเยี่ยมน.ส.ธนิดา ศรีสุวรรณ อายุ 60 ปี รักษาตัวอยู่ที่ห้องพักผู้ป่วยศัลยกรรม ชั้น 15 ของโรงพยาบาล โดยมีน.พ.ประพาศน์ รัชตะสัมฤทธิ์ ผอ.ร.พ.เจริญกรุงประชารักษ์ ต้อนรับ หลังจากน.ส.ธนิดาถูกพ.ต.ต.อรรถวุฒิ กิจคาม สวป.สภ.เจริญศิลป์ จ.สกลนคร ช่วยราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กับพวกรวม 10 คน รุมกระทืบบนสน.เพชรเกษมจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อวันที่ 29 พ.ย.2552 ที่ผ่านมานั้น
น.ส.ธนิดาเปิดเผยว่า ขณะนี้สภาพร่างกายดีขึ้นมากแล้ว เหลือเพียงปัญหาเรื่องสายตาที่ยังมองเห็นเป็นภาพซ้อนอยู่ ไม่สามารถอ่านหนังสือและท่องบทสวดมนต์ได้
ซึ่งหมอบอกว่าอีกประมาณ 3-6 เดือน คงดีขึ้น และยังมีอาการเจ็บที่ชายโครงขวาเล็กน้อย ส่วนสภาพจิตใจตอนนี้ดีมาก ยิ่งพล.ต.ท.พงศพัศมารับกลับบ้านด้วยตัวเองรู้สึกดีใจ ขอขอบคุณแพทย์กับพยาบาลที่คอยดูแลเป็นอย่างดีมาโดยตลอด แต่ตนยังห่วงเรื่องความปลอดภัยของครอบครัวหลังจากนี้ ถ้าเป็นไปได้อยากจะขอเสื้อเกราะไว้ใส่ เพราะถ้าหายดีแล้วตนต้องขับรถไปดูแลงานเอง
ด้านพล.ต.ท.พงศพัศกล่าวว่า ความคืบหน้าทางคดี ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนสน.เพชรเกษม ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีก 1 ราย
ที่ร่วมกันทำร้ายอาม่า ออกโดยศาลอาญาธนบุรี เลขที่ 3/2553 ลงวันที่ 5 ม.ค.2553 เป็นชายไทยไม่ทราบชื่อและนามสกุลตามภาพสเกตช์ ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้ได้รับการทำร้ายร่างกายได้รับอันตรายสาหัส และร่วมกันทำร้ายผู้อื่นโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ตอนนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนจับกุมตัว
"สำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ได้ละเลย เร่งรัดการดำเนินการ แต่ก็ต้องเป็นไปตามพยานหลักฐาน ใครทำผิดก็ต้องรับโทษไป สำหรับเรื่องการดำเนินการทางวินัยนั้น ทราบว่าต้นสังกัดนายตำรวจทั้ง 2 คือ พ.ต.ต.อรรถวุฒิ สังกัดกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 กับ ส.ต.ท.ภาณุพันธ์ สังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล พบว่ากระทำความผิดจริง แล้วส่งเรื่องมาที่กองวินัยสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว มีความเห็นว่า พฤติกรรมของตำรวจทั้งสองนายนั้น สมควรจะต้องถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง มีโทษไล่ออกกับปลดออกเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ทางกองวินัย กำลังพิจารณาผลการสืบสวน เพื่อมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงต่อไป