เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. พ.ต.ต.สันติ ชูเชิด สว.สส.สภ.เมืองชลบุรี
พร้อมเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม พระครูสังฆรักษ์ หรือนายสุพจน์ ปรุงปัญญา อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 464/3 ต.มะขามหย่ง บวชมา 10 พรรษา และพระจัย หรือนายสัมพันธ์ แสงดารา อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 190 ซ.เจตน์ประชา ต.บางปลาสร้อย บวชมา 4 พรรษา หลังจากที่น.ส.นวล (นามสมมติ) อายุ 31 ปี ได้นำด.ญ.ฝน (นามสมมติ) บุตรสาว อายุ 13 ปี เข้าแจ้งความว่าถูกพระในวัดอรัญญิกาวาส (วัดป่า) ข่มขืนกระทำชำเราภายในกุฎินานนับเดือน ทางตำรวจจึงเข้าจับกุมและให้สึกทันที
กระทั่งเวลา 15.00 น. ตำรวจ ได้นำตัวด.ญ.ฝนมาชี้ตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้อย่างถูกต้อง
โดยให้การว่าเหตุการณ์เริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค. จนถึง 18 พ.ย. ตนได้ขออนุญาตไปปัดกวาดกุฏิและศาลาวัดเพื่อแลกกับข้าว ของใช้ที่เหลือ เนื่องจากมารดาตกงาน เมื่อทำอยู่ได้ประมาณ 1 สัปดาห์ อดีตพระจัยได้มาตามให้ไปเอาข้าวของในกุฏิ จึงรออยู่หน้าห้อง แต่ถูกอดีตพระจัยผลักเข้าไปในห้องและใช้กำลังปลุกปล้ำจนสำเร็จความใคร่ จากนั้นได้ให้ข้าวของมา 1 ถุงพร้อมกำชับว่าห้ามนำเรื่องนี้ไปบอกใครหากไม่เชื่อจะเผานั่งยาง ด้วยความกลัวจึงเก็บเงียบและถูกข่มขืนมาตลอด ต่อมาอดีตพระจัยได้นำเรื่องไปเล่าให้อดีตพระครูสังฆรักษ์ฟัง จึงถูกข่มขืนด้วยโดยพระครูสังฆรักษ์ได้ใช้แผนเดียวกับอดีตพระจัย ตนทนความเจ็บปวดไม่ได้จึงเล่าให้มารดาฟัง และเข้าแจ้งความดังกล่าว นอกจากนี้ทางพระครูสังฆรักษ์ และพระจัย ได้เจรจาเสนอให้เงิน จำนวน 4,000 บาทด้วย แต่แม่ไม่ยอม
เบื้องต้นทาง พ.ต.ท.ศิรประภา สุภารัตน์โชติ สบ.3 ด้านเด็กและสตรี เปิดเผยว่าผลการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า
ร่างกายของด.ญ.ฝนพบว่าอวัยวะเพศฉีกขาดและมีร่องรอยถูกข่มขืนจริง ส่วนทางพระจัย และพระครูสังฆรักษ์ ยังให้การปฏิเสธ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ จึงส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป