ร้องลูกสาวหายหวั่นถูกอุ้มฆ่า

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 28 ธ.ค. นายสมบูลย์ ชมพูวิเศษ อายุ 77 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57 หมู่ 13 บ้านเทื่อม ต.บ้านเทื่อม อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี

ร้องเรียนผู้สื่อข่าว จ.อุดรธานี ว่า ลูกสาวของตนคือ นางกุหลาบ อินทร์ศรี อายุ 48 ปี บ้านเดิมอยู่บ้านเลขที่ 464/277 แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ หายตัวไปจากบ้านพักข้าราชการตำรวจสภ.บ้านเทื่อม อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ของ ด.ต.สุรชัย ศรีศิริสุขะ อายุ 51 ปี ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.บ้านเทื่อม เป็นเวลาเดือนเศษแล้ว เกรงว่าจะเป็นอันตราย ซึ่งตนได้แจ้งความร้องทุกข์ไว้กับ พ.ต.ท.ณภัทร จูมวันทา พงส.สบ.2 สภ.บ้านเทื่อม เมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าหรือวี่แววที่จะพบตัวลูกสาวแต่อย่างใด จึงมาขอความช่วยเหลือจากสื่ออีกทาง

นายสมบูลย์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ลูกสาวตนหย่าร้างกับสามีที่กรุงเทพฯ แต่ยังคงใช้นามสกุลของสามีอยู่ แล้วกลับมาอยู่กับตนที่บ้าน

และต่อมาได้รู้จักกับด.ต.สุรชัยที่เพิ่งหย่าร้างกับภรรยาเช่นกัน หลังจากที่ได้คบกันมาถึง 2 ปี ทำให้ทั้ง 2 คนเกิดรักใคร่ชอบพอกัน นางกุหลาบก็ได้เสียอยู่กินกับด.ต.สุรชัยฉันสามีภรรยาอย่างเปิดเผย และบางครั้งลูกสาวก็กลับมานอนที่บ้านบ้าง ไปนอนบ้านด.ต.สุรชัยบ้างสลับกันไปมา ต่อมา เมื่อวันที่ 17 พ.ย. หลังจากนางกุหลาบกลับไปนอนพักอยู่ที่บ้านพักของด.ต.สุรชัย จนเวลา 21.00 น. ญาติๆ ก็โทรศัพท์ให้กลับไปรับประทานอาหารที่บ้าน แต่นางกุหลาบบอกว่าจะขอนอนที่บ้านพักดังกล่าว เนื่องจากในวันรุ่งขึ้นจะต้องเดินทางไปเยี่ยมลูกที่กรุงเทพฯ หลังจากนั้นก็ไม่มีใครเห็นนางกุหลาบอีกเลย ตนและญาติได้ออกตามหาลูกสาวตามบ้านญาติพี่น้องหรือเพื่อนบ้านก็ไม่พบ จึงได้ไปแจ้งความเอาไว้ที่สภ.บ้านเทื่อม เมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าหรือวี่แววที่จะพบตัวลูกสาวแต่อย่างใด

ส่วนด.ต.สุรชัยต่อมาถูกตั้งกรรมการสอบสวนในเรื่องนี้ พร้อมกับถูกให้พักราชการไว้ก่อนและให้ออกไปจากบ้านพัก

ในขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่สภ.บ้านเทื่อมได้ใส่กุญแจล็อกบ้านพักหลังนี้ไว้ ไม่ให้ใครเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยแต่อย่างใด ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บ้านเทื่อม ไม่มีใครกล้าให้ข้อมูลในเรื่องนี้แต่อย่างใด ทุกคนพูดเสียงเดียวกันว่า ให้ไปสอบถามกับผู้บังคับบัญชาหรือสารวัตรเจ้าของคดี เพราะเรื่องนี้อยู่ในระหว่างการสืบสวน

ด.ต.สุรชัยเปิดเผยว่า ระหว่างเวลา 21.00 น. คืนเกิดเหตุ ตนออกไปนั่งดื่มเบียร์กับลูกน้องนอกบ้านพัก

ก่อนออกไปก็เห็นนางกุหลาบนอนอยู่บนเตียงนอนในห้อง จนล่วงเวลา 23.00 น. ตนกลับมาบ้าน ก็ไม่พบนางกุหลาบเลย ไม่ทราบว่าไปไหน ขอยืนยันว่าตนรักนางกุหลาบ ส่วนข้อมูลต่างๆ ให้ไปสอบถามพ.ต.ท.ณภัทร จูมวันทา เจ้าของคดี เพราะตนให้ปากคำไปหมดแล้ว ไม่อยากตอบคำถามแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมา วันที่ 27 ธ.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ณภัทรพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.อุดรธานี

ไปตรวจสอบห้องพักของด.ต.สุรชัย เพื่อหาหลักฐาน การหายตัวไปของนางกุหลาบ พบคราบเลือดที่ผ้าห่มที่ใช้ปูนอนและมีมีดวางอยู่ 1 เล่ม นอกจากนั้นในบ้านพักยังพบกระเป๋าเสื้อผ้า รองเท้า และโทรศัพท์มือถือของนางกุหลาบอยู่ด้วย ซึ่งญาติๆ ของนางกุหลาบต่างสงสัยว่า ถ้านางกุหลาบจะเดินทางไปกรุงเทพฯ แล้วทำไมจึงไม่นำกระเป๋า โทรศัพท์ และรองเท้าไปด้วย จึงเกรงว่านางกุหลาบจะถูกอุ้มไปฆ่าและทำให้หายตัวไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บคราบเลือดและเส้นผมบนเตียงนอน เพื่อส่งไปตรวจยังสถาบันนิติเวชว่าเป็นของนางกุหลาบหรือไม่ต่อไป

พล.ต.ต.เดชา ชวยบุญชุม ผบก.ภ.จว.อุดรธานี กล่าวว่า จากกรณีที่นางกุหลาบหายตัวไปจากบ้านพักข้าราชการตำรวจในสภ.บ้านเทื่อม ตั้งแต่วันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา

ระยะเวลา 1 เดือนกว่าแล้ว ซึ่งในตอนนี้เราได้รับเป็นคดีคนหายเอาไว้ก่อน ซึ่งตนได้รับรายจากตำรวจสภ.บ้านเทื่อมมาแล้ว ก็ได้ตั้งชุดสืบสวนเอาไว้ในการติดตามหาตัวนางกุหลาบ และแต่งตั้งชุดสืบสวนในการติดตามพฤติกรรมข้าราชการตำรวจคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในการหายตัวไปของนางกุหลาบ โดยทุกอย่างว่ากันไปตามกฎหมาย ไม่ว่ามีข้าราชการตำรวจมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ก็ตาม ก็จะไม่มีการยกเว้นอย่างแน่นอน ให้ว่าไปตามข้อเท็จจริง

พล.ต.ต.เดชากล่าวต่อว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บ้านเทื่อม ได้แต่งตั้งชุดทำงานขึ้นมา 2 ชุด

ในส่วนของตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัด ก็ได้ลงพื้นที่ไปช่วยคลี่คลายคดีนี้แม้กระทั่งตำรวจภูธรภาค 4 ก็ได้ตั้งชุดสืบสวนมาช่วยทำงานในเรื่องนี้อีกด้วย ซึ่งเรื่องนี้เราจะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ส่วนอันดับแรกรับเป็นคดีคนหาย หลังจากรู้ว่านางกุหลาบอยู่ที่ไหน มีชีวิตหรือไม่ แล้วศพอยู่ที่ไหน คดีถึงจะคลี่คลายไปได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บรอยคราบเลือดในห้องพัก ส่งตรวจหาดีเอ็นเอว่าเป็นของนางกุหลาบหรือไม่ พร้อมทั้งตั้งชุดตรวจสอบตำรวจนายนี้มีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ได้หรือไม่ มีการหย่อนยานไหม หรือว่ามีการดื่มสุราในการปฏิบัติหน้าที่ข้อเท็จจริงเป็นเช่นไร