รวบตร.จราจรยิงทหารอากาศดับ อ้างชนแล้วหนี

     จากกรณียิงพ.จ.อ.อลงกรณ์ หมวดเมืองกลาง ทหารอากาศ สังกัดกองบิน 41 จ.เชียงใหม่ อายุ 30 ปี เสียชีวิตเมื่อค่ำวานที่ผ่านมาขณะขับรถเก๋งฮอนด้า แจ๊ซ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เหตุเกิดตรงข้ามธนาคารกรุงไทย สาขาสี่แยกแอร์พอร์ต ถ.มหิดล ต.ป่าแดด  อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พยานเห็นคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิสีแดงไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ส่วนสาเหตุเบื้องต้นมาจากผู้ตายขับรถชนกับรถจักรยานยนต์แต่ไม่ยอมลงมาเจรจา และขับรถออกจากที่เกิดเหตุทำให้คนร้ายยิงปืนไล่หลัง กระสุนทะลุกระจกเข้าท้ายทอยทะลุหน้าผากผู้ตาย ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น

      ข่าวคืบหน้าเมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 25 ธ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ โดย พ.ต.อ.ยุทธชัย พัวประเสริฐ ผกก.สภ.เมืองได้สั่งการให้ตำรวจสายตรวจทำการตั้งด่านสกัดและประสานไปยังท้องที่ใกล้เคียงเพื่อจับกุมคนร้ายราย กระทั่งจับกุมรถจักรยานยนต์ของคนร้ายได้ บริเวณสี่แยกแสงตะวัน ต.ช้างคลาน อ.เมืองเชียงใหม่ ทราบชื่อ ด.ต.จำนงค์ เกิดกุญชร อายุ 38 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรจังหวัดเชียงใหม่ อยู่บ้านเลขที่ 124/6 หมู่ 2 ต.สันมหาพน อ.แม่แตงเชียงใหม่ พร้อมรถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิสีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน พร้อมอาวุธปืนขนาด 9 มม.จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ทำการสอบปากคำ

     สอบสวนทราบว่า ผู้ตายได้ขับรถเบียด จนทำให้รถจักรยานยนต์ของ ด.ต.จำนงค์ เสียหลักล้มลง โดย ด.ต.จำนงค์ ก็ได้รอให้ผู้ตายลงมาจากรถเพื่อมาเจรจาค่าเสียหาย แต่ปรากฏว่า พ.จ.อ.อลงกรณ์  ไม่ยอมลงจากรถ และได้ขับรถออกจากจุดเกิดเหตุทันที ด.ต.จำนงค์ จึงได้ยิงปืนไล่หลัง 3 นัดโดยยิงที่ยางรถก่อนจากนั้นก็ยิงใส่กระจกหลังเพื่อให้รถดังกล่าวหยุดการหลบหนี จากนั้น ด.ต.จำนงค์ ก็ได้นำแฟนสาวซ้อนรถและขับตามรถยนต์ดังกล่าวไปจนใกล้ถึงสี่แยกแอร์พอต และ ลงไปเพื่อไปเจรจาเรื่องรถถูกชนจนล้ม แต่พบว่า มีคนถูกยิงเสียเลือดมาก จึงได้หลบหนีและมาถูกจับกุมดังกล่าว จากการสอบปากคำ ทางตำรวจยังทราบอีกว่า ด.ต.จำนงค์ นั้นอดีต เคยขับรถให้กับ พล.ต.ต.อถรรกิจ กรณ์ทอง ผบก.จว.ลำปางคนปัจจุบัน สมัยดำรงตำแหน่ง รอง ผบก.จว.เชียงใหม่

     ผู้สื่อข่าวรายานว่าในช่วงเที่ยงคืนได้มีเจ้าหน้าที่ทหารจากกองบิน 41 ซึ่งเป็นเพื่อนกับผู้ตายไม่พอใจในการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ที่กระทำเกินกว่าเหตุได้พากันเดินทางมายังโรงพัก สภ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อบีบให้ตำรวจเร่งดำเนินคดีกับผู้ต้องหาอย่างเด็ดขาดและให้ความเป็นธรรม ก่อนที่จะสลายตัวไปในที่สุด