ได้เบาะแสเผาร.ร. กํานันดัง สนิทนักการเมือง

กรณีมือมืดลักลอบเผาโรงเรียน 5 แห่งใน 3 อำเภอที่ จ.กำแพงเพชร คือโรงเรียนบ้านช่องลม ต.ช่องลม อ.ลานกระบือ โรงเรียนบ้านจันทิมา ต.จันทิมา อ.ลานกระบือ โรงเรียนบ้านบึงลูกนก ต.เขาคีริส อ.พรานกระต่าย โรงเรียนบ้านป่าถั่ว ต.มหาชัย อ.ไทรงาม และโรงเรียนบ้านวังโขน ต.หนองคล้า อ.ไทรงาม เบื้องต้นคาดว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ให้เกิดความปั่นป่วนของฝ่ายการเมือง ท้าทายการประกาศกฎอัยการศึกของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ขณะที่ พล.ท.สพรั่ง กัลยาณมิตร แม่ทัพภาคที่ 3 สั่งให้เร่งสอบสวนหาตัวการโดยเร็วที่สุด

ต่อมาเช้าวานนี้ (28 ก.ย.) ที่โรงเรียนบ้านบึงลูกนกอ.พรานกระต่าย ยังเปิดสอนตามปกติโดยใช้ห้องพยาบาลเป็นที่เรียนชั่วคราว รอบๆโรงเรียนมีกำลังทหารจากกองทัพภาคที่ 3 มาดูแลที่เกิดเหตุ โดยมีชาวบ้านนำอาหารมาปรุงให้ทหารกินอย่างเป็นกันเอง ขณะที่เด็กบางคนถึงกับร้องไห้ที่เห็นสภาพห้องเรียนถูกเผาวอดเป็นจุณพร้อมทั้งเข้าไปคุ้ยเขี่ยหาสมุดและหนังสืออุปกรณ์การเรียนของตนซึ่งถูกไฟเผาไหม้เสียหายหมด

สอบถาม ด.ญ.กิติยา ดำทรัพย์ นักเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนบ้านบึงลูกนก กล่าวว่า รู้สึกกลัวและตกใจที่โรงเรียนถูกเผา ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเผาโรงเรียนของหนูด้วย อยากบอกคนที่ทำว่า อย่าไปทำร้ายโรงเรียนอื่นอีกเลย ด.ญ.กิติยากล่าว ส่วนโรงเรียนอื่นๆต่างเปิดสอนกันตามปกติ โดยเฉพาะโรงเรียนบ้านจันทิมา นายเกียรติศักดิ์ นาคคล้าย ผอ.โรงเรียน ได้กล่าวให้กำลังใจนักเรียนและครูหน้าเสาธงว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเราต้องมีกำลังใจเดินหน้าต่อไป อย่าท้อถอย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 27 ก.ย. ที่ผ่านมา ได้มีชายลึกลับโทรศัพท์ไปที่เทศบาลตำบลนครชุม อ.เมืองกำแพงเพชร ว่าจะมีการวางระเบิดและเผาโรงเรียนในเขตเทศบาลนครชุม ทำให้ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาแต่ละโรงเรียนต้องส่งครูและภารโรงมาเฝ้าโรงเรียนทั้งคืน รวมทั้งชุดอาสาป้องกันภัยหมู่บ้าน ชุดคุ้มครองหมู่บ้านและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตระเวนออกตรวจตราดูความสงบเรียบร้อยทั่วทั้งจังหวัด พร้อมกันนี้นายไพศาล รัตนพัลลภ ผวจ. กำแพงเพชร และ พล.ต.ต.ชัยณรงค์ วงษ์สุนทร ผบก.ภ.จ. กำแพงเพชร ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเข้มงวดเฝ้าระวังทุกพื้นที่ และให้รายงานเหตุการณ์ทุก 2 ชั่วโมง แต่ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใดเกิดขึ้น

ด้านนายสมเกียรติ บุญรอด ผอ.สพท.กำแพงเพชร เขต 1 ได้กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวเหตุวางเพลิงโรงเรียนเกิดจากความขัดแย้งภายในเขตพื้นที่การศึกษาว่า ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง กลุ่มครูทั้ง 2 เขต ไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งกันตามที่เป็นข่าวและไม่ได้เป็นผู้สร้างสถานการณ์ สำหรับโรงเรียนที่ถูกไฟไหม้ได้สั่งให้เปิดสอนตามปกติทุกโรงเรียน ส่วนเรื่องขวัญกำลังใจครูนักเรียนย่อมเสีย ขวัญบ้าง เนื่องจากเหตุการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนใน จ.กำแพงเพชร

นอกจากนี้ นายเดชา เกชา ประธานสมาพันธ์ครูจังหวัดกำแพงเพชร กล่าวว่า ค่อนข้างมั่นใจว่าการเผาโรงเรียนไม่ได้มีสาเหตุมาจากความขัดแย้งกันเองระหว่างครูหรือบุคลากรในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะไม่เคยมีความขัดแย้งรุนแรงใดๆ เชื่อว่ามูลเหตุจูงใจต้องมาจากความขัดแย้งที่ใหญ่กว่าความขัดแย้งระดับท้องถิ่นหรือระดับจังหวัด ส่วนขบวนการที่ทำก็ไม่ใช่ขบวนการเล็กๆแน่ ชาวบ้านระบุว่า หลังเพลิงเริ่มลุกไหม้โรงเรียน เห็นกลุ่มชายฉกรรจ์ วิ่งขึ้นรถปิกอัพขับหลบหนีออกไป อย่างไรก็ตาม ทางสมาพันธ์ครูจังหวัดกำแพงเพชรได้หารือกับสมาพันธ์ครูภาคเหนือ 16 จังหวัด และสมาพันธ์ครู 4 ภูมิภาคทั่วประเทศแล้วว่าจะผนึกกำลังกันต่อต้านกลุ่มผู้ไม่หวังดี หากยังไม่หยุดใช้โรงเรียนเป็นเครื่องมือสร้างสถานการณ์อีก โดยจะรวมตัวกันสืบหาตัวผู้ก่อการให้ได้ นายเดชากล่าว

ส่วนการตรวจสอบหาหลักฐานในที่เกิดเหตุนั้น พ.ต.อ.อุทิศ สิงหพันธ์ รอง ผบก.วท.ลำปาง ได้นำเจ้าหน้าที่วิทยาการจากเขต 33 พิษณุโลก เขต 34 นครสวรรค์ และลำปาง แยกย้ายกันไปตรวจแต่ละแห่ง พร้อมประสานกับ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ รักษาการ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ส่งทีมงานร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วย

ขณะเดียวกันชุดสืบสวนที่รับผิดชอบคดีนี้ได้ประชุมหาเบื้องหลังของเหตุวางเพลิง โดยในที่ประชุมได้สรุปประเด็นสาเหตุว่า อาจเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มบุคคลที่สูญเสียผลประโยชน์หรืออาจเป็นการขัดแย้งกันในกลุ่มขององค์กรการศึกษาในพื้นที่หรืออาจเป็นกลุ่มนัก การเมืองจากจังหวัดข้างเคียงเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ จ.กำแพงเพชร ซึ่งมีหลายจังหวัดที่อยู่ใกล้เคียงกับ จ.กำแพงเพชรที่มีนักการเมืองที่สูญเสียผลประโยชน์จากเหตุยึดอำนาจจากรัฐบาลของ คปค. ซึ่งในประเด็นหลังนี้มีความเป็นไปได้ สูง ส่วนประเด็นฝีมือแก๊งวัยรุ่นกวนเมืองก็ไม่ได้ตัดทิ้งแต่ข้อสงสัยทั้งหมดก็ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเป็นกลุ่มบุคคลใด

ที่ศาลากลางจังหวัดกำแพงเพชร ได้มีการประชุมประจำเดือน ระหว่างประชุม นายไพศาล รัตนพัลลภ ผวจ. กำแพงเพชร ได้นำคำสั่งของ คปค.ให้ทุกหน่วยงานเฝ้าระวังสถานการณ์ของบุคคลต่างๆ ประกอบด้วย 1. ลูกจ้างสำนักทรัพยากรป่าไม้ และสำนักงานอุทยานแห่งชาติ เนื่องจากมีบางพื้นที่ไม่ได้จ้างคนไทยมาทำงาน แต่ใช้ บุคคลต่างด้าวทำงานแทน 2. กลุ่มฐานเสียงหัวคะแนนของพรรคการเมือง 3. นักศึกษาที่แสดงความคิดเห็นทาง การเมือง 4. กลุ่มเอ็นจีโอที่มีลักษณะการต่อต้านการปฏิรูปการปกครอง 5. กลุ่มสิทธิมนุษยชนที่ออกมาคัดค้านการปฏิรูปการปกครอง 6. กลุ่มผู้สูญเสียทางการเมือง นักธุรกิจ 7. กลุ่มราษฎรที่ถูกจ้างให้คัดค้านการปฏิรูปการ ปกครอง พร้อมกำชับทุกฝ่ายให้เฝ้าระวังอย่าให้มีเหตุการณ์ เผาโรงเรียนเกิดขึ้นอีก

จากเหตุวางเพลิงเผาโรงเรียนครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่คาดว่าสาเหตุเกิดจากการสูญเสียผลประโยชน์ของนักการเมืองนั้น นางคนึง ไทยประสิทธิ์ อดีต ส.ส. เขต 2 จ.กำแพงเพชร พรรคไทยรักไทย เปิดเผยว่า เรื่องนี้ได้ยืนยันกับแม่ทัพภาคที่ 3 แล้วว่า ในพื้นที่ไม่มีปัญหาเรื่องการเมือง ทั้งระดับชาติและท้องถิ่น พร้อมให้ความร่วมมือกับ คปค.อย่างเต็มที่ แต่จะมีมือที่ 3 สวมรอยหรือไม่นั้นไม่ขอวิจารณ์ ส่วนนายกัมพล ปันกุล รองนายก อบจ.กำแพงเพชร คนสนิทของนายเรืองวิทย์ ลิกค์ อดีต ส.ส.เขต 1 กำแพงเพชร พรรคไทยรักไทย เปิดเผยว่า นายเรืองวิทย์ติดธุระไม่สามารถมาดูที่เกิดเหตุได้ แต่ได้บอกผ่านมาว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุ เผาโรงเรียน และขอประณามกลุ่มคนที่ลงมือในครั้งนี้ด้วย

ที่ค่ายสมเด็จพระนเรศวร ได้มีนายก อบต.จาก 6 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 800 คน เข้ารายงานตัวต่อ พล.ท.สพรั่ง กัลยาณมิตร แม่ทัพภาคที่ 3 ซึ่งการรายงานตัวครั้งนี้มีขึ้นหลังโรงเรียน 5 แห่งใน จ.กำแพงเพชร ถูกลอบวางเพลิง โดย พล.ท.สพรั่งกล่าวชี้แจงกับนายกฯ อบต. ว่า ขออย่าให้ อบต.ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองใดๆเพราะอาจไปขัดคำสั่งของ คปค. ส่วนนายเรืองวิทย์ ลิกค์ ทราบว่าจะเข้ารายงานตัวในวันที่ 29 ก.ย.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝ่ายข่าวของหน่วยงานความมั่นคงได้วิเคราะห์ถึงสาเหตุของการลอบวางเพลิงโรงเรียนครั้งนี้ว่า ข้อสันนิษฐานมุ่งประเด็นการเมืองระดับชาติ โดยเกี่ยวพันกับกำนันชื่อดังใน อ.พรานกระต่าย และเป็นหัวคะแนนคนสำคัญของนักการเมืองระดับชาติคนหนึ่ง ซึ่งกลุ่มดังกล่าวไม่พอใจที่ พล.ท.สพรั่ง กัลยาณมิตร แม่ทัพภาค 3 ออกมาวิพากษ์วิจารณ์นักการเมือง ดังนั้นการกระทำดังกล่าวเป็นการหวังผลให้ พล.ท.สพรั่ง ในฐานะที่ดูแลพื้นที่ช่วงประกาศกฎอัยการศึกเสียหน้า นอกจากนี้ ขณะนี้ยังมีอีกหลายกลุ่มเฝ้ารอการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง จึงอาจจะมีการก่อเหตุก่อกวนเช่นนี้ขึ้นอีก

ที่หอประชุมกองทัพบก พล.ท.พลางกูร กล้าหาญ โฆษก คปค. ได้แถลงถึงผลการประชุม คปค.ว่า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้า คปค. ได้สั่งให้หน่วยบัญชาการทหารพัฒนาจัดสร้างและซ่อมแซมโรงเรียนที่ถูกลอบวางเพลิงใน จ.กำแพงเพชร เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้เยาวชนและประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้ พล.อ.สนธิ รู้สึกสะเทือนใจในสิ่งที่เกิดขึ้น ผู้สื่อข่าวถามว่า การเผาโรงเรียนครั้งนี้ ในที่ประชุมได้มีการวิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไร พล.ท.พลางกูรตอบว่า ในที่ประชุมไม่ได้มีการหารืออะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่รับทราบเท่านั้น

พล.ท.พลางกูรกล่าวอีกว่า ส่วนการวิเคราะห์ว่าจะเกิดจากสาเหตุใดนั้น ได้มอบให้ทางเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือทางเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องต้องเร่งสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย ถ้าให้ดีผู้ที่กระทำควรรีบมอบตัวกับทางการ เพราะการรวบรวมหลักฐานต้องสาวถึงตัวแน่นอน ถ้าจะผ่อนหนักเป็นเบาก็ควรมามอบตัวและเป็นการทำความจริงให้ปรากฏว่า

ทำไปเพราะขัดแย้งอะไรกันในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม การเผาโรงเรียนครั้งนี้ อย่าเพิ่งไปตื่นตระหนกตกใจ เพราะการดำเนินการใดๆ คนที่จะตอบได้ดีที่สุดคือคนทำ ดังนั้น อย่าเพิ่งใช้คำว่าท้าทายเลย เอาเป็นว่าที่ทำเป็นเพราะต้องการมุ่งหวังทำลายสถานที่ทรัพย์สินทางราชการเพื่อให้เป็นข่าว

ด้าน พล.อ.บัญชร ชวาลศิลป์ นายทหารคนสนิทพล.อ.มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ ประธานมูลนิธิรักเมืองไทย เปิดเผยว่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ในฐานะประธานกิตติมศักดิ์มูลนิธิรักเมืองไทยได้สั่งการให้ พล.อ.มงคลให้ความช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วนในการซ่อมแซมบูรณะโรงเรียนที่ จ.กำแพงเพชร ที่ถูกคนร้ายลอบวางเพลิงจนได้รับความเสียหาย จนนักเรียนไม่สามารถไปเรียนหนังสือได้ โดยเบื้องต้น พล.อ.มงคล ได้ประสานกับ พล.ท.สพรั่ง กัลยาณมิตร แม่ทัพภาคที่ 3 ในการดำเนินการก่อสร้างโรงเรียนใหม่ เหมือนกับที่มูลนิธิได้ดำเนินการก่อสร้างโรงเรียนที่ถูกคนร้ายลอบวางเพลิงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยจะนำเงินบริจาคของมูลนิธิเป็นค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ