แก๊งป่วนวางเพลิง เผา5รร. เย้ยอํานาจคปค.

"ระดมฉีดน้ำสกัดเพลิง"


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 02.45 น. วานนี้ (27 ก.ย.) ร.ต.ต.เสถียร อ่อนทอง ร้อยเวร สภ.อ.ลานกระบือ จ.กำแพงเพชร ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ที่โรงเรียนบ้านช่องลม หมู่ 1 ต.ช่องลม อ.ลานกระบือ จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ธนู พูลสุข ผกก. นำกำลังตำรวจ พร้อมประสาน นายสมเกียรติ สุวรรณนิมิตร นอภ.ลานกระบือ นำรถดับเพลิงไประงับเหตุ พบเปลวเพลิงกำลังลุกไหม้อาคารเรียนที่ทำ ด้วยไม้ทั้งหลังมี 4 ห้องเรียน จึงระดมฉีดน้ำสกัดใช้เวลาประมาณ 15 นาทีก็สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่เพลิงได้เผาผลาญอาคารเรียนได้รับความเสียหายทั้งหลัง

เวลาไล่เลี่ยกันได้เกิดเหตุเพลิงไหม้อีกที่โรงเรียนบ้านจันทิมา หมู่ 3 ต.จันทิมา อ.ลานกระบือ ห่างจากโรงเรียนช่องลมไปประมาณ 13 กม. กำลังตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงไประงับเหตุ พบว่าอาคารเรียนเป็นไม้ทั้งหลังมี 4 ห้อง ประกอบด้วย ห้องเรียน ห้องสมุด ห้องดนตรี และห้องพยาบาล มีเปลวเพลิงโหมกระหน่ำอย่างรุนแรงลุกลามอย่างรวดเร็ว กว่ารถดับเพลิงจะไปถึงปรากฏว่าอาคารถูกเผาผลาญวอดวายทั้งหลัง เจ้าหน้าที่ไม่สามารถสกัดไฟได้ทันเนื่องจากเป็นอาคารไม้เก่าแก่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี

"ไฟไหม้อย่างรวดเร็ว"


จากนั้นอีกประมาณ 15 นาที เกิดเหตุเพลิงไหม้ โรงเรียนอีกแห่ง โดย พ.ต.ต.โยธิน ทิพย์สุข สารวัตรเวร สภ.อ.พรานกระต่าย ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ที่โรงเรียนบ้านบึงลูกนก หมู่ 9 ต.เขาคีริส จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ปัญญา สุขเอม ผกก. นำกำลังตำรวจพร้อมประสานนายพิสุทธิ์ บุษยพรรณพงศ์ นอภ.พรานกระต่าย นำรถดับเพลิงไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากโรงเรียนบ้านจันทิมาประมาณ 10 กม. เป็นอาคารไม้มี 4 ห้องเรียนชั้น ป.4 และ ป.5

พบว่าเปลวเพลิงลุกไหม้เผาวอดทั้งหลังเหลือเพียงซากปรักหักพัง สอบสวนนายคำ จันทรวงศ์ อายุ 48 ปี ภารโรงให้การว่า ก่อนเกิดเหตุมีฝนตกหนักได้ยินเสียงสุนัขเห่าเป็นเวลานานจึงออกไปดูก็ต้องตกใจเมื่อพบว่ามีเพลิงลุกไหม้ทางด้านทิศเหนือของตัวอาคารอย่างรวดเร็วไม่สามารถดับได้ทัน

"โชคดีฝนตกหนัก"


นอกจากนี้ ในคืนเดียวกันยังมีเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงโรงเรียนอีก 2 แห่งใน อ.ไทรงาม แห่งแรกที่โรงเรียนบ้านป่าถั่ว หมู่ 8 บ้านศรีวิไล ต.มหาชัย ห่างจากโรงเรียนที่ถูกไฟไหม้ใน อ.ลานกระบือ ประมาณ 15 กม. โดยคนร้ายใช้น้ำมันโซล่าจุดไฟเผาตาข่ายขึงกันนกบริเวณกันสาดอาคารเรียนได้รับความเสียหาย แต่โชคดีที่ไฟไม่ลุกลามไหม้อาคารเรียนเพราะมีฝนตกหนัก

โดยพบถุงมือ 1 คู่และถังแกลลอนบรรจุน้ำมันตกอยู่ข้างอาคารเรียน ส่วนอีกแห่งที่โรงเรียนบ้านวังโขน หมู่ 2 ต.หนองคล้า ถูกคนร้ายใช้น้ำมันโซล่าราดจุดไฟเผาประตูห้องเรียนได้รับความเสียหายเล็กน้อย แต่ไฟดับก่อนจึงไม่ลุกลามไหม้ตัวอาคาร

"คาดคนร้ายกลุ่มเดียวกัน"


ต่อมาเวลา 07.30 น. พล.ท.จิรเดช คชรัตน์ แม่ทัพน้อยที่ 3 พร้อมกำลังทหาร เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ไปตรวจที่เกิดเหตุไฟไหม้ที่โรงเรียนบ้านจันทิมา อ.ลานกระบือ 1 ใน 5 โรงเรียนที่ถูกลอบวางเพลิง โดยมีนายไพศาล รัตนพัลลภ ผวจ.กำแพงเพชร พร้อมนายอำเภอและตำรวจในพื้นที่ร่วมตรวจสอบ เบื้องต้นสันนิษฐานเป็นการลอบวางเพลิงเพื่อสร้างสถานการณ์ก่อความไม่สงบ

โดยคนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกันเนื่องจากที่เกิดเหตุอยู่ห่างกันไม่มากและเหตุเกิดเวลาใกล้เคียงกัน ทั้งนี้ กำลังทหารได้เข้าไปเฝ้าดูแลสถานที่เกิดเหตุอย่างเข้มงวด โดยมีเจ้าหน้าที่วิทยาการเข้าไปตรวจหาหลักฐานสาเหตุของเพลิงไหม้ แต่เนื่องจากมีฝนตกหนักทั้งคืนทำให้การหาหลักฐานเป็นไปด้วยความยากลำบาก ขณะเดียวกัน พล.ท.จิรเดช คชรัตน์ แม่ทัพน้อยที่ 3 ได้กำชับตำรวจให้สืบสวนสอบสวนจับกุมคนร้ายให้ได้

"คนร้ายแรงมาก็ต้องแรงไป"


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในตอนเช้าบรรดาเด็กนักเรียนของโรงเรียนทั้ง 3 แห่ง ที่ถูกไฟเผาอาคารเรียนวอด ต่างพากันเดินทางมาเรียนหนังสือตามปกติ แต่เมื่อมาเห็นอาคารเรียนถูกไฟไหม้เหลือแต่ซากปรักหักพังบนกองเถ้าถ่านถึงกับงุนงงและตกใจ ส่วนผู้ปกครองที่มาส่งลูกหลานก็ต่างจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนานา ขณะที่โรงเรียนก็ยังคงเปิดสอนตามปกติ โดยให้นักเรียนไปเรียนรวมกันในอาคารอื่นก่อน

จากนั้นเวลา 16.00 น. พล.ท.สพรั่ง กัลยาณมิตร แม่ทัพภาคที่ 3 เดินทางไปที่โรงเรียนบ้านจันทิมา อ.ลานกระบือ เพื่อรับฟังสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมีนายไพศาล รัตนพัลลภ ผวจ.กำแพงเพชร พร้อมหัวหน้าส่วนราชการเข้าร่วมประชุมและชี้แจงเหตุการณ์ไฟไหม้โรงเรียนทั้ง 5 แห่ง โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้ารับฟัง ทั้งนี้ พล.ท.สพรั่งมีท่าทีไม่พอใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยกล่าวในที่ประชุมตอนหนึ่งว่า ถ้าคนร้ายแรงมาก็คงต้องแรงไป และอาจให้นักการเมืองท้องถิ่นเข้าไปรายงานตัวที่กองทัพภาคที่ 3 ด้วย หลังใช้เวลาประชุมประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง จึงเสร็จสิ้นก็เดินทางกลับไปทันทีโดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน แต่มอบหมายให้ ผวจ. กำแพงเพชร เป็นคนให้ข่าวแทน

"พบแกลลอนน้ำมันตกอยู่ข้างอาคาร"


นายไพศาล รัตนพัลลภ ผวจ.กำแพงเพชร กล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนยังไม่มี ความชัดเจนว่าคนร้ายเป็นกลุ่มใด ขอเวลารวบรวมพยานหลักฐานให้แน่ชัดก่อน จึงจะสามารถสรุปได้ ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 3 ได้มอบหมายให้ทางจังหวัดเข้าไปดูแลโรงเรียนต่างๆในช่วงนี้ พร้อมทั้งขอความร่วมมือประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาให้แก่เจ้าหน้าที่บ้านเมือง ส่วนเจ้าหน้าที่วิทยาการได้เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงเรียนทั้ง 5 แห่งแล้ว โดยเฉพาะที่โรงเรียนบ้านป่าถั่ว อ.ไทรงาม พบอุปกรณ์ที่คนร้ายใช้วางเพลิง มีถุงมือ 1 คู่ ถังแกลลอนพลาสติกบรรจุน้ำมันเชื้อเพลิงตกแตกอยู่ข้างอาคารเรียนและมีรอยล้อรถกระบะที่คาดว่าเป็นของคนร้ายด้วย

ที่ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อ.เมืองพิษณุโลก พ.อ.บรรยงค์ สิรสุนทร หน.ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย ในเขตพื้นที่กองทัพภาคที่ 3 คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) เปิดเผยถึงเหตุเพลิงไหม้โรงเรียน 5 แห่งใน จ.กำแพงเพชร ว่า เป็นการลอบวางเพลิง โดยใช้กระสอบป่านชุบน้ำมันก่อนจุดไฟเผา ได้มอบหมายให้ ผวจ.กำแพงเพชร ฝ่ายปกครอง และตำรวจ เร่งสอบสวนหาสาเหตุและติดตามจับกุมตัวคนร้าย ทั้งนี้ ได้ตั้งประเด็นทั้งเรื่องการสร้างสถานการณ์ ให้เกิดความวุ่นวาย การฉวยโอกาสจากผู้สูญเสียผลประโยชน์และประเด็นทางการเมือง

"เร่งหาที่เรียนให้กับ นร."


พ.อ.บรรยงค์กล่าวต่อไปว่า หลังเกิดเหตุได้จัดส่งหน่วยข่าวกรองลงพื้นที่ เพื่อหาสาเหตุการลอบวางเพลิง พร้อมส่งกำลังชุดเฉพาะกิจไปประจำตามจุดยุทธศาสตร์ สำคัญๆใน จ.กำแพงเพชร โดยเฉพาะใน 3 อำเภอที่เกิดเหตุลอบวางเพลิงครั้งนี้ ขณะเดียวกัน อยากขอความร่วมมือกับประชาชนในพื้นที่ให้ช่วยสอดส่องดูแลและตรวจสอบบุคคลแปลกหน้าที่เข้าไปในพื้นที่ หรือมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลที่ต้องการก่อเหตุรุนแรงต่างๆ สามารถแจ้งไปยังตำรวจ ฝ่ายปกครอง หรือทหารที่ประจำการในแต่ละพื้นที่ได้ทันที

ที่กระทรวงมหาดไทย นายสุจริต ปัจฉิมนันท์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ได้รับรายงานจากผวจ.กำแพงเพชร ถึงเหตุลอบวางเพลิงทั้ง 5 โรงเรียนแล้ว ผวจ.เห็นว่าสิ่งจำเป็นที่ต้องเร่งเข้าไปช่วยเหลือ คือต้องหาที่เรียนให้แก่เด็กนักเรียน รวมทั้งเร่งสร้างขวัญกำลังให้แก่เด็กๆด้วย ส่วนสาเหตุจะมาจากอะไรนั้นตำรวจกำลังสืบสวนสอบสวนอยู่ โดยก่อนหน้านี้ไม่มีรายงานถึงสิ่งผิดปกติ อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถระบุว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะมีลักษณะคล้ายกับสถานการณ์ ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้หรือไม่ เนื่องจากมีปัจจัยแวดล้อมที่ไม่เหมือนกัน ทั้งนี้ ตั้งข้อสังเกตว่า การวางเพลิงที่เกิดขึ้นเป็นเวลาไล่เลี่ยกันอย่างผิดปกติ

"ตั้งสาเหตุไว้ 4 ประเด็น"


มีรายงานจากหน่วยข่าวของกระทรวงมหาดไทยในพื้นที่ จ.กำแพงเพชร ได้ตั้งข้อสันนิษฐานในการลอบวางเพลิงโรงเรียน 5 แห่ง ครั้งนี้ว่า น่าจะมีสาเหตุมาจาก 4 ประเด็น คือ 1. ความขัดแย้งทางการเมือง เพราะที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ของนักการเมืองผู้มีอิทธิพล จึงอาจจะเป็นการสร้างสถานการณ์ทางการเมือง 2. เป็นความขัดแย้งระหว่างกลุ่มป่าไม้บางกลุ่ม กับกลุ่ม คปค. จึงต้องการสร้างสถานการณ์ 3. อาจเป็นเรื่องภายในของกระทรวงศึกษาธิการ เพราะโรงเรียนที่เกิดเหตุอยู่ในเขตพื้นที่การศึกษาเดียวกัน และ 4. เป็นการสร้างสถานการณ์ ของมือที่ 3 โดยยังไม่มีการสรุปว่าเป็นเรื่องใด แต่ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับสถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่างไรก็ตาม มีข่าวลือว่าอาจเกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ เร็วๆนี้ด้วย

พล.ท.พลางกูร กล้าหาญ โฆษก คปค. กล่าวว่า ขออย่าให้พี่น้องประชาชนตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้รับผิดชอบในพื้นที่ทั้งตำรวจและแม่ทัพน้อยที่ 3 ได้ ติดตามรายละเอียดแล้ว อย่าไปสันนิษฐาน ต้องรอกระบวน การของเจ้าหน้าที่ในการสืบสวนสอบสวนออกมาว่าสาเหตุ คืออะไร การนำเสนอว่าน่าจะเป็นเรื่องทางการเมืองหรือการแสดงความรู้สึกที่ไม่เห็นด้วย ขอให้ใช้วิจารณญาณที่เหมาะสม เพราะเหตุสามารถเกิดได้ตลอดเวลา อย่างกรณีใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็มีทั้งสาเหตุเรื่องส่วนตัวจากผู้ก่อความไม่สงบ ในกรณีนี้ก็เช่นกัน ผู้ที่รับผิดชอบควรตรวจสอบทำความจริงให้ปรากฏ สิ่งสำคัญที่สุดพี่น้องประชาชนทุกท่านเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ต้องการเห็นความสงบสุขของบ้านเมือง

"บ้านจันทิมา เสียหาย 1 แสนบาท"


โฆษก คปค.กล่าวต่อไปว่า อย่าเพิ่งไปพาดพิงบุคคลที่สาม เพราะลักษณะเช่นนี้ใครๆก็ทำได้ เพียงแต่ ขอให้มีความชัดเจนจากเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบเรื่องนี้ ถ้าเราพาดพิงบุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นการกล่าวหาถือว่าไม่เหมาะสม เมื่อถามว่า มีมูลเหตุจากคนที่มีความคิดที่ไม่ตรงกันใช่หรือไม่ พล.ท.พลางกูรตอบว่า อย่าเพิ่งสันนิษฐานไปถึงจุดนั้น แต่ที่เรียนว่า ณ จุดใดก็ตามที่เกิดเหตุ ขอให้เจ้าที่ที่ดูแลรับผิดชอบเร่งหาหลักฐานและสืบสวนทำความจริงให้ปรากฏ ถึงเวลาจะได้ชี้แจงว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความขัดแย้งทางด้านใด

นางพรนิภา ลิมปพยอม เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า ได้รับรายงานจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) กำแพงเพชร เขต 1 ว่าโรงเรียนที่ถูกลอบวางเพลิงเป็นโรงเรียนในสังกัด สพท.กำแพงเพชร เขต 1 ทั้งหมด คือ ร.ร.บ้านบึงลูกนก อ.พรานกระต่าย อาคารเรียนไม้ 1 ชั้น ขนาด 2 ห้องเรียน ได้รับความเสียหายทั้งหลัง ประเมินความเสียหาย 50,000 บาท ร.ร.บ้านช่องลม อ.ลานกระบือ อาคารเรียนไม้ 1 ชั้น ขนาด 4 ห้องเรียน ได้รับความเสียหายทั้งหลัง ประเมินความเสียหาย 200,000 บาท ร.ร.บ้านจันทิมา อ.ลานกระบือ อาคารเรียนไม้ 1 ชั้น ขนาด 4 ห้องเรียน ได้รับความเสียหายทั้งหลัง ประเมินความเสียหาย 100,000 บาท โดยไม่มีครูหรือเด็กนักเรียนได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขณะนี้ได้จัดสถานที่เรียนรองรับไว้แล้ว

"อยู่ในช่วงสอบต้องเร่งช่วยเหลือ"


นางพรนิภากล่าวต่อไปว่า คาดว่าเหตุการณ์ไฟไหม้ โรงเรียนเป็นการลอบวางเพลิง ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด เพราะถ้าเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ที่ จ.เชียงใหม่ หรือที่ จ.บุรีรัมย์ อาจจะนำไปเชื่อมโยงกับเรื่องการเมืองได้ อย่างไรก็ตาม จะทำหนังสือเวียนแจ้งไปยัง สพท.ทั่วประเทศว่า ในช่วงที่สถานการณ์ทางการเมืองยังไม่นิ่ง ให้แต่ละ สพท.คอยดูแลโรงเรียนในสังกัดเป็นพิเศษ แม้จะอยู่ในช่วงปิดภาคเรียน รวมไปถึงการชุมนุมของครูและการระวังเหตุก่อการร้ายด้วย

นายสมเกียรติ บุญรอด ผอ.สพท.กำแพงเพชรเขต 1 เปิดเผยว่า สาเหตุเบื้องต้นคาดว่าเกิดจากผู้ไม่หวังดี วางเพลิงสร้างสถานการณ์ ได้สั่งการให้ ผอ.โรงเรียนแต่ละแห่งจัดหาสถานที่ในการเรียนการสอนใหม่ และที่สำคัญขณะนี้อยู่ในช่วงการสอบปลายภาคเรียนที่ 1 จึงต้องเร่งให้ความช่วยเหลือ ทั้งนี้ ในส่วนของอาคารเรียนที่ถูกเพลิงไหม้ได้รายงานรายละเอียดให้กับ สพฐ.ทราบแล้ว เพื่อจัดสรรงบประมาณช่วยเหลือต่อไป

"ขอร้องอย่าเอาโรงเรียนเป็นเครื่องมือ"


นายสุรินทร์ อินทรักษา เลขาธิการสมาพันธ์ครูภาคเหนือ และเลขาธิการสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ได้ประสานงานองค์กรสมาพันธ์สมาคมครูทั้ง 4 ภูมิภาค เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน จ.กำแพงเพชร และให้องค์กรครูกำแพงเพชรสรุปสถานการณ์ทั้งหมดรายงานให้ทางสมาพันธ์ฯทราบ หากมีความชัดเจนแล้วจะได้ออกแถลงการณ์จุดยืนของสมาพันธ์ฯ ไม่ว่าจะเป็นการกระทำต่อรัฐหรือต่อประเทศทุกครั้ง กลุ่มผู้กระทำมักเอาโรงเรียนเป็นฐาน ทำให้นักเรียน ครู และชาวบ้านที่ไม่รู้เรื่อง ต้องเดือดร้อนไปด้วย

จึงอยากเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่คิดก่อการ อย่าเอาโรงเรียนและเด็กเป็นเครื่องมือทำร้ายกันและกัน นอกจากนี้ จะได้ออกแถลงการณ์ให้ กำลังใจคณะครูและโรงเรียนใน จ.กำแพงเพชร ที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำของผู้ไม่ประสงค์ดี และเป็นกำลังใจให้ทุกฝ่ายร่วมมือแก้ไขปัญหาของประเทศ ลดความแตกแยก และในวันที่ 28 ก.ย. จะประสานงานกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครู และบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เพื่อนัดหมายไปเยี่ยมโรงเรียนที่ถูกลอบวางเพลิงใน จ.กำแพงเพชร ต่อไป

"ลอบวางเพลิงไม่น่าเกี่ยวยึดอำนาจ"


ด้านนายขจรศักดิ์ อินทพงษ์ นายก อบต.ห้วยยั้ง จ.กำแพงเพชร ฐานะผู้แทน อบต.จังหวัดกำแพงเพชร กล่าวถึงกระแสข่าวว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เป็นผู้ลอบวางเพลิงโรงเรียนทั้ง 3 แห่ง เพื่อประท้วงการเข้ายึดอำนาจของ คปค.ว่า ไม่ทราบว่าเป็นฝีมือใคร แต่ ไม่ใช่ฝีมือ อปท.แน่นอน เชื่อว่าเป็นฝีมือของบุคคลที่สามที่ต้องการเข้ามาป่วนเพื่อสร้างสถานการณ์ให้ คปค.เข้าใจผิด อปท. ยืนยันว่าการยึดอำนาจของ คปค. ในส่วนของ อปท.ไม่ได้ต่อต้าน

และได้พูดคุยในกลุ่มกันบ้างแล้วยังเห็นด้วยกับการทำรัฐประหาร อย่างไรก็ตาม ที่ คปค.สั่งการให้นายก อบต.จังหวัดกำแพงเพชร ทั้ง 76 คน เข้ารายงานตัวต่อแม่ทัพภาค 3 จ.พิษณุโลก ในวันที่ 28 ก.ย. นั้น คงเป็นการเรียกไปฟังคำชี้แจงในการเข้ายึดอำนาจของ คปค. ไม่น่าจะเกี่ยวโยงกับเหตุการณ์โรงเรียนถูกลอบวางเพลิง


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์