แจ้งจับ 2 แพทย์หญิงราช วิถี ทำลูกชายพิการ แม่อุ้มลูกวัยขวบครึ่งโร่ขึ้นโรงพักพญาไท
แจ้งความเอาผิดหลังป่วยเป็นลิ่มเลือดอุดตันที่ต้นขาซ้าย หมอให้ยามากิน ขณะที่กำลังตั้งครรภ์ พอไปอัลตราซาวด์พบลูกผิดปกติตั้งแต่ในครรภ์แต่หมอไม่ได้สนใจ จนลูกคลอดออกมาผิดปกติ หายใจเองไม่ได้ กะโหลกปิดไม่สนิท ตาบอด หูหนวก เคยไปขอพบกลับให้น.ศ.แพทย์มาหาและสอบถามข้อมูล แต่ไม่เคยพบหมอทั้งสองคนเลย
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 ธ.ค. น.ส.ภิญญา วาส โยธี อายุ 33 ปี อดีตแม่บ้านบริษัท แมพพ้อยท์เอเชีย จำกัด
อยู่บ้านเลขที่ 73/4 ซ.ราชปรารภ ถ.ราชปรารภ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี นำด.ช.เชาวรินทร์ อ่องประเสริฐ หรือ น้องแชมป์ อายุ 1 ขวบ 5 เดือน พร้อมด้วย นายไพฑูรย์ ศิริพัฒน์ อายุ 32 ปี ทนายความประจำเครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.เกษม พิพิธกุล ร้อยเวรสน.พญาไท ให้ดำเนินคดีกับแพทย์โรงพยาบาลราชวิถี 2 คน ที่รักษาโรคลิ่มเลือด ในข้อหาทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ลูกชายที่เกิดมาต้องพิการไปตลอดชีวิต
น.ส.ภิญญาวาสกล่าวว่า ตนป่วยเป็นโรคลิ่มเลือดอุดตันในเส้นเลือดที่ขาซ้าย ได้รับการรักษาที่ร.พ.มิชชั่น ตามสิทธิประกันสังคม
โดยแพทย์ได้ให้รับประทานยาวอฟาริน ซึ่งเป็นยาละลายลิ่มเลือดอย่างต่อเนื่อง ต่อมาเมื่อเดือนพ.ย.2550 ตนตั้งครรภ์น้องแชมป์ ทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวไปรักษาต่อที่ร.พ.ราชวิถี เพื่อฝากครรภ์และรักษาโรคลิ่มเลือดควบคู่กันไป โดยแพทย์ที่ทำการรักษาที่ร.พ.มิชชั่นให้คำแนะนำว่า ควรเปลี่ยนยาจากกินเป็นยาฉีดแทน เนื่องจากการกินยาชนิดนี้ระหว่างการตั้งครรภ์อาจมีผลกระทบต่อเด็ก
แจ้งเอาผิด2พ.ญ. ให้ยาทำลูกพิการ
ต่อมาเมื่อทำอัลตราซาวด์พบว่า เด็กผิดปกติ มีเลือดออกที่เนื้อสมองเด็ก โดยเป็นผลกระทบมาจากยาวอฟารินที่แพทย์สั่งให้ทาน
ตนจึงติดต่อไปยังแพทย์ที่รักษาโรคลิ่มเลือด แต่กลับไม่ได้รับความสนใจ โดยให้นักศึกษาแพทย์มาสอบถามข้อมูลไปเท่านั้น แถมยังสั่งยาตัวที่มีปัญหามาให้ทานอีก จนกระทั่งน้องแชมป์คลอดออกมาก็มีอาการผิดปกติคือ ไม่สามารถหายใจเองได้ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ กะโหลกปิดไม่สนิท มีเลือดออกที่เนื้อสมอง และเนื้อสมองเหลือน้อยมาก ปัจจุบันน้องแชมป์อายุได้ 1 ขวบ 5 เดือน ตามองไม่เห็น หูก็ไม่ได้ยินเสียงทั้ง 2 ข้าง ไม่มีพัฒนาการใดๆ เปรียบเสมือนก้อนเนื้อที่มีชีวิตเท่านั้น จึงมาร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีอาญากับทางสูตินรีแพทย์ของร.พ.ราชวิถีที่ตนฝากครรภ์ด้วย และแพทย์หญิงอีกคน ที่ทำการรักษาโรคลิ่มเลือด โดยตลอดเวลาที่ผ่านมาตนไม่เคยพบแพทย์หญิงดังกล่าวเลย
น.ส.ภิญญาวาสกล่าวด้วยว่า เมื่อปี 2545 ตนเคยมาคลอดลูก ขณะนั้นเด็กไม่กลับหัว ตนได้แจ้งให้แพทย์ทราบและขอให้ผ่าตัดด่วน
แต่ทางแพทย์กลับไม่ยอมและยืนยันให้คลอดด้วยตนเอง โดยระหว่างที่นอนรอคลอด ทางแพทย์ได้นำนักศึกษาแพทย์มาดูเป็นจำนวนมาก จนกระทั่งตนปวดท้องมาก จึงแจ้งกับแพทย์อีกครั้ง และแพทย์ได้ผ่าตัด แต่ปรากฏว่าลูกของตนเสียชีวิตเนื่องจากการขาดอากาศหายใจ ซึ่งครั้งนั้นทางโรงพยาบาลยอมรับผิด จนกระทั่งมาเกิดเรื่องครั้งนี้ขึ้นอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนข้อเท็จจริงทางฝ่ายผู้ร้องเรียนเอาไว้
และจะต้องสอบปากคำแพทย์ที่ถูกแจ้งความดำเนินคดี ก่อนจะส่งเรื่องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ เช่น แพทยสภา ให้ตรวจสอบขั้นตอนการรักษาของแพทย์ทั้ง 2 รายว่า เป็นการรักษาตามมาตรฐานปกติหรือเป็นความประมาทเลินเล่อหรือไม่ ก่อนจะสรุปสำนวนต่อไป