จ่อฆ่าเสี่ยดังนครฯ

มือปืนเบนซ์บุกจ่อยิงฆ่าโหดเสี่ยรับเหมา ใช้ปืน .357 ถล่มอุกอาจหน้าแบงก์กลางเมืองคอนหลังจากเบิกเงินนับแสนบาทจากธนาคาร

ตร. ตรวจสอบพบเป็นรถนายก อบต.ขุนทะเล เรียกสอบทันทีแต่ยังให้การปฏิเสธ อ้างช่วงเกิดเหตุอยู่ในงานศพ ในขณะที่พยานช่วยยืนยัน แต่จากการสอบสวนระบุพบผู้ตายมีความขัดแย้งกับกลุ่มนายก อบต.จนถูกยิงมาแล้วแต่รอดชีวิตมาได้และคดียังอยู่ชั้นศาล ก่อนที่จะถูกตามฆ่าอีกครั้งจนเสียชีวิต

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 14 ธ.ค. ร.ต.ท.มนตรี วรรณคง ร้อยเวร สภ.เมืองนครศรีธรรมราช

รับแจ้งเหตุยิงกันตายที่ถนนหน้าธนาคารกรุงไทย สาขาตลาดหัวอิฐ ถ.กะโรม ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ภูดิศ นรสิงห์ ผกก. พ.ต.ท.ศิรพงศ์ โพธิ์พัฒน์ รองผกก.สส. พ.ต.ท.วินัย คงประพันธ์ พ.ต.ท.สมใจ บุญมรกต สว.สส. นำกำลังชุดสืบสวน และแพทย์เวร ร.พ.มหาราช และมูลนิธิประชาร่วมใจรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบศพ นายพเชิญ สุขสวัสดิ์ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 156 หมู่ 10 ต.ขุนทะเล อ.ลานสะกา จ.นครศรีธรรมราช

นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ใน อ.ลานสกา นอนจมกองเลือดอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตแขนสั้น กางเกงยีนส์ขายาว มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนขนาด .357 เข้าที่ศีรษะหลายนัด กะโหลกแตกมันสมองกระจาย ในตัวพบเงิน สดหลายแสนบาท สลิปเบิกเงินจากธนาคารกรุงไทย ที่อยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ ปฏิทินปี 2553 ที่เพิ่งได้รับแจกจากธนาคาร โทรศัพท์มือถือ กุญแจรถ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ห่างไปเล็กน้อยเป็นรถยนต์กระบะโตโยต้าสีเขียว ของผู้ตาย หมายเลขทะเบียน บท 929 สงขลา ติดป้ายทะเบียนเฉพาะด้านหน้ารถ ภายในรถพบเอกสารต่างๆ จำนวนหนึ่ง

และใบ ป.3 หรือใบอนุญาตให้ซื้ออาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ผู้ตาย นอกจากนั้น ยังพบหัวกระสุนตะกั่วหุ้มทองแดงขนาด .357 จำนวน 1 หัว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นพยานที่เห็นเหตุการณ์ระบุว่า รถคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นรถเบนซ์ สีดำ หมายเลขทะเบียน วษ 3786 กรุงเทพมหานคร หลังจากคนร้ายก่อเหตุแล้วขึ้นรถคันนี้หลบหนีไปในตัวเมือง ก่อนหายไปอย่างไร้ร่องรอย ต่อมาเจ้าหน้า ที่ตรวจสอบสารบบทะเบียนรถยนต์ พบว่ารถคันดังกล่าวเป็นของนายโสภณ พรหมแก้ว นายก อบต. ขุนทะเล อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้า ที่จึงติดตามเข้าตรวจสอบตัวบุคคลและรถที่ อ.ลานสกา ทันที และพบว่านายโสภณกำลังขับรถยนต์คันที่ได้รับการยืนยันจากพยานกลับบ้านพัก เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวมาสอบสวนในเวลาต่อมา

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่นายพเชิญเดินออกจากธนาคารกรุงไทยมาที่รถกระบะ มีคนร้ายขับรถเบนซ์คันดังกล่าวมาจอด ที่ท้ายรถกระบะ

ก่อนจะเรียกให้ผู้ตายมายืนคุย กัน จากนั้นคนร้ายซึ่งมีลักษณะเป็นคนรูปร่างเล็ก ศีรษะเถิก ใช้ปืนยิงใส่ลำตัวนายพเชิญ 1 นัดจนทรุดลง จากนั้นยิงซ้ำไปที่ศีรษะอีกหลายนัด จนนายพเชิญเสียชีวิตคาที่ แล้วคนร้ายก็ขึ้นรถยนต์เก๋งเบนซ์หลบหนีไปทันที

พ.ต.อ.ภูดิส นรสิงห์ ผกก.สภ.เมืองนครศรี ธรรมราช กล่าวว่า จากการสอบปากคำนายโสภณยังให้การปฏิเสธว่าไม่รู้เห็นกับเหตุการณ์ ดังกล่าว

โดยระบุว่าช่วงเกิดเหตุนั้น กำลังร่วมงานศพของคนในหมู่บ้าน ซึ่งมีพยานสามารถยันยืนได้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำประจักษ์พยานที่เห็นเหตุการณ์มาดูตัวนายโสภณแล้ว ยืนยันว่าคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุไม่ใช่นายโสภณ อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่านายพเชิญมีเรื่องขัดแย้งอย่างรุนแรง กับคนใกล้ชิดคนหนึ่งของนายโสภณ ในคดีที่คนใกล้ชิดรายนี้มีเรื่องราวถึงขั้นยิงนายพเชิญมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนั้นนายพเชิญแค่ได้รับบาดเจ็บ และขณะนี้เรื่องยังอยู่ในชั้นพิจารณาของศาลนครศรีธรรม ราช ยังไม่เสร็จสิ้น ก่อนจะถูกคนร้ายตามยิงจนเสียชีวิตอย่างอุกอาจดังกล่าว ซึ่งต้องสอบสวนต่อไปว่า ในช่วงเกิดเหตุมีใครยืมรถเก๋งคันดังกล่าวไปใช้หรือไม่ หรือจอดรถทิ้งไว้แล้วใครนำไปใช้หรือไม่

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่านาย พเชิญ

นอกจากจะทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างแล้ว ยังทำธุรกิจบางอย่างที่กำลังถูกเจ้าหน้าที่จับตาอยู่ และคดีนี้ทาง พล.ต.ท.พิทักษ์ จารุสมบัติ ผบช. ภาค 8 ได้รับรายงานจึงเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์บินด่วนจากบช.ภาค 8 สุราษฎร์ธานี มายังสภ. เมืองนครศรีธรรมราช มาสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องในคดีนี้ด้วยตัวเอง